“ณรงค์” รับดำเนินการ
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ห้องประชุมรัฐสภา อาคาร 1 สภาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ร่วมจัดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 28 ภายใต้หัวข้อ “Every child can be a HERO : เราทุกคนก็เป็นฮีโร่ได้” โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมพิธี นายปุณณพัทธ์ อรุณิชย์ตระกูล ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนนำประกาศเจตนารมณ์ของเด็กและเยาวชน ใจความว่า เด็กและเยาวชนจะตระหนักรู้ถึงโทษพิษภัยและจะปกป้องตัวเองและผู้อื่นจากความรุนแรงทุกรูปแบบ และจะส่งต่อความช่วยเหลือด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สังคม เป็นสะพานเชื่อมในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อในทุกโอกาส รวมทั้งเฝ้าระวังภัยจากความรุนแรงทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ยังได้ยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ใน 4 ข้อ ประกอบด้วย
1.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาศักยภาพและสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนและครอบครัว เพื่อให้มีบทบาท มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีความรู้และทักษะในการจัดการปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรง
2.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสริมสร้างองค์ความรู้ สร้างจิตสำนึกและพัฒนาศักยภาพของนักวิชาชีพและบุคลากรในหน่วยงานต่างๆให้มีทักษะ รู้เท่าทัน สามารถปกป้องคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนจากความรุนแรงได้
3.ขอให้มีระบบบริการทางสังคมที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน มีมาตรการพิเศษสำหรับส่งต่อผู้ถูกกระทำและผู้กระทำความรุนแรงให้ได้รับความช่วยเหลือ บำบัด ฟื้นฟู เยียวยาอย่างเหมาะสม
4.สร้างเสริมมาตรการ กลไก มาตรฐาน กฎระเบียบ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปกป้อง คุ้มครอง และช่วยเหลือเด็กและเยาวชนจากความรุนแรง
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวว่า เวทีสิทธิเด็กถือว่ามีความสำคัญต่อการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแล และพัฒนาตนเองในมิติต่างๆ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะของเด็กและเยาวชน พร้อมขอชื่นชมคำประกาศเจตนารมณ์ของเด็กและเยาวชนที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน รวมทั้งความรุนแรงในสังคมไทย ยืนยันว่ารัฐบาลยินดีรับคำประกาศเจตนารมณ์ของเด็กและเยาวชนดังกล่าว เพื่อนำไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และพร้อมสนับสนุนประสานงานระหว่างหน่วยงานกับองค์กรที่เกี่ยวข้องสำหรับกิจกรรมของเด็กและเยาวชนอย่างเต็มที่.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2560