ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี


ความรู้ทั่วไป 19 ต.ค. 2559 เวลา 07:17 น. เปิดอ่าน : 31,280 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

ในยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารเพิ่มปริมาณขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ 10 ปี และยังมีสื่อต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงทุกคนได้ทุกที่ การเลี้ยงดูเด็กยุคนี้ในแบบเดิม ๆ อาจไม่เท่าทันต่อสังคมดิจิตอลที่เขาต้องเจอ หรือในทางตรงกันข้าม การที่ผู้ปกครองเลือกใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูก อาจส่งผลลบต่อพัฒนาการของเด็กได้เช่นกันถ้าหยิบยื่นเทคโนโลยีพร้อมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ให้ลูกนั้นเร็วจนเกินไป

ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำ คือ การสร้างสมองลูกให้พร้อมรับอนาคตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคนิคที่สอดคล้องกับพัฒนาการของลูก

ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านศูนย์ปฐมวัย สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สมองของคนเรามีโครงสร้างทั้งหมด 3 ส่วน ส่วนที่อยู่บริเวณท้ายทอย คือ สมองส่วนสัญชาตญาณ ทำหน้าที่หลักเกี่ยวกับการมีชีวิตรอด ควบคุมระบบอัตโนมัติของร่างกาย ส่วนที่สอง ตรงกลางคือสมองส่วนอารมณ์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับความรู้สึก การเรียนรู้ และจดจำ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เจริญเติบโตเต็มที่ตั้งแต่แรกเกิด สมองส่วนที่สาม คือ สมองส่วนหน้า ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังหน้าผาก เป็นสมองส่วนคิดและควบคุมอารมณ์นั้นจะพัฒนาเต็มที่เมื่ออายุ 25 ปี

4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

ดังนั้น ตั้งแต่แรกเกิดจึงเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมการทำงานของสมองส่วนหน้า เพื่อให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์และสัญชาตญาณ ผ่านการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล (Critical Thinking) กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ด้วยการสื่อสาร (Communication) ที่สอดคล้องกับการพัฒนาของสมอง และเรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม (Collaboration) อย่างมีความสุข ซึ่งทั้งหมดนี้จะก่อให้เกิดคุณภาพของความผูกพันในครอบครัวระหว่างพ่อแม่และลูก

“ในช่วงปฐมวัยพ่อแม่จึงควรใช้เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก ซึ่งเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ประมวลง่าย ไม่กระตุ้นอารมณ์ และสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเด็ก เช่น แทนที่จะสอนลูกด้วยคำติว่า “ทำไมอยู่ไม่สุข ไม่มีสมาธิทำการบ้านเลยนะ!” เปลี่ยนเป็น “แม่ชอบหนูตอนนี้ ดูมีสมาธิระบายสีมากเลย” เพื่อให้ลูกเข้าใจก่อนว่าสมาธิคืออะไร ซึ่งการสื่อสารด้วยคำพูดเชิงบวกนี้จะกลายเป็นคลังคำที่ลูกเอาไว้ใช้อธิบายสิ่งต่าง ๆ กับตัวเอง ใช้สื่อสารกับผู้อื่น ใช้คิดวิเคราะห์ พ่อแม่จึงควรแน่ใจว่าสิ่งที่พูดกับลูกจะสร้างคลังคำและคลังประสบการณ์ที่ดี ซึ่งจะทำให้สมองส่วนสัญชาตญาณและอารมณ์ได้ทำงานร่วมกับสมองส่วนคิด ก่อให้เกิดการคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสารที่ดีและความอยากมีส่วนร่วมกับผู้อื่นตามมา” ผศ.ดร.ปนัดดา กล่าว

ผศ.ดร.ปนัดดา กล่าวว่า เมื่อพูดถึงการใช้เทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน มันจะไม่อันตรายกับลูกเลย และถือเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกฝนลูกให้มีความรับผิดชอบ หากพ่อแม่ยื่นเทคโนโลยีให้ลูก พร้อมกับหน้าที่และข้อจำกัด ซึ่งเด็กเล็กไม่ควรเกิน 20 นาที หรือ ลองให้ลูกได้ตัดสินใจลองวางแผนการทำหน้าที่ต่างๆ ภายในบ้านตามที่ได้รับมอบหมายด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องทำตามลำดับ 1 2 3 ตามที่กำหนด เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้การจัดสรรเวลาและลำดับความสำคัญ ช่วยสร้างวิธีการคิดวิเคราะห์ไปในตัว และที่สำคัญ หลายครั้งเราพบว่า เทคโนโลยีที่เข้าถึงลูกนั้น เนื้อหายังไม่รุนแรงเท่า ท่าที น้ำเสียง และคำพูดต่อว่าของพ่อแม่ ที่ไปกระตุ้นให้ลูกใช้สมองส่วนสัญชาตญาณ และอารมณ์ในการป้องกันตัวเอง ฉะนั้นเทคโนโลยี ไม่ใช่ตัวยับยั้งพัฒนาการ หรือสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของลูกให้ล่าช้าเสมอไป

