ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,176 ครั้ง
Advertisement

เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย

Advertisement

เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย
                                               ตอนการออกแบบโครงงาน

   การสอนแบบกิจกรรมโครงงานคุณครูอาจเกิดความไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นกันอย่างไร เริ่มที่ตรงไหน  ขอนำเสนอการออกแบบโครงงานอย่างง่าย เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการออกแบบการทำโครงงานเป็นการออกแบบ รูปแบบโครงงานที่ทำ ประกอบด้วย ขั้นตอนต่างๆ อย่างหลากหลาย ซึ่งเป็นการวางแผนรูปแบบการสอนแบบโครงงาน    ที่ครูผู้สอนแต่ละคนจะพิจารณาตามความเหมาะสม ในการนำเสนอครั้งนี้จะขอเสนอ 6 ขั้นตอน และขอชี้แจงเกี่ยวกับ   ความหมายของแต่ละหัวข้อ ดังนี้
   ขั้นตอนที่ 1 การคิดและเลือกหัวข้อเรื่องการตั้งชื่อโครงงาน
   ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบการทำโครงงาน การวางแผนรูปแบบโครงงานที่ทำประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้
                1. การตั้งชื่อโครงงาน
                2. การเขียนความเป็นมาของโครงงาน
                3. การเขียนวัตถุประสงค์ของโครงงาน
                4. การเขียนแผนผังความคิดของโครงงานแบบWeb
                5. การเขียนแผนผังโครงงานแบบตาราง
                6. การเขียนขั้นตอนการดำเนินการ
                7. การเขียนผลการศึกษา
                8. การเขียนประโยชน์ที่ได้รับ
                9. วิธีการนำเสนอผลการศึกษา
              10. การเขียนแหล่งอ้างอิง
              11. การเขียนความรู้สึกที่มีต่อการทำโครงงานชิ้นนี้

   ขั้นตอนที่ 3 การลงมือทำโครงงาน ลงมือปฏิบัติงานตามที่วางแผนไว้ในขั้นตอนที่ 2
   ขั้นตอนที่ 4 การเขียนรายงานโครงงาน เขียนรายงานโครงงานจากข้อมูลที่ไปศึกษาค้นคว้ามาตรวจสอบกับสมมุติฐานลงในแบบบันทึก
   ขั้นตอนที่ 5 การนำเสนอผลงาน เขียนบรรยายวิธีการนำเสนอผลงาน
   ขั้นตอนที่ 6 การวัดผลประเมินผล เขียนความรู้สึกที่มีต่อการทำโครงงานแลกเปลี่ยนตรวจสอบกับเพื่อน ผู้ปกครอง ครู

