การศึกษาวิจัยในครั้ง ได้ทำการทดลองตามแบบแผนการวิจัยเชิงทดลองจริง โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้ 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต หลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ และ 5) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต หลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ประจำภาคเรียนที่ 2 ในปีการศึกษา 2550 จำนวน 2 ห้องเรียน โดยใช้เทคนิคการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลากเลือกได้ดังนี้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 เป็นกลุ่มทดลอง จัดการเรียนการสอนโดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT จำนวน 38 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/5 เป็นกลุ่มควบคุม จัดการเรียนการสอนโดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ จำนวน 38 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และแบบปกติ 2) แบบทดสอบย่อยประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 - 12 จำนวน 12 ฉบับ รวมทั้งสิ้น จำนวน 120 ข้อ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยใช้ข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ จำนวน 30 ข้อ โดยมีค่าความเชื่อมั่น (Alpha) ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.88 และ 3) แบบวัดเจตคติต่อการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต หลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT โดยข้อคำถามมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ตามวิธีของลิเคิร์ท (Likert) จำนวน 24 ข้อโดยมีค่าความเชื่อมั่น (Alpha) ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85
ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.02/84.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
2. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 80.22 /81.14 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT มีค่าเท่ากับ 0.7195 หมายถึง ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 71.95
4. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ มีค่าเท่ากับ 0.6697 หมายถึง ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 66.97
5. นักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
6. นักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
7. นักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต หลังเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
8. นักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT มีเจตคติต่อการเรียนหลังเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.03, S.D. = 0.36) และนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ มีเจตคติต่อการเรียนหลังเรียน อยู่ในระดับมาก ( =3.68, S.D. = 0.47) โดยนักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT มีเจตคติต่อการเรียนหลังเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนรู้โดยวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบปกติ อย่างมีนัย สำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01