สำหรับพ่อแม่ที่มีเวลาน้อย หรือเหนื่อยล้าจากการทำงาน ก็สามารถช่วยกระตุ้นความฉลาดและพัฒนาการของลูกผ่านการเลี้ยงดูโดยไม่จำเป็นต้องหยิบยื่นเทคโนโลยีให้ รวมถึงการดูแลด้านโภชนาการที่ถูกต้องด้วยสารอาหารอย่างดีเอชเอในปริมาณที่เหมาะสม

 

ผศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมให้ลูกก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลง พ่อแม่ควรให้ลูกเข้าถึงเทคโนโลยีให้ช้าที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉะนั้น เด็กต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรให้ดูโทรทัศน์หรือไอแพด เพราะจะกีดขวางพัฒนาการทุก ๆ ด้าน และควรเสริมกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะแห่งอนาคตต่างๆ ทั้ง 4 อย่าง ให้แก่ลูก คือ

1. การตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อฝึกการคิดวิเคราะห์

2. การเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์

3. การปลูกฝังเรื่องการร่วมมือ แบ่งปัน ช่วยเหลือ เพื่อสร้างพื้นฐานความฉลาดทางอารมณ์และสังคมที่ดี

4. การกระตุ้นให้เด็กพูดคุยและสื่อสารถ่ายทอดความคิดอย่างมีระบบ เพื่อการสร้างทักษะการสื่อสารที่เฉียบคม ด้วยการให้ลูกเล่านิทานสลับกับพ่อแม่ เป็นต้น

“ถ้าพ่อแม่เลี้ยงลูกอย่างชาญฉลาด ให้ลูกมีความพร้อมทั้งทางสมองและทักษะที่หลากหลาย เขาก็จะซึมซับความชาญฉลาดจากพ่อแม่และนำมาต่อยอดความฉลาดของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น พ่อแม่ควรเตรียมสมองของลูกให้พร้อมมีพัฒนาการที่ดีด้วยโภชนการที่ครบถ้วน ยกตัวอย่างสารอาหารบางชนิด เช่น กรดไขมันจำเป็นอย่าง DHA ซึ่งมีอยู่ทั้งในปลาทะเลและปลาน้ำจืดที่มีไขมันเยอะ ช่วยให้สมองของลูกพร้อมสำหรับการพัฒนาทักษะอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถพัฒนาสิ่งที่สำคัญที่สุด คือความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว ที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จและมีความสุขในสังคมได้ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม” ผศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าว

มาร่วมสร้างสมองไขรหัส 4 ทักษะแห่งอนาคต กับงานนิทรรศการ “เอนฟา เอพลัส ฟิวเจอร์ เบรน เอ็กซ์โป” ร่วมค้นพบมหัศจรรย์แสนล้านเซลล์สมอง ครั้งแรกในประเทศกับนิทรรศการสมองผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง 360o ตั้งแต่วันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2559 ณ โซนอีเดน 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
 

 

ขอบคุณที่มาจาก MGR Online วันที่ 18 ตุลาคม 2559

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี4ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC

รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC


เปิดอ่าน 16,084 ครั้ง
แรงบิดและแรงม้า

แรงบิดและแรงม้า


เปิดอ่าน 13,134 ครั้ง
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?

ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?


เปิดอ่าน 23,609 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่

เปิดอ่าน 19,133 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เปิดอ่าน 96,452 ☕ คลิกอ่านเลย

อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
เปิดอ่าน 10,247 ☕ คลิกอ่านเลย

หลากเทคนิค ช่วยให้นอนหลับสบาย
หลากเทคนิค ช่วยให้นอนหลับสบาย
เปิดอ่าน 13,505 ☕ คลิกอ่านเลย

อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
เปิดอ่าน 15,344 ☕ คลิกอ่านเลย

กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง
เปิดอ่าน 34,917 ☕ คลิกอ่านเลย

12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
เปิดอ่าน 11,951 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี
เปิดอ่าน 37,007 ครั้ง

บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย
เปิดอ่าน 29,237 ครั้ง

12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
เปิดอ่าน 58,740 ครั้ง

ภาษาพูด
ภาษาพูด
เปิดอ่าน 20,878 ครั้ง

LINE ขู่ หากพบส่งข้อความหลอกให้แชร์ โดนระงับบัญชีถาวรแน่
LINE ขู่ หากพบส่งข้อความหลอกให้แชร์ โดนระงับบัญชีถาวรแน่
เปิดอ่าน 10,186 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