ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กสศ. โชว์ 4 โครงการสร้างความเสมอภาคการศึกษาไทย ปี 64 ชวนคนไทยบริจาคช่วยเด็กและเยาวชนหลุดออกนอกระบบกลับมาเรียนอีกครั้ง


งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม 10 ธ.ค. 2564 เวลา 07:49 น. เปิดอ่าน : 13,781 ครั้ง
กสศ. โชว์ 4 โครงการสร้างความเสมอภาคการศึกษาไทย ปี 64 ชวนคนไทยบริจาคช่วยเด็กและเยาวชนหลุดออกนอกระบบกลับมาเรียนอีกครั้ง

Advertisement

กรุงเทพฯ 9 ธันวาคม 2564 – กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เดินหน้าสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ชูต้นแบบ 4 โครงการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาไทย ได้แก่ 1.โครงการสู้วิกฤตให้น้องอิ่ม 2.โครงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเด็กโควิด-19 3.อาสาสมัครช่วยเหลือเด็กเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา 4.เครือข่าย ALL FOR EDUCATION ผ่านความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ประชาชน และภาคเอกชน ในรูปแบบเงินสนับสนุนและเงินบริจาค อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการดังกล่าว กสศ. ได้การสนับสนุนเงินจากการบริจาคจากภาคประชาชนและเอกชน รวมถึงเงินอุดหนุนจากรัฐบาล นอกจากนี้ กสศ. ยังได้ร่วมกับ กรมสรรพากร เปิดบริจาคเงินเพื่อสมทบช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 พร้อมประกาศขยายเวลาลดหย่อนทางภาษีแก่ผู้บริจาคเงินและทรัพย์สินให้ กสศ. ออกไปอีก 3 ปี จนถึงสิ้นปี พ.ศ.2566

ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า กสศ. เดินหน้าสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง หลังพบสถิติ 2 ปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการช่วยเหลือเด็กเยาวชนผู้ยากจนและด้อยโอกาสในภาวะวิกฤตทางการศึกษา ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 จำนวนกว่า 70,000 คน จากการเปิดรับบริจาคจากประชาชนและหน่วยงานภาคเอกชนมากกว่า 15,000 คน 200 องค์กร รวมทั้งสิ้นราว 74 ล้านบาท ทั้งนี้ จากยอดรับบริจาคดังกล่าว ตลอดจนการสนับสนุนจากภาครัฐได้ถูกนำไปสนับสนุนและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ผ่าน 4 โครงการสำคัญ ดังต่อไปนี้

· โครงการสู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง ช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษที่ขาดแคลนอาหารในวิกฤตโควิด-19 จำนวนกว่า 42,000 คน ใน 7,728 โรงเรียน ครอบคลุม 77 จังหวัด รวม 604,980 มื้อ

· โครงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเด็กโควิด-19 ทำให้เกิดการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เป็นระบบเดียว สามารถเข้าถึงเด็กกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือมากกว่า 22,000 กรณีให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุดในทุกมิติ ทั้งด้าน สุขภาพกาย-ใจ สังคม การศึกษา จนสามารถยกระดับเป็นโมเดลการดูแลช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์วิกฤติขยายผลระดับประเทศ

· ระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาเป็นอาสาสมัครจำนวน 300 คน เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือเด็กเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา โดยเฉพาะช่วงชั้นรอยต่อที่กำลังจะออกจากโรงเรียนและต้องได้รับการช่วยเหลือทันที รวมถึงเด็กกำพร้าจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวนทั้งหมดอย่างน้อย 4,000 กรณี โดยร้อยละ 100 ของเงินบริจาคที่ กสศ. ได้รับจะถูกส่งตรงไปที่เด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ไม่มีการหักค่าบริหารจัดการใดๆ ทั้งสิ้น

· เครือข่าย ALL FOR EDUCATION ร่วมสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษา จากเครือข่ายภาคเอกชน ภาคประชาสังคมตั้งต้นร่วมกันกว่า 16 องค์กร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาพร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้สละเงินเดือนบริจาคร่วมกับ กสศ. ด้วย

ดร.ไกรยส กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์สำคัญในการทำงานของ กสศ. คือการใช้ผลงานวิจัยและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ ระบบ iSEE ค้นหากลุ่มเป้าหมายเด็กเยาวชนและสถานศึกษา โดยระบบ iSEE จะอำนวยความสะดวกให้ผู้บริจาคช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้ถูกคน ตรงจุดปัญหา มีระบบติดตามรายงานผลการเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้บริจาคอย่างต่อเนื่อง และสามารถประมวลผลสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและจำนวนนักเรียนยากจนพิเศษในระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด สถานศึกษา ไปจนถึงระดับผู้เรียน ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกจังหวัดทั่วประเทศ นอกจากนี้ กสศ. ยังคงมุ่งเดินหน้าภารกิจช่วยเหลือเด็กและเยาวชนให้ได้รับการสนับสนุนทางการศึกษา ผ่านโครงการสำคัญอื่นๆ ครอบคลุมปัญหาทางการศึกษาในทุกมิติ และกลุ่มเป้าหมายทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระยะยาว

“กสศ. มีความยินดีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการขยายเวลาลดหย่อนทางภาษีแก่ผู้บริจาคเงินและทรัพย์สินให้ กสศ. นำไปใช้ดำเนินการตามภารกิจลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาออกไปอีก 3 ปีถึงสิ้นปีภาษี 2566 ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 54 วรรคหกซึ่งกำหนดให้รัฐใช้มาตรการหรือกลไกทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริจาคเงินและทรัพย์สินเข้ากองทุนได้รับการลดหย่อนภาษี” ดร.ไกรยส กล่าวทิ้งท้าย

ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง กล่าวว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 732) พ.ศ.2564 ซึ่งให้การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลและนิติบุคคลที่บริจาคให้แก่ กสศ. ในรูปการบริจาคที่กระทำผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (E–Donation) เป็นจำนวน 2 เท่า ของจำนวนเงินที่บริจาค เป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ โดยการขยายเวลาลดหย่อนทางภาษีออกไป จากเดิมที่สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เพื่อจูงใจให้เกิดการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา รวมถึงการเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพครู

สำหรับบุคคลธรรมดาจะลดหย่อนภาษีได้เป็น 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่นๆ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้หักเป็นรายจ่ายได้เป็น 2 เท่าของรายจ่ายที่บริจาค ไม่ว่าจะได้จ่ายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร

“กฎหมายฉบับนี้มีส่วนยกระดับการศึกษา ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในระยะยาว เพราะเมื่อคนสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้มากขึ้น มีการศึกษาที่ดีขึ้น นำไปสู่การสร้างโอกาส สร้างรายได้ที่ดีขึ้น และเมื่อประเทศมีแรงงานที่มีศักยภาพและทักษะที่ดี จูงใจการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โอกาสนี้อยากเชิญชวนให้คนที่มีศักยภาพในการบริจาค ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลหันมาบริจาคเงินให้ กับ กสศ. เพราะนอกจากจะได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีแล้ว ยังมีส่วนร่วมยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยไปด้วยกันอีกด้วย” ดร. เอกนิติ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนและภาคเอกชน ร่วมบริจาคสมทบเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา จากสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะช่วงชั้นรอยต่อที่กำลังจะหลุดออกนอกระบบให้ได้กลับมาเรียน ผู้สนใจสามารถบริจาคผ่าน ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (E-Donation) https://donate.eef.or.th หรือโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) - เงินบริจาค เลขบัญชี 172-0-30021-6 พร้อมส่งหลักฐานการโอนเงินเป็นรูปภาพหรือรูปถ่าย มาที่ donation@eef.or.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-079-5474

 


กสศ. โชว์ 4 โครงการสร้างความเสมอภาคการศึกษาไทย ปี 64 ชวนคนไทยบริจาคช่วยเด็กและเยาวชนหลุดออกนอกระบบกลับมาเรียนอีกครั้งกสศ.โชว์4โครงการสร้างความเสมอภาคการศึกษาไทยปี64ชวนคนไทยบริจาคช่วยเด็กและเยาวชนหลุดออกนอกระบบกลับมาเรียนอีกครั้ง

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

รร.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ มูลนิธิบัญชาเมฆ

รร.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ มูลนิธิบัญชาเมฆ

เปิดอ่าน 2,904 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
"แลคตาซอย" ชวนประกวดคลิปวิดีโอ ย้อนความหลัง "โตมากับแลคตาซอย" ชิงรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท
"แลคตาซอย" ชวนประกวดคลิปวิดีโอ ย้อนความหลัง "โตมากับแลคตาซอย" ชิงรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท
เปิดอ่าน 177 ☕ คลิกอ่านเลย

เทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง เตรียมเปิดสาขารถไฟฟ้าและหุ่นยนต์ นำศูนย์บ่มเพาะรองรับตลาด EEC
เทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง เตรียมเปิดสาขารถไฟฟ้าและหุ่นยนต์ นำศูนย์บ่มเพาะรองรับตลาด EEC
เปิดอ่าน 173 ☕ คลิกอ่านเลย

พี่น้องชาว 38 ค (2) สพป.มุกดาหาร แต่งชุดดำแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์โหวตโน ไม่ร่วมประชาพิจารณ์ กรอบอัตรากำลัง ที่ขาดเสถียรภาพในความก้าวหน้าวิชาชีพ
พี่น้องชาว 38 ค (2) สพป.มุกดาหาร แต่งชุดดำแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์โหวตโน ไม่ร่วมประชาพิจารณ์ กรอบอัตรากำลัง ที่ขาดเสถียรภาพในความก้าวหน้าวิชาชีพ
เปิดอ่าน 1,447 ☕ คลิกอ่านเลย

รร.บ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ ใช้จินตคณิต สร้างเครือข่าย นำโรงเรียนขนาดเล็กปรับตัวเพื่ออยู่รอด
รร.บ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ ใช้จินตคณิต สร้างเครือข่าย นำโรงเรียนขนาดเล็กปรับตัวเพื่ออยู่รอด
เปิดอ่าน 833 ☕ คลิกอ่านเลย

"สุรวาท" ยื่น 3 ร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ด้านการศึกษา
"สุรวาท" ยื่น 3 ร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ด้านการศึกษา
เปิดอ่าน 4,008 ☕ คลิกอ่านเลย

สสวท. อบรมครูวิทย์โรงเรียน ตชด. และโรงเรียนพระปริยัติธรรม เน้นทักษะเชื่อมโยงจัดการเรียนรู้ตามบริบทท้องถิ่น
สสวท. อบรมครูวิทย์โรงเรียน ตชด. และโรงเรียนพระปริยัติธรรม เน้นทักษะเชื่อมโยงจัดการเรียนรู้ตามบริบทท้องถิ่น
เปิดอ่าน 773 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
เปิดอ่าน 12,582 ครั้ง

วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย
เปิดอ่าน 44,322 ครั้ง

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
เปิดอ่าน 41,464 ครั้ง

พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
เปิดอ่าน 12,876 ครั้ง

ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 15,764 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