ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,510 ครั้ง
เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย

Advertisement

เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย
                                               ตอนการออกแบบโครงงาน

   การสอนแบบกิจกรรมโครงงานคุณครูอาจเกิดความไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นกันอย่างไร เริ่มที่ตรงไหน  ขอนำเสนอการออกแบบโครงงานอย่างง่าย เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการออกแบบการทำโครงงานเป็นการออกแบบ รูปแบบโครงงานที่ทำ ประกอบด้วย ขั้นตอนต่างๆ อย่างหลากหลาย ซึ่งเป็นการวางแผนรูปแบบการสอนแบบโครงงาน    ที่ครูผู้สอนแต่ละคนจะพิจารณาตามความเหมาะสม ในการนำเสนอครั้งนี้จะขอเสนอ 6 ขั้นตอน และขอชี้แจงเกี่ยวกับ   ความหมายของแต่ละหัวข้อ ดังนี้
   ขั้นตอนที่ 1 การคิดและเลือกหัวข้อเรื่องการตั้งชื่อโครงงาน
   ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบการทำโครงงาน การวางแผนรูปแบบโครงงานที่ทำประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้
                1. การตั้งชื่อโครงงาน
                2. การเขียนความเป็นมาของโครงงาน
                3. การเขียนวัตถุประสงค์ของโครงงาน
                4. การเขียนแผนผังความคิดของโครงงานแบบWeb
                5. การเขียนแผนผังโครงงานแบบตาราง
                6. การเขียนขั้นตอนการดำเนินการ
                7. การเขียนผลการศึกษา
                8. การเขียนประโยชน์ที่ได้รับ
                9. วิธีการนำเสนอผลการศึกษา
              10. การเขียนแหล่งอ้างอิง
              11. การเขียนความรู้สึกที่มีต่อการทำโครงงานชิ้นนี้

   ขั้นตอนที่ 3 การลงมือทำโครงงาน ลงมือปฏิบัติงานตามที่วางแผนไว้ในขั้นตอนที่ 2
   ขั้นตอนที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน เขียนรายงานโครงงานจากข้อมูลที่ไปศึกษาค้นคว้ามาตรวจสอบกับสมมุติฐานลงในแบบบันทึก
   ขั้นตอนที่ 5 การนำเสนอผลงาน เขียนบรรยายวิธีการนำเสนอผลงาน
   ขั้นตอนที่ 6 การวัดผลประเมินผล เขียนความรู้สึกที่มีต่อการทำโครงงานแลกเปลี่ยนตรวจสอบกับเพื่อน ผู้ปกครอง ครู

