สถานี ก.ค.ศ.
สวัสดีค่ะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน ตามที่กฎ ก.ค.ศ. การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 76 ก วันที่ 26 กันยายน 2561 และมีผลใช้บังคับในวันที่ 1ตุลาคม2561เพื่อให้การบังคับใช้กฎก.ค.ศ.ฉบับดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นธรรม สำนักงาน ก.ค.ศ. จึงขอชี้แจงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญดังนี้
1.การเลื่อนเงินเดือนตามกฎ ก.ค.ศ. ฉบับดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป (เลื่อนวันที่ เมษายน 2562)
2.บัญชีเงินเดือนสำหรับการเลื่อนเงินเดือนนั้น ให้ใช้บัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแนบท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 และใช้ฐานในการคำนวณและช่วงเงินเดือนในแต่ละอันดับของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
3.วงเงินงบประมาณและการบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ให้ดำเนินการดังนี้
3.1 การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ ให้เลื่อนเงินเดือนในอัตราร้อยละที่แตกต่างกันตามคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงาน ภายในวงเงินรวมร้อยละ 3 ของอัตราเงินเดือนที่จ่ายให้ข้าราชการครูฯ ณ วันที่ 1 มีนาคม และ 1 กันยายน ทั้งนี้ การเลื่อนเงินเดือนและวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบเป็นอิสระจากกันไม่สามารถนำวงเงินงบประมาณที่เหลือของรอบการประเมินที่แล้วมาใช้ได้อีก
3.2 ให้เลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูฯ แต่ละคนในแต่ละครั้งไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานในการคำนวณ โดยจะใช้วิธีการหารเฉลี่ยให้ข้าราชการแต่ละคนได้รับการเลื่อนเงินเดือนในอัตราที่เท่ากันไม่ได้การคำนวณจำนวนเงินสำหรับการเลื่อนเงินเดือนถ้ามีเศษไม่ถึงสิบบาท ให้ปัดเป็นสิบบาท ทั้งนี้ การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้ยึดหลักคุณธรรม ความเที่ยงธรรม เปิดเผย โปร่งใส และให้มีการแจ้งผลการเลื่อนเงินเดือนให้แต่ละคนทราบเป็นข้อมูลเฉพาะบุคคล
สำหรับข้าราชการครูฯ ผู้ที่ได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของอันดับเงินเดือน การเลื่อนเงินเดือนให้คำนวณจากฐานในการคำนวณของอันดับเงินเดือนของตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่
4.ให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 3 คน ทำหน้าที่พิจารณา รายงานผลการพิจารณา และเสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับ เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้มีอำนาจสั่งเลื่อนเงินเดือนโดยความเห็นชอบของ กศจ. โดยให้นำผลการประเมินผลการปฏิบัติงานมาประกอบการพิจารณา
5.การลาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติงานวิจัย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีสิทธิได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา ต้องได้รับอนุมัติจาก ก.ค.ศ. หรือ กศจ. ที่ได้รับมอบหมาย และต้องเป็นคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรองก่อนไปศึกษา ซึ่งจะต้องสำเร็จการศึกษาภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต
6.กรณีข้าราชการครูฯ ผู้ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงาน ในองค์การระหว่างประเทศ หรือถูกสั่งให้ไปทำการใดซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ หรือได้รับอนุญาตให้ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ เมื่อผู้นั้นกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้พิจารณาเลื่อนเงินเดือนได้ครั้งละไม่เกินร้อยละสามของฐานเงินเดือนข้าราชการผู้นั้นในแต่ละรอบการประเมิน
7.ยกเลิกการรอการเลื่อนเงินเดือน กรณีข้าราชการครูฯ ถูกฟ้องคดีอาญา และศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว
8.ข้าราชการครูฯ ผู้ใดอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้เลื่อนเงินเดือน แต่ผู้นั้นถึงแก่ความตายก่อนหรือในวันที่ 1 เมษายน หรือ 1 ตุลาคม ให้ผู้มีอำนาจสั่งเลื่อนเงินเดือนสั่งเลื่อนเงินเดือนให้ผู้นั้นเพื่อประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญ โดยให้มีผลในวันที่ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
การเลื่อนเงินเดือนดังกล่าว ขึ้นกับผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน ซึ่งการประเมินดังกล่าวจะมีองค์ประกอบการประเมินเป็นอย่างไร โดยใครเป็นผู้ประเมิน จะได้นำเสนอในโอกาสต่อไปค่ะ
ดร.อุษณีย์ ธโนศวรรย์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.” หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ. วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2561