คำชี้แจงเกี่ยวกับความหมายของแต่ละหัวข้อมีดังนี้
  การตั้งชื่อโครงงาน กำหนดปัญหาหรือหัวข้อที่ต้องการศึกษาค้นคว้าคำตอบ ถ้าผู้เรียนระดับชั้นต้นๆควรจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ควรเป็นคำถามหรือข้อความที่กะทัดรัดชัดเจน สื่อความหมายได้ตรง ผู้อ่าน อ่านแล้วสนใจชวนให้ติดตามเนื้อหาสาระ
  การเขียนความเป็นมาของโครงงาน หมายถึง กล่าวถึงสาเหตุหรือแรงจูงใจที่ทำให้นักเรียนเกิดความสงสัย     ใคร่รู้ อยากรู้คำตอบของสิ่งที่ต้องการศึกษา เป็นการอธิบายว่าเหตุใดจึงเลือกทำโครงงานชิ้นนี้ มีเหตุจูงใจอะไร มีความสำคัญอย่างไร มีหลักการหรือทฤษฎีอะไรที่เกี่ยวข้อง
  การเขียนวัตถุประสงค์ของโครงงาน หมายถึง การกำหนดสิ่งที่ต้องการทราบว่าเมื่อเสร็จสิ้นการศึกษา ควรมีความหมายเฉพาะเจาะจง และสามารถวัดได้เป็นการบอกขอบเขตของงานที่จะทำได้ชัดเจนขึ้น คิดทบทวนไตร่ตรองหาเหตุผลประกอบการตัดสินใจว่าต้องการอะไรจากการทำโครงงานครั้งนี้ เขียนสิ่งที่ตนเองต้องการ พูดคุยกับเพื่อนเพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น
  การเขียนแผนผังความคิดแบบ Web หมายถึง เป็นการเขียนเพื่ออธิบายจากหัวข้อใหย่สู่หัวข้อย่อยๆ ของแต่ละเรื่อง ปัญหาที่ต้องการศึกษา แตกแขนงให้เห็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกัน ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา
  การเขียนแผนผังโครงงานแบบตาราง หมายถึง การนำตารางแผนผังโครงงานที่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นเสมือนแผนการดำเนินงานโครงงานมาใส่ไว้เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของคำถาม สมมุติฐาน วิธีการศึกษา แหล่งศึกษา
  คำถาม ดอกกุหลาบมีเกสรตัวผู้หรือไม่
  สมมุติฐาน มีเพราะกุหลาบมีเมล็ดอยู่ในกระเปาะของดอก
  วิธีการศึกษา สอบถามผู้รู้ค้นคว้าทดลองพิสูจน์จากของจริง
  แหล่งศึกษา ผู้รู้ หนังสือเกี่ยวกับพืช ดอกกุหลาบจริง
  ระยะเวลาที่ใช้ศึกษา กำหนดเป็นจำนวนวัน สัปดาห์ หรือเดือนแล้วแต่ความเหมาะสม
  ผู้รับผิดชอบ กำหนดผู้รับผิดชอบแต่ละหัวข้อให้ชัดเจน
  การเขียนขั้นตอนการดำเนินงาน หมายถึง การบรรยายสภาพให้เห็นขั้นตอนการทำงานของนักเรียนตั้งแต่ต้นจนจบเป็นโครงงานสำเร็จ จะต้องอธิบายว่าออกแบบอย่างไร จะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง รวมทั้งระบุวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ ครูชี้นำให้ดังนี้
  1. นักเรียนถามตัวเองว่ามีวิธีใดบ้างที่จะศึกษาเรื่องนั้นๆได้
  2. นักเรียนเลือกวิธีการที่เหมาะสมและสามารถทำได้ในข้อจำกัดที่มีอยู่
  3. กำหนดขั้นตอนหรือวิธีการศึกษาและระยะเวลา
  4. กำหนดวิธีการนำเสนอผลงาน
  การเขียนผลการศึกษา หมายถึง คำตอบของคำถามที่ตั้งไว้แต่ละหัวข้อว่าหลังจากไปศึกษาแล้วได้คำตอบว่าอะไร
  การเขียนประโยชน์ที่ได้รับ หมายถึง การเขียนบรรยายความคาดหวังที่นักเรียนมีต่อโครงงาน การบรรยายผลที่ได้รับจากการศึกษาโครงงานชิ้นนี้ ว่าผู้ศึกษาได้ศึกษาแล้วตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ ให้ประโยชน์ด้านใดบ้าง เช่น ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ได้ทราบคำตอบของปัญหาที่ศึกษาอย่างละเอียดชัดเจนจนเป็นที่พอใจ
  วิธีการนำเสนอผลการศึกษา หมายถึง การนำผลการศึกษาออกเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ที่เหมาะสมกับเรื่องที่ศึกษาและมีความเป็นไปได้ ซึ่งผู้เรียนจะเป็นผู้นำเสนอข้อมูลหรือผลสรุปของการศึกษาค้นคว้า อาจนำเสนอในรูปของรายงานหน้าชั้นเรียน หรือนำเสนอรูปแบบpower point หรือการจัดบอร์ดแสดงสิ่งที่ศึกษาหรือการแสดงในรูปของละครหรือด้วยวาจา เป็นต้น
  การเขียนแหล่งอ้างอิง หมายถึง หนังสือหรือเอกสารหรือบุคคลหรือแหล่งสืบต้นทางสื่ออินเตอร์เน็ต( ครูรัชนี อยากเพิ่มเติมว่าการเรียนแบบโครงงานทุกวันนี้ต้องใช้ระบบICTเข้ามาช่วยด้วยเพื่อข้อมูลนำเสนอจะได้ทันสมัยขึ้น )ที่นักเรียนไปศึกษาค้นคว้า แล้วได้นำความรู้มาตอบคำถามของโครงงาน การเขียนเอกสารอ้างอิงควรบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้ครบถ้วน เช่น
  1. ถ้าเป็นหนังสือตำรา ต้องบอกชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือ ชื่อโรงพิมพ์ ปีพ.ศ.ที่พิมพ์ นักเรียนได้เขียนข้อมูลจากหน้าที่เท่าไร
  2. ถ้าเป็นสิ่งพิมพ์ เช่น วารสาร หนังสือพิมพ์ ต้องบอกชื่อผู้เขียนคอลัมน์ ชื่อวารสารหรือหนังสือพิมพ์ วัน/เดือน/ปี ที่ตีพิมพ์
  3. ถ้าเป็นบุคคล บอกชื่อ นามสกุล อายุ อาชีพ สถานที่ของผู้ที่สามารถติดต่อได้ ความชำนาญที่มี
  4. ถ้าสืบค้นข้อมูลทางinternet ต้องบอกเวปไซต์ที่นำข้อมูลมานำเสนอว่ามาจากที่ใด
  การเขียนความรู้สึกที่มีต่อการทำโครงงานชิ้นนี้ หมายถึง ให้นักเรียนเขียนบรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นก่อนทำโครงงาน ขณะทำโครงงาน และหลังทำโครงงาน ประโยชน์ที่นักเรียนได้รับ หรือความคาดหวังที่นักเรียนมีต่อโครงงาน
  เมื่อ คุณครู ได้ศึกษาทำความเข้าใจแล้ว คิดว่าคงไม่ยากเกินความพยายามของท่าน และหากมีข้อสงสัยปรึกษาได้ที่ กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา.
                                    นำมาฝากจากครูรัชนี  คุณานุวัฒน์
    ......หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ท่านคุณครู ที่สอนโครงงานอยู่ไม่มากก็น้อย....
                                                  ขอบคุณที่มาข้อมูลหลัก area.obec.go.th