คำชี้แจงเกี่ยวกับความหมายของแต่ละหัวข้อมีดังนี้
  การตั้งชื่อโครงงาน กำหนดปัญหาหรือหัวข้อที่ต้องการศึกษาค้นคว้าคำตอบ ถ้าผู้เรียนระดับชั้นต้นๆควรจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ควรเป็นคำถามหรือข้อความที่กะทัดรัดชัดเจน สื่อความหมายได้ตรง ผู้อ่าน อ่านแล้วสนใจชวนให้ติดตามเนื้อหาสาระ
  การเขียนความเป็นมาของโครงงาน หมายถึง กล่าวถึงสาเหตุหรือแรงจูงใจที่ทำให้นักเรียนเกิดความสงสัย     ใคร่รู้ อยากรู้คำตอบของสิ่งที่ต้องการศึกษา เป็นการอธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทำโครงงานชิ้นนี้ มีเหตุจูงใจอะไร มีความสำคัญอย่างไร มีหลักการหรือทฤษฎีอะไรที่เกี่ยวข้อง
  การเขียนวัตถุประสงค์ของโครงงาน หมายถึง การกำหนดสิ่งที่ต้องการทราบว่าเมื่อเสร็จสิ้นการศึกษา ควรมีความหมายเฉพาะเจาะจง และสามารถวัดได้เป็นการบอกขอบเขตของงานที่จะทำได้ชัดเจนขึ้น คิดทบทวนไตร่ตรองหาเหตุผลประกอบการตัดสินใจว่าต้องการอะไรจากการทำโครงงานครั้งนี้ เขียนสิ่งที่ตนเองต้องการ พูดคุยกับเพื่อนเพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น
  การเขียนแผนผังความคิดแบบ Web หมายถึง เป็นการเขียนเพื่ออธิบายจากหัวข้อใหย่สู่หัวข้อย่อยๆ ของแต่ละเรื่อง ปัญหาที่ต้องการศึกษา แตกแขนงให้เห็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกัน ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา
  การเขียนแผนผังโครงงานแบบตาราง หมายถึง การนำตารางแผนผังโครงงานที่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นเสมือนแผนการดำเนินงานโครงงานมาใส่ไว้เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของคำถาม สมมุติฐาน วิธีการศึกษา แหล่งศึกษา
  คำถาม ดอกกุหลาบมีเกสรตัวผู้หรือไม่
  สมมุติฐาน มีเพราะกุหลาบมีเมล็ดอยู่ในกระเปาะของดอก
  วิธีการศึกษา สอบถามผู้รู้ค้นคว้าทดลองพิสูจน์จากของจริง
  แหล่งศึกษา ผู้รู้ หนังสือเกี่ยวกับพืช ดอกกุหลาบจริง
  ระยะเวลาที่ใช้ศึกษา กำหนดเป็นจำนวนวัน สัปดาห์ หรือเดือนแล้วแต่ความเหมาะสม
  ผู้รับผิดชอบ กำหนดผู้รับผิดชอบแต่ละหัวข้อให้ชัดเจน
  การเขียนขั้นตอนการดำเนินงาน หมายถึง การบรรยายสภาพให้เห็นขั้นตอนการทำงานของนักเรียนตั้งแต่ต้นจนจบเป็นโครงงานสำเร็จ จะต้องอธิบายว่าออกแบบอย่างไร จะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง รวมทั้งระบุวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ ครูชี้นำให้ดังนี้
  1. นักเรียนถามตัวเองว่ามีวิธีใดบ้างที่จะศึกษาเรื่องนั้นๆได้
  2. นักเรียนเลือกวิธีการที่เหมาะสมและสามารถทำได้ในข้อจำกัดที่มีอยู่
  3. กำหนดขั้นตอนหรือวิธีการศึกษาและระยะเวลา
  4. กำหนดวิธีการนำเสนอผลงาน
  การเขียนผลการศึกษา หมายถึง คำตอบของคำถามที่ตั้งไว้แต่ละหัวข้อว่าหลังจากไปศึกษาแล้วได้คำตอบว่าอะไร
  การเขียนประโยชน์ที่ได้รับ หมายถึง การเขียนบรรยายความคาดหวังที่นักเรียนมีต่อโครงงาน การบรรยายผลที่ได้รับจากการศึกษาโครงงานชิ้นนี้ ว่าผู้ศึกษาได้ศึกษาแล้วตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ ให้ประโยชน์ด้านใดบ้าง เช่น ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ได้ทราบคำตอบของปัญหาที่ศึกษาอย่างละเอียดชัดเจนจนเป็นที่พอใจ
  วิธีการนำเสนอผลการศึกษา หมายถึง การนำผลการศึกษาออกเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ที่เหมาะสมกับเรื่องที่ศึกษาและมีความเป็นไปได้ ซึ่งผู้เรียนจะเป็นผู้นำเสนอข้อมูลหรือผลสรุปของการศึกษาค้นคว้า อาจนำเสนอในรูปของรายงานหน้าชั้นเรียน หรือนำเสนอรูปแบบpower point หรือการจัดบอร์ดแสดงสิ่งที่ศึกษาหรือการแสดงในรูปของละครหรือด้วยวาจา เป็นต้น
  การเขียนแหล่งอ้างอิง หมายถึง หนังสือหรือเอกสารหรือบุคคลหรือแหล่งสืบต้นทางสื่ออินเตอร์เน็ต( ครูรัชนี อยากเพิ่มเติมว่าการเรียนแบบโครงงานทุกวันนี้ต้องใช้ระบบICTเข้ามาช่วยด้วยเพื่อข้อมูลนำเสนอจะได้ทันสมัยขึ้น )ที่นักเรียนไปศึกษาค้นคว้า แล้วได้นำความรู้มาตอบคำถามของโครงงาน การเขียนเอกสารอ้างอิงควรบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้ครบถ้วน เช่น
  1. ถ้าเป็นหนังสือตำรา ต้องบอกชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือ ชื่อโรงพิมพ์ ปีพ.ศ.ที่พิมพ์ นักเรียนได้เขียนข้อมูลจากหน้าที่เท่าไร
  2. ถ้าเป็นสิ่งพิมพ์ เช่น วารสาร หนังสือพิมพ์ ต้องบอกชื่อผู้เขียนคอลัมน์ ชื่อวารสารหรือหนังสือพิมพ์ วัน/เดือน/ปี ที่ตีพิมพ์
  3. ถ้าเป็นบุคคล บอกชื่อ นามสกุล อายุ อาชีพ สถานที่ของผู้ที่สามารถติดต่อได้ ความชำนาญที่มี
  4. ถ้าสืบค้นข้อมูลทางinternet ต้องบอกเวปไซต์ที่นำข้อมูลมานำเสนอว่ามาจากที่ใด
  การเขียนความรู้สึกที่มีต่อการทำโครงงานชิ้นนี้ หมายถึง ให้นักเรียนเขียนบรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นก่อนทำโครงงาน ขณะทำโครงงาน และหลังทำโครงงาน ประโยชน์ที่นักเรียนได้รับ หรือความคาดหวังที่นักเรียนมีต่อโครงงาน
  เมื่อ คุณครู ได้ศึกษาทำความเข้าใจแล้ว คิดว่าคงไม่ยากเกินความพยายามของท่าน และหากมีข้อสงสัยปรึกษาได้ที่ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา.
                                    นำมาฝากจากครูรัชนี  คุณานุวัฒน์
    ......หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ท่านคุณครู ที่สอนโครงงานอยู่ไม่มากก็น้อย....
                                                  ขอบคุณที่มาข้อมูลหลัก area.obec.go.th

