พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) "ประยุทธ์ 3" ว่า งานในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง รมว.ศธ. คนใหม่มาก็สามารถทำต่อได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ศธ.ถูกมองในภาพลบ โดยเฉพาะ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) คุรุสภา และองค์การค้าของ สกสค. ซึ่งตนได้พยายามแก้ไข ซึ่งก็ลุล่วงไปได้มาก เมื่อผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาคงจะมาดำเนินการต่อ โดยเฉพาะเรื่องทุจริตขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ และเรื่องบทบาทภารกิจที่แท้จริงของ ทั้ง 3 หน่วยงานก็ไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะมีผู้บริหารองค์กรหลักเป็นกรรมการบริหารอยู่ และก็มีการปรับปรุงโครงสร้างให้ดีขึ้นแล้ว
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการทำงานอื่น ๆ นั้น 1 ปี ที่ผ่านมา ตนและ รมช.ศธ. ทั้ง 2 คน ได้พยายามแก้ไขจุดดอ่อนของการจัดการศึกษา ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา รวมถึงปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีหลายเรื่องได้แก้ไขไปแล้ว แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่รอดำเนินการต่อ สิ่งต่าง ๆ ที่ทำไปเป็นการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งต้องเกิดขึ้นในห้องเรียนและเกิดผลกับเด็กโดยตรง แต่ส่วนสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ คือ ครู ดังนั้น ต้องมีแผนการพัฒนาครูทั้งระบบ เพื่อให้ได้ครูที่ดีที่สุด ซึ่งได้มีการทำโครงการคุรุทายาท และโครงการช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ เพื่อผลิตครูใหม่ที่มีคุณภาพ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้ลุล่วงไปได้ เพราะมีก่ารปรับ ครม.ก่อน
"รัฐบาลนี้ใช้งบประมาณไปกับเรื่อง อื่น ๆ หลายแสนล้าน แต่ยังไม่ได้ใช้งบฯ เพื่อการสร้างบุคลากรมากนัก ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลทุ่มเทงบประมาณในการผลิตบุคลากรทางการศึกษา เพื่อไปเป็นครู อาจารย์ที่ดี เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังว่าอยากจะทำต่อ เชื่อว่าผู้บริหารชุดใหม่จะคล้อยตามด้วย และเชื่อมั่น ในความสามารถ โดยเฉพาะ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศธ. คนใหม่ ซึ่งเป็นคนเก่ง มีความเฉียบขาด และอาจจะตัดสินใจอะไรได้ดีกว่าผม ผมอาจจะเป็นครูใหญ่ใจดี ส่วนพล.อ. ดาว์พงษ์ เข้ามาอาจจะถือไม้เรียวมาด้วย ซึ่งอาจจะทำให้เด็กหรือแม้กระทั่งข้าราชการใน ศธ.ได้ตื่นตัวมากขึ้น" พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์