  

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 29 มี.ค. 2552


เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย เทคนิคการสอนแบบโครงงานอย่างง่าย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ตัวเลข  บอกนิสัยแฟน

ตัวเลข บอกนิสัยแฟน


เปิดอ่าน 7,160 ครั้ง
เผยแพร่นวัตกรรม

เผยแพร่นวัตกรรม


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
การทำผ้ามัดย้อม...

การทำผ้ามัดย้อม...


เปิดอ่าน 7,201 ครั้ง
เปลี่ยนอะไร เพื่อปี 53

เปลี่ยนอะไร เพื่อปี 53


เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง
Heart attack

Heart attack


เปิดอ่าน 7,151 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

รวมของที่แพงที่สุดในโลก

รวมของที่แพงที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 7,198 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
       ดูลายแทง....ให้แจ้งใจ ......บอกนิสัยให้เจ้าตัว......ชัวร์ ๆ   ครับ
ดูลายแทง....ให้แจ้งใจ ......บอกนิสัยให้เจ้าตัว......ชัวร์ ๆ ครับ
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

"เต้าหู้"    รู้ไว้ไม่เสียหาย   หากรัก..ห่วงใยร่างกาย   อ่านบล็อกนี้ครับ...
"เต้าหู้" รู้ไว้ไม่เสียหาย หากรัก..ห่วงใยร่างกาย อ่านบล็อกนี้ครับ...
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

เอาการ์ตูน..มาฝากลูกศิษย์ครับ.
เอาการ์ตูน..มาฝากลูกศิษย์ครับ.
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

*** >>...อาการของโรครักที่มักเกิดกับเรา ...<<***
*** >>...อาการของโรครักที่มักเกิดกับเรา ...<<***
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

คู่มือการใช้งานระบบ  e-Weblog
คู่มือการใช้งานระบบ e-Weblog
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย

มาทำให้ไฟล์ Word ของคุณเป็น PDF กันดีกว่า
มาทำให้ไฟล์ Word ของคุณเป็น PDF กันดีกว่า
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู
เปิดอ่าน 28,569 ครั้ง

รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
เปิดอ่าน 82,484 ครั้ง

เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เปิดอ่าน 16,639 ครั้ง

ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
เปิดอ่าน 18,591 ครั้ง

Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
เปิดอ่าน 40,471 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