สพฐ.หนุน ประชารัฐ สร้างผู้อำนวยการโรงเรียนให้เป็นเหมือนกัปตันนำพาลูกทีมสู่ความสำเร็จ เผย ที่ผ่านมาเดินหน้าพัฒนาไปแล้วส่วนหนึ่ง สุดเจ๋ง ได้ ผอ.รร.ไฟแรง ชุมชนยอมรับ
วันนี้ (30 เม.ย.) ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมหัวหน้าคณะทำงานโครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพการศึกษา โดยระบบการศึกษาไทยจะต้องสร้างภาวะผู้นำให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนจะต้องปรับตัวเองให้เป็นเหมือนกัปตันที่คอยนำพาลูกทีมให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งประเด็นนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมสนับสนุนที่จะดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ขณะนี้สพฐ.มีการจัดอบรมผู้บริหารโรงเรียนรุ่นใหม่ที่จับมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาไว้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่การยกระดับภาวะผู้นำให้เป็นเหมือนกัปตันนั้นจะต้องดูวัฒนธรรมก่อนเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาด้วย เพราะเรามีบริบทในอดีตที่ทำกันมาแบบราชการ ดังนั้น สพฐ.อาจจะมีการปรับปรุงพัฒนาโดยการจัดอบรมแบบเข้มก่อนที่จะเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหาร เพราะเดิมแนวคิดผู้บริหารจะมุ่งแต่ผลิตเด็กเพื่อให้สอบเข้าเรียนต่อให้ได้ แต่จากนี้ผู้บริหารโรงเรียนจะต้องปรับมุมมองในการผลิตผู้เรียนใหม่ โดยผลิตเด็กให้เข้าสู่การมีอาชีพ รู้จักว่าอาชีพไหนเรียนแล้วมีรายได้จำนวนมาก อาชีพไหนเรียนแล้วตกงาน เนื่องจากนโยบายรัฐบาลระบุว่าภาคการศึกษาจะต้องผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศในอนาคต
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับวิธีการในการดำเนินการสร้างบุคลิกภาพปรับทัศนคติของผู้บริหารใหม่จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าการสร้างผู้บริหารโรงเรียนให้เป็นเหมือนกัปตันจะเป็นแบบไหน และเมื่อตกผลึกในการวางแผนแล้วก็จะต้องมากำหนดเป็นตัวชี้วัด เพื่อปรับการพัฒนาผู้บริหารให้สอดคล้องกับสมรรถนะของการพัฒนาคนในอนาคตต่อไป ซึ่งเป็นการสร้างผู้บริหารโรงเรียนยุคใหม่ให้เป็นผู้บริหารโรงเรียน 4.0 และในการคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษารุ่นล่าสุด สพฐ.ได้ปรับหลักสูตรพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนใหม่ โดยพัฒนาให้เป็นผู้นำกับบริษัทซีพี ออลล์ และพาเยี่ยมชมการบริหารงานของโรงเรียนนานาชาติ หลังการบรรจุได้มีตัวชี้วัดกำกับด้วยว่าจะต้องเกิดผลสัมฤทธิ์อะไรบ้างภายใน1 ปี
“จากการติดตามประเมินผลพบว่ากลุ่มผู้บริหารโรงเรียนรุ่นนี้ได้รับการยอมรับจากชุมชน และคนในพื้นที่ สามารถระดมหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาช่วยโรงเรียนได้ เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง และยังพบว่า โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งพัฒนาที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เร็ว ๆนี้ สพฐ.จะมีการโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาและหลังการย้ายจะมีตำแหน่งว่าง ประมาณ 3,000 อัตรา ซึ่ง สพฐ.จะรีบดำเนินการสอบคัดเลือกให้เร็วที่สุด ซึ่งในจำนวนนี้ผู้บริหารที่สอบได้ก่อนได้รับการบรรจุจะต้องได้รับพัฒนาและประเมินติดตามใน 1 ปี ด้วยเช่นเดียวกัน” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561