การดำเนินการตามมาตรการบริหารและพัฒนากำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๖๑) กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตามที่ข่าวคอลัมน์คลินิกครู กล่าวถึงหลักเกณฑ์การจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรการบริหารและพัฒนากำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๗ -๒๕๖๑)โดยระบุว่า "คปร. ไม่คืนอัตราเกษียณให้โรงเรียนที่มีเด็กต่ำกว่า ๒๕๐ คน ทำให้โรงเรียนกว่า ๒๔,๐๐๐ โรง ขาดครู...และ อ.ก.พ. ศธ. เปลี่ยนอัตราครูเกษียณคว่า ๓,๐๐๐ อัตรา เป็นบุคลากร ๓๘ ค. (๒) ใน ศธจ. และบางอัตราให้ กศน. ทำให้โรงเรียนต้องเผชิญการขาดอัตรากำลังอยู่แต่ลำพัง...." นั้น
ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. (สกพ.) ขอชี้แจงว่า มาตรการบริหารและพัฒนากำลังคนดังกล่าวกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรอัตราเกษียณอายุของข้าราชการทุกประเภทไว้ว่า "ไม่ยุบเลิกอัตราข้าราชการในภาพรวมและให้จัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุคืนในภาพรวมของกระทรวงและองค์กรกลางบริหารทรัพยากรบุคคล" โดยการจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ คปร. กำหนด ซึ่งผลการจัดสรรอัตราเกษียณอายุของข้าราชการครูฯ ตั้งแต่ปึงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ -๒๕๖๑ ก.ค.ศ. มีอัตราเกษียณอายุของข้าราชการครูฯ รวม ๑๑๒,๗๖๖ อัตรา ได้จัดสรรอัตราเกษียณอายุคืนให้กับส่วนราชการเดิมไปแล้ว รวม ๑๐๐,๙๒๗ อัตรา ได้แก่ ส่วนราชการในสังกัด ศธ. ๑๐๐,๔๗๑ อัตรา กระทรวงวัฒนธรรม ๑๖๙ อัตรา และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๒๘๗ อัตรา ซึ่งอัตราเกษียณที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.ค.ศ.
เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในช่วงที่ผ่านมา คปร. ได้มีมติจัดสรรอัตราเกษียณอายุของข้าราชการครู ฯ ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์คืนให้แก่ ศธ. รวม ๑,๓๔๐ อัตรา เพื่อจัดสรรให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ ๑๒๐ คนขึ้นไป ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติ รวม ๑,๐๘๕ อัตรา และโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า ๑๒๐ คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติ ๒๔๑ แห่ง รวม ๒๕๕ อัตรา ตามบัญชีรายชื่อโรงเรียนที่ ก.ค.ศ. กำหนด แต่ในภาพรวม คปร. ก็มิได้นิ่งนอนใจกับการแก้ปัญหาการขาดแคลนครู ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. หารือร่วมกับผู้แทน ก.ค.ศ. เพื่อพิจารณาทบทวนเงื่อนไขการจัดสรรอัตราเกษียณให้รองรับกับสภาพปัญหาของสถานศึกษา รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่างๆในภาพรวมให้ชัดเจน เพื่อให้ ก.ค.ศ. นำไปปฏิบัติได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการฯ ฉบับใหม่ และจะนำเสนอ คปร. พิจารณาภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ นี้
ฝ่ายเลขานุการร่วม คปร. (สำนักงาน ก.พ.)
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
ที่มา สำนักงาน ก.พ. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562