ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

แชร์โพสต์...โ ม ฆ คุ รุ !...โพสต์ที่กระตุกต่อม จี้จุดการศึกษาไทย


ข่าวการศึกษา 18 เม.ย. 2558 เวลา 11:25 น. เปิดอ่าน : 74,701 ครั้ง
Advertisement

แชร์โพสต์...โ ม ฆ คุ รุ !...โพสต์ที่กระตุกต่อม จี้จุดการศึกษาไทย

Advertisement

ครูบ้านนอกดอทคอมได้ติดตามกระแส และแนวคิดทางการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยจากแหล่งข้อมูลต่างๆ และได้พบโพสต์หนึ่งของคุณ Siwakarn Patoommasoot กวีและนักวิชาการอิสระแห่งศูนย์เรียนรู้ทุ่งสักอาศรม ที่ได้โพสต์เรื่อง "โมฆคุรุ" ในเฟซบุ๊ค  Siwakarn Patoommasoot เมื่อ 17 เมษายน 2558 และมีผู้อ่านและติดตามได้แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ลองอ่านกันดูนะครับ

 

โ ม ฆ คุ รุ !
(ยาวสักหน่อย : แต่ฉันมิอยากจะเชื่อว่าครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ในประเทศของฉันจะมีสติปัญญาเพียงแค่นี้!)
***********

ฉันอยู่ในสังคมแห่ง “โมฆชน” และหมู่ชนผู้โมฆะ พวกเขาเหล่านั้นมาจากไหนกันละหรือ แต่เดิมฉันมีความเชื่อเพียงว่าโมฆบุตรย่อมมีที่มาจากครอบครัวอันเป็นโมฆะ อันกอปรด้วยโมฆบิดาและโมฆมารดาเป็นสาเหตุสำคัญ แต่ทว่าวันนี้ ฉันกลับพบสาเหตุสำคัญยิ่งกว่าเดิมอีกว่าพวกเขาต่างล้วนมีที่มาจากสถานศึกษาและระบบการการจัดการศึกษาอันเป็นโมฆะในประเทศของฉันด้วย

๑.น่าเศร้านักที่ครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ในประเทศของฉันสอนเด็กให้อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และแก้ปัญหานี้มานับสิบๆ ปีไม่สำเร็จ แม้ว่าจะมีแนวทางที่มีผู้รู้ผู้สามารถแก้ปัญหาได้มาชี้แนะและพิสูจน์ด้วยการทำให้ดูอย่างประจักษ์แจ้งเพียงใดแล้วก็ตาม ครูและผู้บริหารการศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังไม่นำพาจริงจัง ต่างยังคงมีข้ออ้างและข้อแก้ต่างของอุปสรรคมากมาย แท้จริงแล้วก็คือไม่ได้ใส่ใจที่จะกระทำอย่างจริงจัง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรียนรู้ปัญหาที่จริงแท้ มิหนำซ้ำยังมัวแต่หมกซ่อนปัญหากันไว้เป็นดินพอกหางหมู ปั้นแต่งแต่รายงานเอกสารข้อมูลให้ดูดี เอาตัวรอดกันไปวันๆ ปล่อยปละละเลยให้เด็กจำนวนไม่น้อยนั่งจมอยู่กับความมืดตั้งแต่ ป.๑ ถึง ม.๓ และแม้กระทั่ง ม.๖ ก็มากมี

๒.น่าเศร้านักที่ครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ยังทำแผนการสอนเพียงเพื่อให้ผู้มีอำนาจตรวจ แต่มิได้ใช้แผนนั้นเพื่อการสอนจริง และแม้กระทั่งอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยซึ่งจบปริญญาโท เอก นั้นด้วยเล่า ส่วนใหญ่ก็ยังสอนให้ทำแผนการสอนที่นักศึกษามิได้นำไปใช้จริง รวมทั้งอาจารย์ผู้สอนในมหาวิทยาลัยเองก็ไม่ได้เขียนแผนการสอนเช่นที่สอนนักศึกษา ต่างรู้ทั้งรู้ว่ากำลังทำในสิ่งที่เป็นมายาภาพ เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ ครูส่วนใหญ่ในประเทศของฉันนี้ ก็ยังไม่สามารถออกแบบการสอนที่จะสามารถนำพาผู้เรียนไปสู่สัมฤทธิผลแท้จริงของมาตรฐานหลักสูตรและ “ตัวชี้วัด” ได้

๓.น่าเศร้านักที่ครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ในประเทศของฉันล้วนตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้ได้ผลคะแนนจากการประเมินผลและทดสอบที่ดีขึ้น ด้วยวิธีการ “ติวข้อสอบ” กันอย่างเอาจริงเอาจัง ซึ่งไม่ต่างกับการตำข้าสารกรอกหม้อไปวันๆ ไม่น่าเชื่อว่าครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก จะมีสติปัญญาคิดกันได้เพียงแค่นี้ และกระทำเหมือนๆ กันทั้งประเทศ ถึงกับยอมเสียเวลาแห่งภารกิจที่จะกระทำให้เกิดผลที่ยั่งยืนกว่า ไปเพื่อกิจกรรมอันอับจนปัญญานี้กันทั้งแผ่นดิน จนพากันลืมไปเสียสิ้นว่าเป้าหมายของการศึกษาศึกษาที่จริงคือ “ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์” ต่างหาก การทดสอบทางวิชาการเป็นเพียงความรู้และความคิด ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เท่านั้น เมื่อกระแสหลักของการจัดการศึกษามองข้ามหรือละเลยคุณภาพเชิง “จริยปัญญา” และทักษะชีวิตของผู้เรียนเสียแล้ว การศึกษาก็หาเป็นประโยชน์แท้จริงไม่

