ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมคลิปวิดีโอ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว


คลิปวิดีโอ 29 มี.ค. 2556 เวลา 09:41 น. เปิดอ่าน : 16,025 ครั้ง
Advertisement

คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว

Advertisement

Advertisement

 

 

เมื่อพูดถึง "ด.ช.ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี" เชื่อว่ามีทั้งคนรู้จัก และไม่รู้จัก แต่ถ้าหากใครได้เคยติดตามข่าวเมื่อหลาย ๆ ปีก่อน เขาคือเด็กชายที่มีความสามารถรอบด้าน โดยเฉพาะการ เดี่ยวไวโอลิน ที่เคยสร้างสถิติที่มีผู้ชมสูงถึง 18 ล้านครั้งในยูทูปมาแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยวัยเพียง 4 ขวบ (ปัจจุบันอายุ 9 ขวบ) เขาสามารถจัดนิทรรศการแสดงภาพศิลปะเดี่ยว Solo Art Exhibition ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนในปี 2549

ที่สำคัญ ทุกชิ้นงานของเขามีความเป็นสากลจนสามารถสร้างสถิติการประมูลที่น่าทึ่ง และประสบความสำเร็จตั้งแต่ชิ้นแรกของการนำผลงานออกทำการประมูล และด้วยแรงประมูลแข่งขันกันของผู้ซื้อ ทำให้ราคาสูงขึ้นไปถึง 5 เท่าของราคาตั้งครั้งแรก หรือมีราคาขายสูงมากกว่า 20 เท่าของราคาที่เคยขายในประเทศไทยจนชาวต่างชาติพากันทึ่งกับความสำเร็จในครั้งนั้น

และที่อึ้งทึ่งไปกว่านั้น ผลงานทางศิลปะของเขาได้มีนักสะสมทั่วโลกซื้อไปสะสมมากกว่า 1 พันภาพจนได้รับฉายา "ปิกัสโซ่น้อย" ทำให้สื่อต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจ สัมภาษณ์เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ รายการโทรทัศน์หลายครั้งหลายหน

นอกเหนือจากความสามารถข้างต้นแล้ว ธนัชยังมีความสามารถด้านดนตรี กีฬา ภาษาอังกฤษ และยังสนใจเรื่องดาราศาสตร์ กอล์ฟ และมวยไทยอีกด้วย

แต่ทั้งหมดที่หลายคนเรียกมันว่า "พรสวรรค์" เหล่านี้จะเจิดจรัสไม่ได้เลย ถ้าไม่มีคุณพ่อธนู และคุณแม่วัชราภรณ์คอยส่งเสริม และสนับสนุนอย่างเต็มที่

คุณแม่วัชราภรณ์ เริ่มต้นเล่าให้ ทีมงาน Life & Family ฟังถึงจุดเริ่มต้นของพรสวรรค์ในตัวลูกชายคนนี้ว่า "หูทางดนตรี" เป็นพรสวรรค์แรกของลูกที่เธอสังเกตได้ตั้งแต่ยังเล็ก

"สิ่งแรกที่แม่เจอคือหูทางดนตรี คือวันหนึ่งแม่เปิดเพลงเด็ก ๆ ร้องว่า C-o-c-o-n-u-t Coconut เป็นภาษาอังกฤษให้ลูก ฟังขณะที่แม่ก็ขับรถไปเรื่อย ๆ ธนัชตอนนั้นเพิ่งจะอายุได้หนึ่งขวบกับสิบเดือน นั่งอยู่ใน Child Seat ที่เบาะหลัง เขาบอกแม่ว่า หม่ามี้ เพลงนี้เหมือนกับเพลง Alouette เลย (Alouette เป็นเพลงสำหรับเด็กเป็นภาษาฝรั่งเศส) ถ้าแม่ไม่ได้ใส่ใจ คิดเพียงว่าเป็น เพียงประโยค ๆ หนึ่งที่ลูกเล็ก ๆ เอ่ยออกมา เราอาจไม่ได้เห็นธนัชเล่นดนตรี แต่วันนั้น แม่ฉุกใจคิดว่า เอ๊ะ ถ้าเด็กแค่ขวบสิบเดือน บอกผู้ใหญ่อย่างเราได้ว่า เพลงสองเพลง ร้องกันคนละภาษาเลย แต่ใช้ทำนองเดียวกัน เขาต้องมีหูทางดนตรีที่ดีแน่เลย แต่ก่อนอื่น แม่ต้องพิสูจน์ก่อนว่าลูกพูดถูกหรือเปล่า แม่ก็รีบหาที่จอดรถ แล้วตั้งใจฟังเพลง ปรากฏว่าถูกของลูก เมื่อกลับถึงบ้านก็ตื่นเต้นบอก คุณพ่อ ต่อจากนั้นเราก็ยังทดสอบเพลงอื่น ๆ อีกหลายเพลง ลูกตอบได้หมดเลย เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าดนตรีนี่ใช่"

