ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กทม. ร่วมกับมูลนิธิเอเชีย ชูประเด็น "การอ่านในเด็กปฐมวัย" นำ 4 โรงเรียน เสริมทักษะผ่านนิทานและการเล่น


งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม 23 ธ.ค. 2567 (20:55 น.) เปิดอ่าน : 30 ครั้ง
Advertisement

กทม. ร่วมกับมูลนิธิเอเชีย ชูประเด็น "การอ่านในเด็กปฐมวัย" นำ 4 โรงเรียน เสริมทักษะผ่านนิทานและการเล่น

Advertisement

เมื่อเร็วๆ นี้ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มาเป็นประธาน ในพิธีเปิดงานเทศกาลรักการอ่านผ่านนิทานและการเล่น (Let’s Read and Play’s Reading Festival 2024) ตอนเปิดประตูสู่โลกนิทานมหัศจรรย์กับคุณหนูและผองเพื่อนสัตว์น่ารัก ที่ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย (ประถมศึกษา) เขตสายไหม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมการอ่านในเด็กปฐมวัยผ่านนิทานและการเล่น จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยมูลนิธิเอเชีย ประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือของสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และเหล่าพันธมิตร ซึ่งในปี 2567 ได้ขยายโครงการฯ ไปใน 4 โรงเรียนของ กทม. จำนวนกว่า 914 ครอบครัว, มีการจัดทำหนังสือนิทานภาษาไทยจำนวน 20 เล่ม เพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ความเป็นไทย และการออกแบบฟีเจอร์ใหม่ในแอพพลิเคชัน Let’s Read ชื่อ Learning Pathway เพื่อส่งเสริมการอ่าน และทำกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครองให้ง่ายยิ่งขึ้น

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวว่า “การอ่านเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษา โดยในปี 2567 ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้เน้นใน 2 เรื่อง คือการศึกษากับสาธารณสุข โดยในด้านการศึกษาได้มีการส่งเสริมทั้งในทั้งเรื่องเทคโนโลยี, สื่อการเรียนการสอน และการพัฒนาคุณครู โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดและปฐมวัย ได้มีการเปิดโรงเรียนอนุบาล 3 ขวบ ที่ทำให้เด็กเข้าโรงเรียนได้เร็วขึ้น สำหรับเรื่องการอ่านนั้น กทม.ได้มีนโยบายให้เด็กมีหนังสือเล่มแรก โดยผ่านสำนักการแพทย์ เป็นหนังสือ 3 เล่ม เพื่อใช้เป็นคู่มือให้พ่อแม่ว่าจะสอนลูกอ่านได้อย่างไร รวมถึงมีห้องสมุดในโรงเรียนเพื่อให้เด็กได้อ่านหนังสือร่วมกับพ่อแม่ ซึ่งจะทำเด็กใน กทม. ได้พัฒนามากขึ้น หัวใจสำคัญคือทุกวันนี้หนังสือมีราคาแพง ทำให้พ่อแม่อาจจะซื้อไม่ได้ทุกคน ดังนั้นการมีห้องสมุดสาธารณะก็จะทำให้เด็กเข้าถึงการอ่านได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อมีการวัดผลคะแนน PISA ตอนเด็กอายุ 15 ปี จะเห็นว่ามีสกิลสำคัญอยู่ 3 เรื่องคือภาษาอังกฤษ, วิทยาศาสตร์ และการอ่าน โดยการอ่านถือว่าเป็นรากฐานของทุกเรื่อง ซึ่งการจัดงานครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้เด็กรักการอ่าน และพัฒนาความรู้ในมิติอื่นๆ รวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่พ่อแม่จะมีปฎิสัมพันธ์กับลูกมากที่สุดคือตอนอ่านนิทาน”

ด้าน น.ส.วรจรรย์ เนียมทรัพย์ ผู้จัดการโครงการ Let’s Read and Play มูลนิธิเอเชีย ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ Let’s Read and Play จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านในเด็กปฐมวัยผ่านนิทานและการเล่น โดยเมื่อปี 2566 ได้ทดลองนำร่องที่ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย (ประถมศึกษา) เขตสายไหม โดยมี รศ.ดร.อรพรรณ บุตรกตัญญู ผู้เชี่ยวชาญด้านปฐมวัยศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และคณะทำงาน ได้คัดเลือกนิทานที่มีเนื้อหาสอดคล้อง กับสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2560 มาออกแบบ เน้นการสอนแบบสมดุลภาษาที่ผสมผสานการเรียนรู้ภาษาตามธรรมชาติ และการสะกดคำที่เหมาะสมตามช่วงวัย บูรณาการกับ STEM และ STEAM เพื่อส่งเสริมการรู้ภาษาและคณิตศาสตร์ขั้นเริ่มต้น (Early Literacy) และทักษะการบริหารจัดการทางสมองสู่ชีวิตที่สำเร็จ (EF) รวมทั้งแนวคิดเรื่องความหลากหลาย (Diversity) เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้พัฒนาทักษะรอบด้านทั้งจากที่โรงเรียนและที่บ้าน โดยมีนักเรียนเข้าร่วม 271 คน ปรากฎผลว่าเด็กมีพัฒนาการเรียนรู้สูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งทางด้านนิสัยรักการอ่าน การเรียนรู้ทางภาษาอย่างมีความหมาย การรู้จักและจดจำตัวอักษร เสียง และคำศัพท์ที่นำไปสู่ความสามารถในการอ่าน รวมถึงทักษะคณิตศาสตร์ขั้นเริ่มต้น มีความถี่และระยะเวลาอ่านหนังสือที่บ้านระหว่างเด็กและผู้ปกครองเพิ่มขึ้น

