26เม.ย.65- นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูโครงการสร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย ว่า แนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ เราได้ประสานขอความร่วมมือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ 108 แห่ง เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ครูที่เป็นสมาชิก ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั้งสิ้น 70 แห่ง สามารถลดดอกเบี้ยลงได้ระหว่างร้อยละ 0.05-1.0 มีครูที่ได้รับผลประโยชน์ 463,072 ราย สามารถส่งเงินคืนกลับเข้ากระเป๋าคุณครู 2,262 ล้านบาท สร้างการเงินหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ทันที และขณะนี้มีหลายสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่ลดดอกเบี้ยให้ 1 % ทำให้คุณครูมีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเกือบ 15,000 บาท ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตได้เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้สำหรับจำนวนผู้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการจำนวน 41,128 ราย มียอดหนี้รวม 58,835,199,322 บาท นั้น ข้อมูลทั้งหมดได้ส่งต่อให้กับสถานีแก้หนี้ในระดับเขตพื้นที่การศึกษาเป็นที่เรียบร้อย ซี่งผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายสถานีแก้หนี้กำลังวิเคราะห์ข้อมูล และเชิญลูกหนี้รายบุคคลมาหารือถึงแนวทางแก้ไข และพร้อมจะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจา ไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ในแนวทางที่ได้รับความเห็นชอบร่วมกันทั้งของลูกหนี้และเจ้าหนี้ ซึ่งหากสามารถรวมยอดหนี้ของครูรายบุคคลมาไว้ที่แห่งเดียว จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวก และสามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ศธ.ได้เร่งจัดหาแหล่งเงินกู้ผ่านสถาบันการเงินอื่นๆ เพิ่มเติมโดยมีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 1-2 แห่ง ที่มีผลการดำเนินงานที่ดี พร้อมให้เพื่อนสหกรณ์ด้วยกันกู้อีก 200 ล้านบาท และประสานไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินกู้จากสหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย รวมถึงการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อประสานขอรับการสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพิ่มเติม”รมว.ศธ.กล่าว
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า สำหรับการควบคุมการอนุมัติเงินกู้ใหม่ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ยังต้องมีความเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินเข้าสู่ระบบมากขึ้น โดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ยินดีสนับสนุนให้นายสถานีแก้หนี้สามารถประสานติดต่อเพื่อขอตรวจสอบยอดเงินกู้ของครูได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขณะเดียวกัน การอบรมคุณครูเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กัน ซี่งมีเป้าหมายที่จะอบรมครูให้ได้ 100,000 คนในเดือนสิงหาคมนี้ และจะนำหลักสูตรทางการเงินเป็นหลักสูตรหลักสำหรับการพัฒนาบุคลากรครูอีกด้วย ทั้งนี้ ครูที่ได้รับการบรรจุใหม่ในปีการศึกษา 2565 ทุกคนจะต้องได้รับการอบรมหลักสูตรทางการเงินก่อนการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นการปลูกฝังความรู้ความเข้าใจ และระเบียบวินัยทางการเงินตั้งแต่ต้นทาง
“ทั้งนี้ ศธ. มุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคุณครู และบุคลากรทางการศึกษาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณครูสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการเรียนการสอนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูจึงเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและดิฉันเชื่อมั่นว่า หากคุณครูทุกคนได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดข้อกังวลเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือสามารถขจัดให้หมดสิ้นไป ครูจะสามารถใช้เวลาทุ่มเทให้กับการเรียนการสอน เพื่อการพัฒนาลูกหลานและเยาวชนไทยเต็มที่ ให้ครูสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ อย่างน้อยต้องมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซนต์ของเงินเดือน”รมว.ศธ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 26 เมษายน 2565