- มีสมาชิกเป็นครู ที่หน่วยงานต้นสังกัดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอ/จังหวัดเดียวกัน จำนวนตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปรวมตัวกัน และมีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
- มีคณะกรรมการบริหาร
- มีระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน กำหนดเงื่อนไขการเป็นสมาชิก และการพ้นสภาพการเป็นสมาชิกของกลุ่มใหญ่อย่างชัดเจน
- มีเงินกองทุนสำรองภายในกลุ่มจากการออมร่วมกันของสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน
- มีแนวทาง/มาตรการ/วิธีการ/โครงการ/แผนงานในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกในกลุ่มให้ดีขึ้น
- ทั้งนี้ สมาชิกออมเงินสัจจะเข้ากองทุนสำรองของกลุ่มใหญ่ จำนวนเท่ากันทุกเดือน โดยมีการจัดทำทะเบียนคุมการรับฝากของสมาชิก
- เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
- เป็นสมาชิกในกลุ่มที่สมัครเป็นสมาชิกโครงการกับธนาคาร
- มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้อายุผู้กู้ต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลา ดังนี้
- ไม่เกิน 65 ปี หรือ
- เกิน 65 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี กรณีที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันและมีทายาทที่มีรายได้แน่นอนเป็นผู้กู้ร่วม
- ต้องผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากกระทรวง โดยมีหนังสือผ่านสิทธิจากหน่วยงานต้นสังกัด และเฉพาะครูสังกัดกระทรวงศึกษาธิการต้องแนบหนังสือรับรองจากคณะกรรมการโครงการ
- เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคารออมสิน
- ข้าราชการบำนาญสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ต้องเป็นสมาชิกโครงการอยู่ก่อนการพ้นความเป็นข้าราชการไม่น้อยกว่า 1 ปี
- เพื่อนำไปชำระหนี้สินเดิม ยกเว้น กรณีชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและขอใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัยต่อเนื่องจากสถาบันการเงินเดิม
- เพื่อการลงทุนเสริมเพิ่มอาชีพ โดยมีแผนงานโครงการลงทุนและได้รับการรับรองโครงการจากหน่วยงานต้นสังกัด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
- บุคคลค้ำประกัน ให้กู้ไม่เกิน 3,000,000 บาท
- หลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้กู้ไม่เกิน 5,000,000 บาท
- ทั้งนี้ กรณีกู้บุคคลค้ำประกันร่วมกับหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้กู้ได้ไม่เกิน 5,000,000 บาท
- บุคคลค้ำประกัน ผ่อนชำระไม่เกิน 15 ปี (อายุผู้กู้รวมระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี)
- หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนชำระไม่เกิน 30 ปี (อายุผู้กู้รวมระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี หรือไม่เกิน 70 ปี กรณีมีทายาทกู้ร่วม)
- ให้กำหนดเงินผ่อนชำระไม่เกินร้อยละ 70 ของเงินเดือนที่ได้รับตามบัญชีเงินเดือน (ไม่รวมเงินได้อื่น)
- หน่วยจ่ายเงินเดือนหักเงินเดือน และเงินได้อื่นที่ได้รับจากทางราชการ นำส่งชำระหนี้ให้ธนาคารเป็นรายเดือน
- ธนาคารจะจ่ายเงินสนับสนุนพิเศษให้กลุ่มใหญ่ที่มีการบริหารจัดการกลุ่มที่ดี ในอัตราร้อยละ 1.00 ของยอดเงินต้นคงเหลือ เมื่อธนาคารรับชำระครบ 12 งวด และกลุ่มใหญ่ที่มีคุณสมบัติดังนี้
– สมาชิกออมเงินเข้ากองทุนอย่างสม่ำเสมอ
– เงินกองทุนเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
– สมาชิกทุกรายในกลุ่มใหญ่ชำระหนี้ครบ 12 งวด (ไม่มีหนี้ค้างชำระ)
ดังนี้
- เอกสารส่วนบุคคลของผู้กู้ คู่สมรสของผู้กู้ ผู้ค้ำประกันและคู่สมรสของผู้ค้ำประกัน
– สำเนาบัตรประจำตัว
– สำเนาทะเบียนบ้าน
– สำเนาใบสำคัญการสมรส / ใบสำคัญการหย่า / ใบมรณบัตร (ถ้ามี)
– สำเนาใบสำคัญการจ่ายเงินเดือน
– ต้นฉบับหลักฐานเกี่ยวกับมูลหนี้ เช่น หนังสือรับรองยอดหนี้คงเหลือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ หนังสือรับรองยอดหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงิน ฯลฯ
– โครงการการลงทุนเพื่อประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ (ถ้ามี)
- กรณีใช้ที่ดิน ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
– สำเนาโฉนดที่ดิน/สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
– แผนผังแสดงที่ตั้งที่ดิน
– แบบแปลนอาคาร (ถ้ามี)/ภาพถ่ายอาคารทั้ง 4 ด้าน
– สำเนาสัญญากู้เงิน และสำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดินอันเป็นมูลหนี้จำนองเดิม
– หนังสือรับรองราคาประเมินที่ดินจากกรมที่ดิน
- กรณีใช้หลักทรัพย์อื่นค้ำประกัน
– สำเนาสมุดฝากเงินออมสิน
– สำเนาสลากออมสินพิเศษ
- กรณีผู้กู้ชำระหนี้ทั้งหมดหรือปิดบัญชีใดบัญชีหนึ่ง หรือไถ่ถอนจำนองก่อนครบกำหนดภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันทำสัญญากู้เงิน ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 3.00 ของจำนวนเงินต้นคงเหลือตามสัญญากู้เงิน ยกเว้น การปิดบัญชีหรือไถ่ถอนจำนองเพื่อไปใช้บริการสินเชื่ออื่นของธนาคารออมสิน
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
- ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการให้บริการสินเชื่อ
ที่มา ธนาคารออมสิน