  

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 29 มี.ค. 2552


เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

คลายเครียด....ครบรอบ 40 ปี

คลายเครียด....ครบรอบ 40 ปี


เปิดอ่าน 6,410 ครั้ง
Love..Love ของชาวสีม่วง...!!

Love..Love ของชาวสีม่วง...!!


เปิดอ่าน 6,437 ครั้ง
ขำขัน..... อีเมล์ผิด

ขำขัน..... อีเมล์ผิด


เปิดอ่าน 6,412 ครั้ง
<<การเก็บรักษารองเท้า >>

<<การเก็บรักษารองเท้า >>


เปิดอ่าน 6,417 ครั้ง
love

love


เปิดอ่าน 6,408 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ปาก...หนอส่อนิสัย..ใช่หรือไม่ใช่....ไปดูกันเลย>>>>>

ปาก...หนอส่อนิสัย..ใช่หรือไม่ใช่....ไปดูกันเลย>>>>>

เปิดอ่าน 6,408 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
SPSS : ไม่เหมาะกับครูที่ไม่รอบรู้ภาษาอังกฤษอย่างผม...แต่ทางเลือกอื่นก็ยังมีอีกมากมายมิใช่หรือ?
SPSS : ไม่เหมาะกับครูที่ไม่รอบรู้ภาษาอังกฤษอย่างผม...แต่ทางเลือกอื่นก็ยังมีอีกมากมายมิใช่หรือ?
เปิดอ่าน 6,576 ☕ คลิกอ่านเลย

ชีวิตครูของผม ตอน อาสาสอนโรงเรียนคนตาบอด
ชีวิตครูของผม ตอน อาสาสอนโรงเรียนคนตาบอด
เปิดอ่าน 7,202 ☕ คลิกอ่านเลย

ร่ำรวยด้วย ฮวงจุ้ย!!!. (ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่...)
ร่ำรวยด้วย ฮวงจุ้ย!!!. (ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่...)
เปิดอ่าน 6,427 ☕ คลิกอ่านเลย

  คิดถึง.....พ่อ...ผู้ก่อร่างสร้างครอบครัว..สร้างรั้ว ล้อม"รัก"  ลูก
คิดถึง.....พ่อ...ผู้ก่อร่างสร้างครอบครัว..สร้างรั้ว ล้อม"รัก" ลูก
เปิดอ่าน 6,413 ☕ คลิกอ่านเลย

คำเตือน!!!!--->>>.....<คืนเดือนเพ็ญ ลอยกระทง>.....
คำเตือน!!!!--->>>.....<คืนเดือนเพ็ญ ลอยกระทง>.....
เปิดอ่าน 6,413 ☕ คลิกอ่านเลย

เอามาให้ดู...
เอามาให้ดู...
เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ราชภัฏกับธนาคาร
ราชภัฏกับธนาคาร
เปิดอ่าน 7,754 ครั้ง

กรมอนามัย แนะผู้ป่วยลองโควิด-19 เน้นกิน "โปรตีน – โพรไบโอติกส์ – วิตามิน" ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
กรมอนามัย แนะผู้ป่วยลองโควิด-19 เน้นกิน "โปรตีน – โพรไบโอติกส์ – วิตามิน" ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
เปิดอ่าน 10,880 ครั้ง

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
เปิดอ่าน 41,494 ครั้ง

ซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประจำปี 2555
ซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประจำปี 2555
เปิดอ่าน 9,373 ครั้ง

8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
เปิดอ่าน 26,651 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