1 ในบทความเด่น ได้แก่ รายงานพิเศษพยากรณ์ทิศทางความก้าวหน้าวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ
ประกอบด้วยการแพทย์ การบิน อวกาศ สิ่งแวดล้อม นวัต กรรมเพื่อความบันเทิง
รวมถึงการประเมินแนวโน้มเทคโนโลยี "พลังงานเชื้อเพลิงและรถยนต์" ในอนาคต ซึ่งกองบรรณาธิการป๊อปปูลาร์ ไซเอินซ์ บอกไว้ดังนี้
1. ผู้ผลิตรถยนต์ระดับขาใหญ่ของวงการจะหันมาทุ่มเทพัฒนาและจำหน่าย "รถยนต์พลังไฟฟ้า" มากขึ้น ทั้งไฟฟ้าลูกผสม (กับน้ำมัน) และไฟฟ้าล้วนๆ
ยกตัวอย่างเช่น รถรุ่น "โวลต์" ของค่ายจีเอ็ม/เชฟโรเลต ที่ซุ่มพัฒนามาหลายปี กระทั่งข่าวล่าสุดระบุว่า จีเอ็มจะเริ่มเดินเครื่องสายพานการผลิต "โวลต์" ในช่วงฤดูหนาว
จุดเด่น คือแบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อนในตัวรถ เมื่อประจุไฟเต็มที่จะวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าไปได้ 64-65 กิโลเมตร จากนั้นสมองกลคอมพิวเตอร์ในรถจะเปลี่ยนหรือตัดเข้าสู่ระบบน้ำมันดีเซล
ราคาขายในสหรัฐเบื้องต้นทราบว่าเคาะอยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.4 ล้าน
แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนทางภาษีจากรัฐบาลกลางราคาจะลดลงได้อีกเกือบ 3 แสนบาท
ขณะเดียวกันค่าย "นิสสัน" จากญี่ปุ่น ก็รถยนต์ไฟฟ้า รุ่น "เดอะลีฟ" ลงมาสู้ศึก มีจุดแข็งตรงแบตเตอรี่ลูกใหญ่กว่า จึงวิ่งได้ไกล 160 กิโลเมตร/การประจุไฟเต็ม 1 ครั้ง
2. กระแสอื่นๆ ด้านเทคโนโลยีรถยนต์ "ป๊อปปูลาร์ ไซเอินซ์" เผยว่า บริษัทเดลต้ามอเตอร์ส สปอร์ต กำลังพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งตรง แชสซี" จะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้คอยขับเคลื่อนล้อ เมื่อรถวิ่งไปก็ชาร์จไฟเก็บไว้ใช้ตามไปด้วย
ส่วนบริษัท โกเมกซิส ประเทศเนเธอร์แลนด์ อยู่ระหว่างทดลองทำให้ "รถยนต์ติดแก๊ซธรรมชาติ" ทำความเร็วสูงกว่าเดิม นั่นคือ เพิ่มเกียร์เข้าไปบนตำแหน่ง เพลาข้อเหวี่ยง หรือ crancksharp
ด้านกลุ่มทีม ยูแอลวี-3 ในรัฐมินเนโซตา สหรัฐ ก็ทดลองระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมรถ ที่สั่งหยุดการทำงานของ "กระบอกสูบ" บางตัวยามรถมีน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดน้ำมันไปในตัว
นอกจากนั้นคาดว่า ตัวรถรถยนต์ประเภททำจากเหล็กล้วนๆ...จะถูกเปลี่ยนมาใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีน้ำหนักเบา แต่คุณสมบัติช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี และลดความเสียหายจากอุบัติเหตุ
จากคอลัมน์ หมุนก่อนโลก
วิทยา ผาสุก wittayapasuk@hotmail.com