ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

มติ ครม. 15 ตุลาคม 2555 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 16 ต.ค. 2555 เวลา 10:29 น. เปิดอ่าน : 16,535 ครั้ง
Advertisement

 มติ ครม. 15 ตุลาคม 2555 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

Advertisement

มติ ครม. 15 ตุลาคม 2555 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๕ เรื่อง คือ

♦ เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัยฯ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙
♦ อนุมัติค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ
♦ อนุมัติให้รวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาจัดตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร ๔๑ แห่ง
♦ เห็นชอบโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ระยะที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๖๐)
♦ เห็นชอบ MOU ระหว่าง ศอ.บต. กับองค์กร Muhammadiyah ของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย

๑. เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัยฯ ตามนโยบายรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙

ครม.มีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษาปีที่ ๑) ตามนโยบายรัฐบาล ด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙ ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนในช่วงเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงที่มีความสำคัญยิ่งต่อพัฒนาการของเด็ก เป็นช่วงวัยที่ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

โดยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษาปีที่ ๑) ตามนโยบายรัฐบาลด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙ ให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน โดยขอให้ดำเนินการในลักษณะแผนการดำเนินการระยะยาวและต่อเนื่อง ครอบคลุมเรื่องการดูแล การศึกษา และพลานามัยที่ดี และให้ ศธ.ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และรายงานต่อคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ เป็นระยะๆ หรือปีละ ๑-๒ ครั้ง

ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของพ่อแม่และผู้ดูแลในการเลี้ยงเด็กที่เหมาะสมกับการพัฒนาการทางสมอง สติปัญญา ร่างกายและจิตใจของเด็กในช่วงปฐมวัยในอันที่จะมีภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างสมดุลในทุกด้าน ซึ่งประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ ดังนี้

  • ยุทธศาสตร์ที่ ๑ เด็กทุกคนได้รับบริการในการพัฒนาเต็มศักยภาพ
  • ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ไอโอดีนกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย
  • ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย
  • ยุทธศาสตร์ที่ ๔ กลไกการดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัย 
     

 สำหรับความเป็นมาของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ (ก.พ.ป.) ได้ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ ได้เห็นชอบความสำคัญของเด็กปฐมวัยและนโยบายของรัฐ (เร่งรัดเพื่อให้เด็กปฐมวัยแรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษาปีที่ ๑ ทุกคน ได้รับการพัฒนารอบด้านตามวัยอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง) โดยมอบหมายให้ ศธ.ประสานกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว

ต่อมา ศธ.โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ได้ดำเนินงานร่วมกับ ๗ กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๓๕ หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรชุมชน จัดประชุมปรึกษาหารือ และประชุมปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัยฯ เป็นระยะๆ หลายครั้ง โดยมีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงาน บุคคล สาธารณชนอย่างรอบด้าน จนกระทั่งนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ ครม.เห็นชอบในครั้งนี้

 

๒. อนุมัติค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับคนพิการ

ครม.มีมติอนุมัติอัตราค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับคนพิการทุกระดับทุกประเภท ตามที่ ศธ.เสนอ ทั้งนี้ เพื่อให้สถานศึกษาสามารถดำเนินการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาสำหรับคนพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตการศึกษาที่มีคุณภาพตามที่กำหนด ตลอดจนให้คนพิการที่สำเร็จการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรู้ ความสามารถ เพื่อใช้ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือเพื่อเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพและใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม

ค่าใช้จ่าย ที่ใช้สำหรับจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ ประกอบด้วย ๑) ค่าบริหารจัดการ ได้แก่ ค่าวัสดุการศึกษา ค่าวัดและประเมินผลการศึกษา ค่าสอนเสริม ค่าเสื่อมสภาพ และค่านิเทศติดตาม ๒) ค่าตอบแทน ได้แก่ ค่าตอบแทนครูผู้สอน ค่าพาหนะ และค่าประกันสังคม ๓) งบประมาณเพิ่มเติมตามนโยบายรัฐบาล ได้แก่ ค่าหนังสือเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