จากความสำเร็จดังกล่าวฯ ในปี 2567 ทางมูลนิธิการศึกษา แวนลีอูเวน ประเทศเนเธอร์แลนด์ จึงได้มอบทุนสนับสนุนร่วมกับบริษัท โนมูระ สิงคโปร์ จำกัด เพื่อต่อยอดการจัดทำโครงการฯ เพิ่มขึ้นใน 4 โรงเรียน ได้แก่ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย เขตสายไหม, รร.เพชรถนอม เขตลาดพร้าว, รร.คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และ รร.วัดคู้บอน เขตคลองสามวา มีผู้เข้าร่วม 914 ครอบครัว, มีการจัดทำนิทานภาษาไทยจำนวน 20 เล่ม เพื่อใช้ในโครงการฯ และเผยแพร่อัตลักษณ์ความเป็นไทย รวมถึงออกแบบฟีเจอร์ใหม่ในแอพพลิเคชัน Let’s Read ชื่อ Learning Pathway ที่ทำให้เด็กและผู้ปกครองได้อ่านนิทานและทำกิจกรรมร่วมกันได้ง่ายขึ้น”

สำหรับมูลนิธิเอเชีย เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหากำไร ที่ผ่านมาได้จัดพิมพ์หนังสือเพื่อเด็กปฐมวัยและพัฒนาห้องสมุดนิทานดิจิทัล Let’s Read ซึ่งปัจจุบันมีนิทานหลากหลายกว่า 10,000 เรื่อง ใน 59 ภาษา ให้เด็กหลายล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก ได้อ่านฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผู้สนใจสามารถคลิกไปที่ www.Letsreadasia.org หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้จาก Google Play ในแอนดรอยด์ และ App Store ในระบบ iOS หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 062-7341267 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6


กทม. ร่วมกับมูลนิธิเอเชีย ชูประเด็น "การอ่านในเด็กปฐมวัย" นำ 4 โรงเรียน เสริมทักษะผ่านนิทานและการเล่นกทม.ร่วมกับมูลนิธิเอเชียชูประเด็นการอ่านในเด็กปฐมวัยนำ4โรงเรียนเสริมทักษะผ่านนิทานและการเล่น

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

คลอดหลักสูตร “เทรนครู” (TrainKru) ติดอาวุธครูไทยเพื่อการศึกษาในศตวรรษที่ 21

คลอดหลักสูตร “เทรนครู” (TrainKru) ติดอาวุธครูไทยเพื่อการศึกษาในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 12,593 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
กระทรวงศึกษาฯ นำระบบประเมินวิทยฐานะดิจิทัล และจับคู่ครูคืนถิ่น คว้า 2 รางวัล จากงาน Thailand HR Innovation Award 2024
กระทรวงศึกษาฯ นำระบบประเมินวิทยฐานะดิจิทัล และจับคู่ครูคืนถิ่น คว้า 2 รางวัล จากงาน Thailand HR Innovation Award 2024
เปิดอ่าน 221 ☕ คลิกอ่านเลย

เพราะครูคือหัวใจสำคัญของการสร้างอนาคตเด็กไทย
เพราะครูคือหัวใจสำคัญของการสร้างอนาคตเด็กไทย
เปิดอ่าน 434 ☕ คลิกอ่านเลย

เจาะแนวคิด Learn to Earn ในงานด้านศิลปะ ผ่านมุมมองของรุ่นพี่ยุวศิลปินไทย ผู้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่เลือกแล้ว
เจาะแนวคิด Learn to Earn ในงานด้านศิลปะ ผ่านมุมมองของรุ่นพี่ยุวศิลปินไทย ผู้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่เลือกแล้ว
เปิดอ่าน 289 ☕ คลิกอ่านเลย

สวธ. ประกาศผลประกวดบอร์ดเกมเล่าเรื่องราว กทม. เผยเป็น Soft Power ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เตรียมนำไปแสดงที่เยอรมัน ในปี 68
สวธ. ประกาศผลประกวดบอร์ดเกมเล่าเรื่องราว กทม. เผยเป็น Soft Power ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เตรียมนำไปแสดงที่เยอรมัน ในปี 68
เปิดอ่าน 182 ☕ คลิกอ่านเลย

"สหพัฒน์แอดมิชชั่น" ส่งท้าย DEK68 ก่อนลงสนามสอบจริง ชวนไขทุกปัญหาคาใจกับกิจกรรมถามตอบโค้งสุดท้าย
"สหพัฒน์แอดมิชชั่น" ส่งท้าย DEK68 ก่อนลงสนามสอบจริง ชวนไขทุกปัญหาคาใจกับกิจกรรมถามตอบโค้งสุดท้าย
เปิดอ่าน 502 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท
เปิดอ่าน 14,379 ครั้ง

สมุนไพรช่วยลดไตรกลีเซอไรด์
สมุนไพรช่วยลดไตรกลีเซอไรด์
เปิดอ่าน 63,504 ครั้ง

ศัพท์บัญญัติการศึกษา
ศัพท์บัญญัติการศึกษา
เปิดอ่าน 50,952 ครั้ง

พระพิฆเนศ
พระพิฆเนศ
เปิดอ่าน 28,900 ครั้ง

แบบคำขอให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ (เกณฑ์ใหม่ มีผล 1 ต.ค.51)
แบบคำขอให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ (เกณฑ์ใหม่ มีผล 1 ต.ค.51)
เปิดอ่าน 32,090 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