๔.น่าเศร้านักที่ครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ในประเทศของฉันยังทำเอกสารข้อมูลประกันคุณภาพการศึกษาเพียงแค่ให้ สมศ.ตรวจประเมิน และไม่น่าเชื่อว่าบรรดา สมศ. จำนวนไม่น้อยซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ก็ยังคงก้มหน้าก้มตาตรวจประเมินแค่เอกสารข้อมูล วัตถุพยาน และร่องรอยของการ “ได้ทำ” หรือ “ได้สอน” แล้วปล่อยให้โรงเรียน “ผ่าน” การประเมิน ทั้งที่คุณภาพเชิงสัมฤทธิผลตามมาตรฐานหลักสูตรของผู้เรียนยังฟ้องอยู่ทนโท่ในทางตรงกันข้าม

๕.น่าเศร้านักที่ผู้บริหารการศึกษา ศน. และบุคลากรทางการศึกษาในระดับเขตพื้นที่ และสำนักการศึกษา ซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก ซึ่งมีตำแหน่งรับผิดชอบบริหาร กำกับดูแล และพัฒนาคุณภาพการศึกษา ยังมัวแต่สร้างโครงการ กิจกรรม และงานยิบย่อยที่ไม่เกิดประโยชน์ผลจริงแท้ลงไปให้โรงเรียนต้องเสียเวลาทำงาน ทั้งงานข้อมูล รายงาน และการดำเนินงานเพียงแค่ให้ “ได้ทำ” อาทิ โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ โครงการสหกรณ์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง โครงการสมาร์ตสคูล โครงการโรงเรียนรักการอ่าน โครงการโตไปไม่โกง และโครงการอื่นๆ อีกมาก ทั้งที่เนื้อหาของทุกโครงการเหล่านั้น ล้วนมีอยู่ในมาตรฐานหลักสูตรและ “ตัวชี้วัด” อย่างครบถ้วนแล้ว เพียงแต่ให้จัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานหลักสูตรและ “ตัวชี้วัด” ให้สัมฤทธิผลแค่นั้นเอง ผู้เรียนก็จะผ่านการเรียนรู้ มีประสบการณ์ และมีทักษะชีวิตด้านต่างๆ ตามที่พึงประสงค์ของทุกโครงการแล้ว แต่ก็ยังเปล่าเปลืองเวลากระทำกิจกรรมอันซ้ำซ้อนเช่นที่กล่าวนั้นกันอยู่ เหมือนสิ้นไร้สติปัญญา สยบยอมต่อความเคยชิน แม้บางครั้งจะถูกปลุกให้ตื่นให้รู้ตัวและเห็นทางเลือกที่ดีกว่า ก็ยังจำนนที่จะเป็นอยู่เช่นนั้น อ้างแต่ว่าหน่วยงานข้างบน เช่นกระทรวงฯ และ สพฐ. มีนโยบายลงมาอย่างนั้นอย่างนี้ แม้ข้ออ้างที่ว่านั้นจะมีมูลความจริงอยู่บ้างก็ตาม แต่หากไตร่ตรองดูให้ถี่ถ้วนก็จะเข้าใจได้ว่าไม่มีนโยบายใดๆ ที่ต้องการเพียงรายงานเอกสารข้อมูลที่ไปไม่ถึงสัมฤทธิผลแท้จริงหรอก จะมีสักกี่คนที่สามารถแปรรูปนโยบายให้แม่นตรงต่อการบริหารจัดการและการเรียนการสอนที่จะเกิดสัมฤทธิผลแท้จริงตามมาตรฐานหลักสูตรและ “ตัวชี้วัด” นั่นต่างหากคือประเด็นสำคัญที่พึงกระทำ

๖.น่าเศร้านักที่ครูและผู้บริหารการศึกษาซึ่งจบปริญญาตรี โท เอก และแถมยังมีตำแหน่งทางวิชาการ ที่ล้วนกินเงินเดือนอันเป็นเงินภาษีของราษฎรในแผ่นดินคนละ ๑๕,๐๐๐ บาท ถึง ๕๐,๐๐๐ กว่าบาท ยังคงถูกปล่อยปละละเลยให้ทำงานแบบไร้คุณภาพ แฟบฝ่อสติปัญญา และไร้อนาคตอีกมากมายอยู่เช่นนั้น
...

