บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อสร้างชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
อันนำมาซึ่งนวัตกรรมที่ใช้ในการศึกษาความสามารถและเปรียบเทียบความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาโจทย์ปัญหา การบวก
การลบ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อีกทั้งยังศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์
ที่สร้างขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551
โรงเรียนเทพวิทยา สำนักงานเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จำนวน 26 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling)
โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ซึ่งให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนในสัปดาห์ที่ 1 และ
หลังเรียนในสัปดาห์ที่ 13 หลังการใช้ชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 5 วัน
วันละประมาณ 10 นาที ก่อนเรียนคณิตศาสตร์ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้วิเคราะห์ด้วยค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และ
การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า ชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้รายงาน
สร้างขึ้นมีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ/ประสิทธิภาพ ของผลลัพธ์ E1/E2 เฉลี่ยร้อยละ 78.23/ 77.38 ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 16 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 6.31 แต่หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 19.35 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 4.56 นั่นคือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนการประเมินผลก่อนเรียนและหลังเรียน พบค่า t–test เท่ากับ 7.16 ซึ่งแสดงว่า
การใช้ชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สามารถช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และมีความสามารถในการคิดและแก้ปัญหาโจทย์ปัญหา การบวก การลบ สูงขึ้นหลังใช้ชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์
อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดฝึกพัฒนาความรู้พื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ คิดเป็นคะแนนเฉลี่ย 2.60
ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.46 และระดับความพึงพอใจอยู่ในเกณฑ์ระดับมาก