"ดาว์พงษ์"เสนอปรับโครงสร้าง ศธ.ให้กฤษฎีกาพิจารณา ส่วนการปรับโครงสร้างสำนักงานลูกเสือแห่งชาติมาเป็นองค์กรในกำกับของ ศธ.ต้องดูรายละเอียดของปัญหาก่อน
วันนี้ (20 ม.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ว่า ขณะนี้ตนได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรรมการกฤษฎีกาเพื่อขอหารือแล้วโดยเสนอขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใช้อำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ปรับโครงสร้าง ศธ.โดยจัดตั้งกรมวิชาการ และ รวมอาชีวศึกษาเอกชนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.)มาอยู่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า จะมีผลกระทบอะไรแค่ไหน โดยตนจะไปทำความเข้าใจกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถอธิบายให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นได้อย่างแน่นอน
“ผมไม่อยากมองว่าเรากำลังปรับสร้างใหญ่ แต่ ศธ.ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้าง ซึ่งการปรับโครงสร้างใหญ่จะยังไม่ทำในขณะนี้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและกระทบกับคนจำนวนมาก อะไรที่มีผลกระทบกับคนมาก ๆ ทำแล้วมีคนได้และเสียประโยชน์ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. ต้องเกิดขึ้น และเสร็จตามโรดแมปภายใน1 ปี 6 เดือนแน่นอน เพราะต้องเชื่อมโยงตั้งแต่รัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงด้วย” รมว.ศธ.กล่าว
ต่อข้อถามกรณีที่คณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีข้อเสนอให้ปรับสำนักงานลูกเสือแห่งชาติเป็นองค์กรในกำกับของ ศธ.นั้น พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า คงต้องย้อนไปดูปัญหาว่า โครงสร้างเดิมคืออะไร ช่องว่างอยู่ตรงไหน และสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าแก้ไขด้วยโครงสร้างเก่าไม่ได้ก็คงต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่เหมือนกับโครงสร้าง ศธ. ที่ต้องดูว่าปัญหาในการทำงานมีอะไรบ้าง แก้ไขได้หรือไม่ เมื่อระบบเก่าแก้ไม่รอดก็ต้องแก้ด้วยระบบใหม่ โดยต้องดูด้วยว่าจำเป็นต้องปรับโครงสร้างทั้งหมดหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นก็ปรับเท่าที่จำเป็น ตนไม่อยากจะเปลี่ยนโครงสร้างมากจนเจอกับปัญหาอีก
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 20 มกราคม 2559