พอเริ่มค้นพบเรื่องดนตรี และมั่นใจว่าลูกมีศักยภาพทางด้านนี้ ทั้งตัวเธอและสามีก็พยายามส่งเสริมลูกอย่างเต็มที่

"เราเปิดเพลงให้เขาฟัง และพาเขาออกไปเห็นการแสดงจริง ไปพบนักดนตรีขณะเล่น เราพาธนัชไปดูโอเปร่าตั้งแต่สองขวบ ลองนึกภาพเด็กสองขวบ นั่งอยู่ในโรงละครไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง โอกาสที่พ่อแม่ลูกจะดูการแสดงโดยที่ลูกไม่ยุกยิกรบกวนคนอื่นนั้นค่อนข้างยาก แต่ธนัชอยู่ได้ นั่งดูอย่างตั้งอกตั้งใจ ตั้งแต่สองทุ่มซึ่งปกติจะเป็นเวลานอนของเขา จนโอเปร่าจบตอนห้าทุ่ม พอเราเห็นเขาดูได้ เราก็พาเขาออกบ่อยขึ้น ไปชมวงออร์เคสตรา จนเขาเป็นคนบอกว่าเขาอยากเล่นไวโอลินเมื่อตอนอายุได้สามขวบครึ่ง ก็เริ่มเรียนแล้วพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ มาจนถึงทุกวันนี้"

หลังจากนั้น เธอ และสามีก็ค่อย ๆ สังเกต และสนับสนุนความสามารถด้านอื่น ๆ ของลูกตามมาทั้งศิลปะ กีฬา ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์

"สิ่งที่เราพบ มันไม่ได้มาพร้อม ๆ กัน แต่ค่อย ๆ มา ตามความเหมาะสมของวัย ความพร้อมของร่างกาย พัฒนาการทางสมอง เราพบศักยภาพทางภาษาก่อนตั้งแต่ธนัชอายุไม่ถึงขวบ เขาก็พูดได้ 2 ภาษาด้วยหลาย ๆ พยางค์ ตามด้วยดนตรีกับศิลปะ พอโตขึ้น เรายังได้พบความสามารถทางการพูดในที่สาธารณะ (public speaking) และวิชาการอื่น ๆ อีกโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์"

"ดังนั้น ไม่ต้องมีญาณพิเศษสำหรับการเลี้ยงลูก แต่พ่อแม่ต้องใส่ใจในสิ่งที่บางครั้งอาจดูเล็กน้อยไม่สำคัญ เพราะเวลาที่ลูกฉายแววบางอย่างออกมา อาจมาเพียงแวบเดียว แล้วก็ผ่านไป ถ้าเราไม่ทันสังเกต เราอาจไม่พบ และเมื่อเราพบอะไรบางอย่าง อาจจะใช่และไม่ใช่ พ่อแม่ต้องเอามาคิดต่อว่าจะทดสอบอย่างไรว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ แล้วเมื่อพบแล้ว จะพัฒนาอย่างไร เหล่านี้ เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ทั้งพ่อและแม่ต้องประสานแรงกายแรงใจช่วยกันในทุก ๆ ก้าวที่ลูกเติบโตขึ้น" คุณพ่อธนูกล่าวพร้อมกับมีความเชื่อว่า "เด็กทุกคนมีพรสวรรค์อยู่ในตัว"

"นั่นคือสิ่งที่เราเชื่อเสมอ พ่อแม่ทุกคน ถ้าเชื่ออย่างนี้ เมื่อพบพรสวรรค์ของลูกแล้วหาวิธีพัฒนา ถ้าพัฒนาเองไม่ได้ ต้องหาผู้เชี่ยวชาญ และต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พรสวรรค์นั้นก็จะส่งประกายเจิดจรัสออกมาครับ ถ้าพ่อแม่ให้เวลากับลูก เฝ้าทะนุ ถนอมเลี้ยงดูและสังเกตลูก พ่อแม่ก็จะเห็นว่าลูกจะทยอยส่งสัญญาณให้พ่อแม่รู้ว่า เขาชอบ และมีความสุขเมื่อได้ทำอะไร" คุณพ่อธนูขยายความถึงความเชื่อข้างต้น

เผยเทคนิคเลี้ยงลูกให้เก่ง และมีความสุข

คุณพ่อธนูกล่าวต่อไปว่า การเลี้ยงลูกให้เก่ง และดีนั้น บทหนักอยู่ที่พ่อแม่ที่ต้องเรียนรู้ไปกับเขาในสิ่งที่เขาอยากทำ หากลวิธี มีระเบียบวินัย และสร้างแรงจูงใจให้เขาฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ให้เขารู้สึกสนุกสนาน และรู้ว่าพ่อแม่อยู่เคียงข้างเขา คอยเป็นกำลังใจให้เขาเสมอ

"ธนัชเป็นเด็กคนเดียวของบ้าน ดังนั้นเราไม่ได้เทียบว่าลูกเราพิเศษกว่าเด็กอื่น เราเพียงแต่พบว่าลูกมีสิ่งใดมากับตัว สิ่งใดที่เขาชอบ แล้วเราก็พัฒนาเขาตั้งแต่เล็กซึ่งเป็นช่วงที่พัฒนาการทางร่างกาย ใยสมอง อารมณ์ ความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนรู้ของเขามีเต็มเปี่ยม ประกอบกับเวลาในขณะนั้นของลูกก็ยังมีอยู่อย่างเหลือเฟือ เมื่อใส่สิ่งที่ถูกต้องกับความชอบของลูกด้วยวิธีการอันเหมาะสม และต่อเนื่อง ผลลัพธ์ก็ออกมาดีเอง" คุณพ่อธนูเผย

ด้วยการเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในหลาย ๆ เรื่อง ความคาดหวังของพ่อแม่ย่อมต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย แต่สำหรับครอบครัวนี้ พวกเขามีความหวังเหมือนพ่อแม่ทั่ว ๆ ไปที่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ เป็นเด็กดี ดูแลตัวเองได้ และสามารถดูแลและเป็นที่พึ่งให้พ่อแม่ยามสูงวัยได้ในอนาคต

"เราก็คงเหมือนกับพ่อแม่ทั่ว ๆ ไป ที่อยากเห็นลูกประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาทำ เป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น และมีความสุขในชีวิต เราพยายามที่จะให้เขาเติบโตเล่าเรียนในประเทศไทยนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะได้มีโอกาสซึมซับทัศนคติ ค่านิยม และความเป็นไทยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ" คุณพ่อธนูเผย

แม้วันนี้ด.ช.ธนัชจะกลายเป็นเด็กมีชื่อเสียง มีความสามารถ และเก่งในหลาย ๆ ด้าน แต่คุณลักษณะนิสัยดี ๆ ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมคือสิ่งที่บ้านนี้ให้ความสำคัญมาก

"เรายังต้องดูแลไม่ให้เขาลืมตัว หรือหยิ่งยโส ธนัชยังคงได้รับการปลูกฝังให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ ถึงแม้เขาสามารถเรียนรู้ในระดับที่สูงกว่าอายุ แต่เรายังคงให้ความสำคัญกับวัยเด็กของเขา เขายังต้องได้เล่นสนุก ตามวัย ตามจินตนาการของเขาอย่างที่เด็กในวัยนี้พึงมี เพราะเราตระหนักดีว่าเขาเป็นเด็กได้เพียงครั้งเดียว ส่วนเวลาที่จะเติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่นั้นยังมีอีกยาวไกล เราจึงพยายามรักษาช่วงเวลาที่ดีที่สุดนี้ของเขาให้นานที่สุด เขายังเล่นกับคุณพ่อคุณแม่แบบเด็ก ๆ ยังกระโดดกอดคอ ขี่หลัง จักจี้ และเล่นอะไร ๆ แบบเบสิค แต่ก็ให้ความสุขสำราญกันทั้งครอบครัว" คุณแม่วัชราภรณ์เล่า

วันสบายๆ สไตล์น้องธนัช

สำหรับตัวตนของธนัช คุณพ่อธนูเป็นตัวแทนบอกเล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่า ธนัชเป็นเด็กแจ่มใส เบิกบาน สุภาพ อ่อนโยน ขี้เล่น มีอารมณ์ขัน ช่างพูด ช่างคุย ชอบพบปะสังสรรค์กับผู้คน กล้าแสดงออกในที่สาธารณะ และรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ

ทุก ๆ เช้า ธนัชจะตื่นตีห้าครึ่งด้วยเสียงหัวเราะกับคุณพ่อ เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็จะลงมาเริ่มวันใหม่ด้วยแปะก๊วยนมสดอุ่น ๆ ที่คุณพ่อเตรียมไว้ให้ แล้วจึงออกไปหน้าบ้านเพื่อออกกำลังกาย เริ่มตั้งแต่การวอร์มด้วยการยืดเส้นยืดสาย (Stretching) จากศีรษะถึงปลายเท้า ต่อด้วยการรำมวยจีน (ไทชิ) กระโดดเชือก วิดพื้น ถ้ายังพอมีเวลาก็ไปซ้อมพัตต์กอล์ฟ และเปียโน แล้วส่งไม้ต่อไปให้คุณแม่ที่จะต่อด้วยการซ้อมไวโอลิน ซึ่งช่วงนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง พอเสร็จก็ได้เวลาอาหารเช้า พักอาบน้ำแต่งตัว

หลังจากนั้นก็เป็นเวลาของวิชาการต่าง ๆ ที่ต้องใช้สมอง และสมาธิ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และวิชาอื่น ๆ สับเปลี่ยนกันไป พอเที่ยงก็พักรับประทานอาหารกลางวัน เล่นตามอัธยาศัย แล้วต่อด้วยวิชาการที่เป็นกิจกรรม เช่น ศิลปะ การเรียนแบบ Interactive บนคอมพิวเตอร์ พิมพ์ดีดไทย-อังกฤษ ช่วงบ่ายก็จะมีการออกกำลังกับคุณพ่อ เช่น แบดมินตัน หรือซ้อมชกเป้าแบบมวยไทยตามแต่ที่เขาอยากจะเล่น ก่อนอาหารเย็นก็จะซ้อมไวโอลินอีกรอบ เสร็จจากทานอาหารเย็น พักผ่อนดูรายการสารคดีทางโทรทัศน์ เล่นตามอัธยาศัย ทุ่มครึ่งถึงสองทุ่ม เตรียมอาบน้ำเพื่อเข้านอน

แต่ก่อนเข้านอน ธนัชจะมาทบทวนคำศัพท์ด้วยการเขียนไทยและอังกฤษ วัน 10 คำ และเขียนเรียงความ (Essay) ความยาว 15 บรรทัด จบวันด้วยเสียงหัวเราะกับคุณพ่อ ด้วยการเล่นแบบเด็กผู้ชาย มวยปล้ำที่สนุกสนานสร้างเสียงหัวเราะไปไกลถึงคุณแม่ที่กำลังทำความสะอาดห้องครัว แล้วจึงเข้านอนหลับไปด้วยรอยยิ้ม

นอกจากเวลาเรียนรู้ในบ้านแล้ว คุณพ่อเล่าต่อไปว่า บางวันก็จะพากันออกไปเรียนรู้นอกสถานที่ ทั้งสวนสาธารณะในตอนเช้าเพื่อวิ่งเล่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เข้าห้องสมุดท่านพุทธทาส ไปเรียนพิเศษกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น เรียนกับอาจารย์สอนไวโอลิน ส่วนกิจกรรมต่าง ๆ ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม

ปัจจุบันธนัชอายุ 9 ขวบ ออกมาจากระบบโรงเรียนตอนประถมศึกษาปีที่ 3 แล้วมาเรียนในระบบโฮมสคูล (Home School) อยู่ที่บ้าน โดยจดทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายใต้สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งคาดว่า ในปีหน้า ธนัชจะสามารถรับการประเมินเพื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากธนัชเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำ ให้ความรู้ทางวิชาการหลายวิชาของเขาพัฒนาไปจนถึงระดับมัธยมแล้ว

ด้วยความที่ธนัชทำอะไรได้ในระดับดีเยี่ยมในหลาย ๆ ด้าน ทำให้ยังยากที่จะตอบว่าเขาจะเป็นอะไรในอนาคต ในฐานะพ่อแม่ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือ สนับสนุน ส่งเสริม เปิดโอกาส ให้เขาได้เรียน ได้ลอง ได้สัมผัส มีประสบการณ์ในสิ่งที่เขาสนใจและอยากเรียนรู้

"พ่อแม่เป็นผู้นำทาง และชี้ให้เห็นถึงหนทางก้าวหน้าในแต่ละอาชีพ แต่การตัดสินใจสุดท้ายคงอยู่ที่ตัวเขา ซึ่งเราคำนึงถึงความสมดุลในทุก ๆ ด้านเป็นปัจจัยสำคัญ การพัฒนาลูก เราไม่ได้มุ่งแต่วิชาการหรือความสามารถ แต่เรายังคำนึงถึงคุณธรรมในจิตใจที่ต้องระลึกเสมอว่าการเป็นคนดี สำคัญกว่าการเป็นคนเก่ง และต้องมีความกตัญญูควบคู่ไปด้วย" นี่คือสิ่งที่คุณพ่อธนู และคุณแม่วัชราภรณ์ มองว่า ชีวิตคือของลูกไม่ใช่พ่อแม่เป็นผู้ชี้ขาด

