โรคภูมิแพ้น้ำที่เกิดขึ้นหลังหลังคลอด ทำให้มิเชลลาไม่สามารถอุ้ม เช็ดน้ำตาหรืออาบน้ำให้ลูกชายได้
เดลิเมล์ – แม้มีความรักมอบให้เต็มล้นหัวใจ แต่สิ่งหนึ่งที่มิเชลลา ดัตตัน ต่างจากแม่ส่วนใหญ่ก็คือ เธอไม่สามารถเช็ดน้ำตาให้เมื่อลูกร้องไห้ เพราะแค่น้ำหยดเล็กๆ สามารถทำให้ผิวหนังของเธอเป็นผื่นแดงและเจ็บปวด
การเกิดมาของมิตเชลล์ ลูกชายที่ขณะนี้อายุสามขวบ ทำให้มิเชลลามีอาการแพ้แปลกประหลาด ไม่สามารถถูกหรือกระทั่งดื่มน้ำได้
อาการผิดปกติทางผิวหนังของแม่วัย 21 ปีผู้นี้เรียกว่า aquagenic urticaria หรือโรคภูมิแพ้น้ำ กล่าวคือหากผิวหนังสัมผัสกับน้ำจะกลายเป็นลมพิษที่ทั้งคันและเจ็บปวด
มิเชลลาไม่สามารถดื่มชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้ได้ เพราะทำให้ลำคอเป็นแผลบวม เธอต้องดับกระหายด้วยไดเอ็ตโค้กที่ร่างกายรับได้เท่านั้น
มิเชลลาบอกว่าโรคประหลาดทำให้เธอไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะกลัวฝนตกลงมา สำหรับการทำความสะอาดร่างกายนั้น เธอใช้วิธีวิ่งผ่านน้ำสิบวินาทีต่อสัปดาห์และต้องรีบเช็ดตัวโดยเร็ว ส่วนเวลาอื่นๆ เธอใช้วิธีใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวทำความสะอาดแทน
แม้ถูกน้ำชั่วไม่กี่วินาทีก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อาการของเธอกำเริบ
“ฉันอุ้มมิตเชลล์ได้ไม่เกินสองนาที เพราะจะถูกเหงื่อเขา แล้วก็กลัวเขาทำน้ำหรือนมหยดใส่ แค่เช็ดน้ำตาให้ลูกยังทำไม่ได้ นับประสาอะไรจะไปอาบน้ำให้ลูก
แพทย์ยังงุนงงกับอาการของมิเชลลา โดยเชื่อว่าเกิดจากภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลหลังคลอดลูก
เจ้าตัวเล่าว่าอาการผิดปกติเริ่มชัดเจนทันทีที่อาบน้ำครั้งแรกหลังคลอดลูกได้ไม่กี่วันในเดือนตุลาคม 2005
“การคลอดบุตรเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจในแง่อาการผิวหนังอักเสบ ผมเคยได้ยินว่ามีคนไข้บางคนอาการดีขึ้น แต่บางคนก็มีอาการรุนแรงขึ้นหลังคลอด” ดร.เอเดรียน มอร์ริส ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอักเสบ กล่าว
มิเชลลาที่ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ บอกว่าโรคภูมิแพ้น้ำทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็น ‘นักโทษที่ถูกกักขังในร่างกายตนเอง’
“ฉันไม่ได้เจอเพื่อนๆ อีกเลยเพราะพวกเขาคิดว่าโรคนี้ติดต่อได้ ฉันหวังว่าการที่ฉันออกมาพูดเรื่องนี้จะทำให้สังคมได้รับรู้เกี่ยวกับโรคนี้และวันหนึ่งเราจะพบวิธีรักษา”
ความเห็นของแพทย์แตกต่างหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮิสทามีน ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดเดียวกับที่ทำให้แมลงกัดต่อยแล้วเป็นผื่นคันและปวด ในเซลล์ผิวหนังของผู้ป่วย
ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลนิวครอสส์ในวูล์ฟเวอร์แฮมป์ตัน อังกฤษ พยายามใช้ยาแอนตี้ฮิสทามีนและแสงอุลตราไวโอเล็ตบำบัด เพื่อให้เซลล์ผิวหนังของมิเชลลาสามารถต้านทานน้ำได้มากขึ้น แต่ไม่สำเร็จ
นีนา โกลด์ จากสมาคมแพทย์โรคผิวหนังของอังกฤษ ระบุว่าทั่วโลกพบคนเป็นโรคภูมิแพ้น้ำเพียง 30 คนเท่านั้น และขณะนี้ยังไม่มีวิธีรักษาเพราะยังไม่เข้าใจกลไกที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว
***ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้น้ำ***
Aquagenic urticaria หรือโรคภูมิแพ้น้ำ เป็นหนึ่งในอาการของโรคผิวหนังอักเสบที่ทำให้ผิวหนังเกิดลมพิษเจ็บปวด
คาดว่าทั่วโลกมีคนเป็นโรคนี้ราว 30-40 คน โดยมีการระบุถึงอาการนี้ครั้งแรกในปี 1964
ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากสัมผัสกับน้ำ จะปรากฏผื่นที่ผิวหนังซึ่งอาจเป็นอยู่ 15 นาทีถึงสองชั่วโมงหรือนานกว่านั้น ในกรณีที่รุนแรงเช่นเคสของมิเชลลา การดื่มน้ำทำให้เกิดอาการแบบเดียวกันในลำคอได้
แม้ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถไขปริศนาของโรคภูมิแพ้น้ำได้ แต่หลายคนเชื่อว่าเกิดจากฮิสตามินที่เซลล์มาสต์ปล่อยออกมาในผิวหนังเมื่อร่างกายทำปฏิกิริยา กรณีนี้คือเมื่อผิวถูกน้ำ ซึ่งทำให้เกิดลมพิษขึ้นบนผิวหนัง
ลมพิษที่ว่าอาจมีรูปร่างและขนาดต่างกันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และเกิดขึ้นได้จากน้ำทุกประเภท (เช่น ชา น้ำทะเล น้ำดื่มบรรจุขวด) และในทุกระดับอุณหภูมิ
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าอาการนี้เกิดจากการตอบสนองต่อสารพิษเมื่อน้ำถูกผิวหนัง หรือเมื่อมีอาการแพ้รุนแรงต่ออิออนในน้ำ
ยาแอนตี้ฮิสทามีนหรือสเตียรอยด์สามารถบำบัดอาการคันได้บ้าง แต่ไม่สามารถรักษาโรคภูมิแพ้น้ำได้ ขณะที่การใช้แสงอุลตราไวโอเล็ตบำบัดเซลล์แมสต์ให้ต้านทานน้ำได้มากขึ้น และไม่ปล่อยฮิสทามีนออกมา ยังเป็นเพียงการทดลองบำบัดวิธีหนึ่ง ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จในกรณีของมิเชลลา
อนึ่ง จากข้อมูลของบริติช โซไซตี้ ฟอร์ อัลเลอร์จี แอนด์ คลินิคัล อิมมูโนโลจี้ อาการผิวหนังอักเสบสามารถเกิดได้กับประชากร 1 ใน 5 ในบางช่วงของชีวิต
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ ขอบคุณครับ