ฉันกำลังแสวงหา "มิตรผู้ไม่โมฆะ" ท่ามกลางสถานการณ์อันเป็น “โมฆะ” ดังที่กล่าวมา...หากครู ผู้บริหาร และข้าราชการท่านใดมิได้เป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องร้อนตัวนะครับ แต่ท่านที่มีคุณภาพทั้งหลายจะต้องลุกขึ้นมาก้าวนำ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ปฏิเสธในสิ่งที่รู้ว่าไม่ใช่และไม่เป็นประโยชน์ ช่วยกันผลักเคลื่อนระบบและองคาพยพการศึกษาให้พัฒนาไปสู่ทิศทางที่แม่นตรงเถิด แต่หากท่านตื่นรู้แล้วก็ยังร่วมกระทำผิดซ้ำซากกับบุคคลผู้ไร้คุณภาพ ไร้คุณธรรม และไร้จิตสำนึกเหล่านั้นอยู่ ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับ “โมฆคุรุ” เหล่านั้นหรอก!

โอ้...เมื่อครูผู้สอนคนในประเทศของฉันเป็นเช่นนี้ ก็มิต้องพูดถึงมวลมหาประชากร (ส่วนใหญ่) ที่เป็นผลผลิตของ "โมฆสิกขา" กันอีกแล้ว ว่าพวกเขาจะเป็นไปเช่นไรกันบ้าง
๑๗.๔.๒๕๕๘

 

ที่มาโพสต์นี้ คลิกที่นี่

ติดตามโพสต์ได้ที่ 
https://www.facebook.com/tungsakasome

 

อัพเดทล่าสุด วันนี้ 18 เมษายน 2558 คุณ ศิวกานท์ ปทุมสูติ ได้โพสต์เพิ่มเติม ดังนี้ครับ

แ บ บ พิ ม พ์ ที่ ชำ รุ ด ป ร ะ ช า ก ร ไ ร้ คุ ณ ภ า พ
ในสายน้ำแห่งความนิ่งเน่า !
.......................................


ในโพสต์ที่แล้ว ได้ทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ว่า "เมื่อครูผู้สอนคนในประเทศของฉันเป็น (แบบพิมพ์ที่ชำรุด) เช่นนี้ (ตามลิงค์ที่แนบ) ก็มิต้องพูดถึงมวลมหาประชากร (ส่วนใหญ่) ที่เป็นผลผลิตของ "โมฆสิกขา" กันอีกแล้ว ว่าพวกเขาจะเป็นไปเช่นไรกันบ้าง"
https://www.facebook.com/tungsakasome/
posts/10204169160851346:0

นั่นหมายความว่า ทั้งพ่อแม่ นักบวช นักการเมือง ข้าราชการ และหมู่มวลมหาประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นผลผลิตจากการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะยิ่งไร้คุณภาพและไร้คุณธรรมอีกมากมาย

ดังนั้น การพัฒนาคนเพื่อพัฒนาสังคม แม้กระทั่งพัฒนาคุณภาพของคนที่จะเป็นพ่อเป็นแม่ ก็ล้วนต้องกลับมาพัฒนาการศึกษา

วันนี้เด็กไทยทุกคนต้องผ่านระบบการศึกษาภาคบังคับให้เรียนตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.3 ขณะเดียวกัน พรบ.การศึกษาแห่งชาติก็กำหนดให้การจัดการศึกษาสร้างจิตสำนึกที่มีคุณค่าด้านต่างๆ อยู่ในมาตรา 7 และให้มุ่งหมายไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามมาตรา 6 แต่การจัดการศึกษาที่เราต่างก็รู้เห็น มิได้เป็นไปตามเจตนารมณ์นั้นเลย ก็เพราะเรามีครูและผู้บริหารในแต่ระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารสถานศึกษา สพป. สพม. สนก. สช. กระทั่งถึง สพฐ. และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ล้วนกระทำการอันเหลวไหลไร้คุณภาพดังที่กล่าวในบทความแล้วนั่นเอง แม้ว่าเราจะมีคนที่มีคุณภาพอยู่บ้าง แต่มันมีไม่พอที่จะผลักระบบและกลไกต่างๆ ให้สร้างสรรค์คุณภาพการศึกษาที่แม่นตรงต่อเป้าหมายปลายทาง

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปฏิวัติการศึกษาไทยทั้งโครงสร้างระบบ หลักสูตร และบุคลากรกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะหายนะไปกว่านี้!!!!!
๑๘.๔.๒๕๕๘ 


แชร์โพสต์...โ ม ฆ คุ รุ !...โพสต์ที่กระตุกต่อม จี้จุดการศึกษาไทยโมฆคุรุโมฆะคุรุ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

เปิดอ่าน 26,350 ☕ 24 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 386 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 605 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 686 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,226 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,005 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 887 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
เปิดอ่าน 31,167 ครั้ง

หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ
เปิดอ่าน 12,325 ครั้ง

วิธีแก้ the dependency service or group failed to start ใน Win7
วิธีแก้ the dependency service or group failed to start ใน Win7
เปิดอ่าน 45,852 ครั้ง

10 วิธีน้ำหนักลด โดยไม่รู้ตัว
10 วิธีน้ำหนักลด โดยไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 13,124 ครั้ง

พระสงฆ์กับความเป็นครู
พระสงฆ์กับความเป็นครู
เปิดอ่าน 20,942 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