ท้ายนี้ การจะพัฒนาลูกให้มีคุณภาพนั้น คุณแม่วัชราภรณ์ฝากแง่คิดไว้น่าสนใจว่า การร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ระดมสมองและความคิดของทั้งพ่อและแม่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อลูกตระหนักว่าสิ่งที่เขาทำนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง พ่อแม่เห็นความสำคัญ และให้การยอมรับ เขาก็จะทำสิ่งอื่น ๆ ตามออกมาให้เห็นเรื่อย ๆ

ส่วนคุณพ่อธนูกล่าวสั้น ๆ แต่ลึกซึ้งว่า ชีวิตนี้ทุ่มเทเพื่อลูกเพียงคนเดียว

"ผมเกษียณอายุตัวเองตั้งแต่อายุสี่สิบต้น ๆ ผ่านงานมามากมายหลายสาขา ส่วนแม่เขาก็เกษียณตั้งแต่อายุสามสิบต้น ๆ เราทั้งคู่เคยทำงานในตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทใหญ่ ตอนนี้ผมเลยหกสิบไปแล้ว ส่วนแม่เขาก็ห้าสิบ เราทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับลูกรักคนเดียวของเรา หนูน้อยธนัช เปลวเทียนยิ่งทวีครับ"

ทั้งหมดนี้ คือเบื้องหลัง และที่มาของความสามารถพิเศษด้านต่างๆ ของธนัชที่มีคุณพ่อคุณแม่คอยบริหารจัดการเวลาให้ลงตัวควบคู่ไปกับการเสริมสร้างชีวิตที่สนุกสนานตามวัย และคงไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่า "ความรัก" นั่นเองคือตัวจุดประกายอัจฉริยะในตัวเด็กผู้ชายที่ชื่อ "ธนัช เปลวเทียนยิ่งทวี" คนนี้

 

ขอบคุณที่มาจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ธันวาคม 2554


คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้วคลิปน้องธนัชเด็กไทยอัจฉริยะตอน4ขวบเดี่ยวไวโอลินที่ยอดวิวตอนนี้22ล้านแล้ว

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"

ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"

เปิดอ่าน 12,075 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
รับชมที่นี่ วีดิทัศน์ สอนการเขียนสระภาษาไทยที่ถูกต้อง
รับชมที่นี่ วีดิทัศน์ สอนการเขียนสระภาษาไทยที่ถูกต้อง
เปิดอ่าน 47,340 ☕ คลิกอ่านเลย

คลิปสะเทือนวงการข่าว! "เตเต้-ปันปัน" นร.ศรีสะเกษ สวมบทผู้ประกาศ เป๊ะ ปังมาก
คลิปสะเทือนวงการข่าว! "เตเต้-ปันปัน" นร.ศรีสะเกษ สวมบทผู้ประกาศ เป๊ะ ปังมาก
เปิดอ่าน 10,941 ☕ คลิกอ่านเลย

อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
เปิดอ่าน 111,611 ☕ คลิกอ่านเลย

คลิปข่าวทุจริตสอบ ล่าสุดจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 9 มี.ค.56
คลิปข่าวทุจริตสอบ ล่าสุดจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ 9 มี.ค.56
เปิดอ่าน 17,541 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อคิดดีๆ จากละคร "แรงเงา"
ข้อคิดดีๆ จากละคร "แรงเงา"
เปิดอ่าน 22,183 ☕ คลิกอ่านเลย

10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ
10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ
เปิดอ่าน 65,713 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?
เปิดอ่าน 29,520 ครั้ง

ต้นสาคู
ต้นสาคู
เปิดอ่าน 52,876 ครั้ง

ทำงานเกินกำลัง...ทำให้ป่วย
ทำงานเกินกำลัง...ทำให้ป่วย
เปิดอ่าน 9,715 ครั้ง

วิธีแก้อาการปวดหลัง
วิธีแก้อาการปวดหลัง
เปิดอ่าน 18,253 ครั้ง

ปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปด้านการศึกษา (มัธยมศึกษา)
ปฏิรูปประเทศ การปฏิรูปด้านการศึกษา (มัธยมศึกษา)
เปิดอ่าน 16,446 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