สำหรับความเป็นมาที่ ศธ.ได้เสนอขออนุมัติ เนื่องจากข้อมูลปี ๒๕๕๐ พบว่าประเทศไทยมีคนพิการ ๑.๙ ล้านคน โดยเฉลี่ยประชากรที่พิการอายุ ๕-๓๐ ปี มี ๒.๓ แสนคน ในจำนวนนี้มีเพียงร้อยละ ๑๘.๓ ที่เข้ารับการศึกษาในระบบการศึกษา ในขณะที่ร้อยละ ๘๑.๗ ไม่ได้ศึกษาหรือไม่เคยได้รับการศึกษา จึงจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้คนทุกประเภท รวมทั้งผู้พิการ โดยทัดเทียมกับบุคคลอื่น ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา ๔๙ และสอดคล้องกับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๔๕ และ พ.ร.บ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ.๒๕๕๑ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ ในส่วนนโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ศธ.โดยสำนักงาน กศน.ได้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย สำหรับคนพิการจำนวน ๗,๓๑๑ คน โดยจัดบริการใน กศน.ตำบลทั่วประเทศ ๗,๔๐๙ แห่ง แต่เนื่องจากการศึกษาคนพิการต้องใช้ระยะเวลา สื่อ วัสดุ อุปกรณ์เฉพาะสำหรับการเรียนการสอน ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายต่อหัวในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ ต้องใช้งบประมาณจากเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวจากกลุ่มเป้าหมายประชาชนทั่วไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การจัดการเรียนการสอนสำหรับคนพิการ จะใช้จ่ายในอัตราที่สูงกว่ากลุ่มประชาชนปกติเป็นอย่างมาก ดังนั้นการใช้งบประมาณจากเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายต่อหัวจากกลุ่มประชาชนทั่วไป จึงไม่เพียงพอต่อการจัดการศึกษาคนพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลกำหนดได้อย่างแท้จริง

ดังนั้น จึงได้ขอให้ ครม.กำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ ต่อหัวต่อปี ซึ่ง ครม. ได้เห็นชอบดังนี้

 

๓. อนุมัติให้รวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาจัดตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร ๔๑ แห่ง

ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงซึ่งออกตามความพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญในการกำหนดให้รวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาจัดตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร ดังนี้

  • สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคเหนือ ประกอบด้วยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีในภาคเหนือ รวม ๙ แห่ง
  • สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม ๑๐ แห่ง
  • สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคกลาง ประกอบด้วยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีในภาคกลาง รวม ๑๐ แห่ง
  • สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคใต้ ประกอบด้วยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีและวิทยาลัยประมงในภาคใต้ รวม ๑๒ แห่ง

๔. เห็นชอบโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ระยะที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๖๐)

ครม.มีมติเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ระยะที่ ๒ (พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๖๐) ตามที่ ศธ.เสนอ โดยให้ ศธ. ดำเนินการติดตามประเมินผลโครงการระยะที่ ๑ ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรคและประมาณการค่าใช้จ่ายต่อบุคคลที่เหมาะสมในโอกาสแรกก่อนที่จะมีการขยายผลโครงการต่อไป

สำหรับงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้จำนวน ๕๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนในปีงบประมาณต่อไป ให้ ศธ.เสนอขอตั้งงบประมาณตามความเหมาะสมกับความจำเป็นในแต่ละปีงบประมาณต่อไป และให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย



๕. เห็นชอบ MOU ระหว่าง ศอ.บต. กับองค์กร Muhammadiyah ของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย

ครม.มีมติเห็นชอบหลักการร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา (MOU) ระหว่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับองค์กร Muhammadiyah ของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ตามที่ ศอ.บต.เสนอ โดยให้เลขาธิการ ศอ.บต.เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ซึ่ง ร่าง MOU ดังกล่าวจะเป็นกรอบในการดำเนินงานการจัดสรรทุนการศึกษาให้เยาวชนจาก ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย อันเป็นการเพิ่มช่องทางด้านการศึกษาอีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐอินโดนีเซียด้วย


ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2012/oct/274.html


มติ ครม. 15 ตุลาคม 2555 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558

เปิดอ่าน 12,174 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
โครงการอบรมผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยโปรแกรม LectureMAKER‏
โครงการอบรมผลิตสื่อมัลติมีเดียด้วยโปรแกรม LectureMAKER‏
เปิดอ่าน 16,200 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558
ผลประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558
เปิดอ่าน 11,752 ☕ คลิกอ่านเลย

มติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 22 มี.ค.2554
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 22 มี.ค.2554
เปิดอ่าน 11,168 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก กระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 7/2559 วันที่ 6 กรกฎาคม 2559
ผลประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก กระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 7/2559 วันที่ 6 กรกฎาคม 2559
เปิดอ่าน 12,542 ☕ คลิกอ่านเลย

มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (15 กันยายน 2558)
มติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา (15 กันยายน 2558)
เปิดอ่าน 20,190 ☕ คลิกอ่านเลย

กฎเหล็ก 9 ข้อ ในการรับนักเรียน
กฎเหล็ก 9 ข้อ ในการรับนักเรียน
เปิดอ่าน 11,320 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มเกลือแร่
ประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มเกลือแร่
เปิดอ่าน 21,281 ครั้ง

แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
เปิดอ่าน 13,091 ครั้ง

ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข
ทำไมสัตวแพทย์ต้องดึงหนังระหว่างหัวไหล่ของสุนัข
เปิดอ่าน 11,487 ครั้ง

พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้  ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้ ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"
เปิดอ่าน 11,506 ครั้ง

ความน่าจะเป็น
ความน่าจะเป็น
เปิดอ่าน 79,225 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