ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ความเชื่อ...กุศโลบาย


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,404 ครั้ง
ความเชื่อ...กุศโลบาย

Advertisement

   มีปราชญ์กล่าววา  มนุษย์ถ้ามีชีวิตอยู่ด้วยโดยปราศจากการตรวจสอบ  ไม่ควรค่าแก่การเป็นอยู่  สังคมไทยกับความเชื่อก็เช่นเดียวกัน  ถ้าเหตุการณ์ใดหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยถ้าไม่มีการตรวจสอบ  จะมีรูปแบบเหมือนเสมือนสถานการณ์งมงาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  เกี่ยวกับความเชื่อ  สังคมไทยถ้ามีการเปรียบเทียบเหมือนต้นไม้ใหญ่  ที่มีลำต้นประกอบด้วยเปลือก  กระพี้ และแก่น ในส่วนของต้นไม้ ส่วนที่สำคัญที่สุด  ไม่ใช่ แก่น กระพี้หรือเปลือก  เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง  แต่ทุกส่วนมีความสำคัญ และมีอุปการะแก่ต้นไม้ทั้งสิ้น  กล่าวคือ  ถ้ามีเพียงแก่นอย่างเดียว นั่นหมายความว่าต้นไม้นั้นตายแล้ว  ถ้าไม่มีเปลือกหุ้มกระพี้  และกระพี้โอบอุ้มและปกป้องแก่นไว้  การที่ไม้ใหญ่และโตได้เพราะการสละเปลือกเก่าและผลิตเปลือกใหม่มาทดแทน   ดังนั้น ต้นไม้ที่จะเจริญเติบโตได้ดี   มีความจำเป็นต้องประกอบด้วยลักษณะดังกล่าว แม้ว่า  ส่วนของต้นไม้บางส่วนจะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีเท่าเทียมกันก็ตาม  แต่ความสำคัญในด้านการทำหน้าที่ ทุกส่วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน
                รากฐานของสังคมไทย  เป็นสังคมที่ประกอบด้วยลักษณะของการเรียนรู้  จนกระทั่งกลายเป็นวัฒนธรรมการเรียนรู้  คือไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใดๆ  ล้วนแล้วจะแฝงด้วยภูมิปัญญาทั้งสิ้น  และจะประกอบด้วยกระบวนการอบรมสั่งสอน ปลูกฝัง และการถ่ายทอดแบบกุสโลบาย  เช่น  กุสโลบายเกี่ยวกับการเรียน  มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน  กุสโลบายเกี่ยวกับครอบครัว  อดเปรี้ยวไว้กินหวาน   กุสโลบายเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก  รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี  กุสโลบายเกี่ยวกับความไม่ประมาท  เล่นกลางคืนผีจะลักซ่อน  เป็นต้น 
                รูปแบบการสอน  นอกจากจะแฝงอยู่ในลักษณะที่เป็น  คำพังเพย  คำสอน  คำสุภาษิต  ฯลฯ  ยังมีคำสอนที่ซ่อนอยู่ในรูปของวัตถุ (รูปธรรม)  เช่น  สิ่งก่อสร้างที่มักจะแอบอิงหรือแฝงไปด้วยคติธรรมด้วยเสมอ  ทั้งนี้  ไม่ว่ารูปแบบการเรียนรู้ หรือการสอนจะปรากฏอยู่ในภาวะการณ์ใดก็ตาม  ทั้งมวลนี้  คือกระบวนการที่ใช้เป็นเครื่องมือการสอนของคนไทย  จนกระทั่งปรากฏรูปแบบเป็นวัฒนธรรมการสอน   ที่คนในสังคมได้แสดงให้เห็นภูมิปัญญาของคน  ที่ได้สะท้อนถึงวัฒนธรรมการสอนออกมาในรูปแบบต่าง คือ
-      วัฒนธรรมการสอนแบบนามธรรม  (การวิเคราะห์)  เป็นรูปแบบที่ต้องใช้เหตุผลแสวงหาข้อเท็จจริง  ที่ซ่อนปนอยู่กับรูปแบบการสอน  ซึ่งแต่ละแบบมีลัณษณะเป็นความเชื่อ  เชื่อจนกระทั่งดูเหมือนว่าเป็นความงมงาย  โดยเฉพาะกับคนที่เชื่อ  และไม่อาจแยกความเชื่อออกจากวัฒนธรรม  หรือหาวัฒนธรรมในความเชื่อไม่เจอ  จะเป็นผลทำให้การสอนมีช่องว่าง  ระหว่างโจทย์ที่ตั้งเป็นคำถาม กับผู้ตอบ จะพบคำตอบที่ต่างวัตถุประสงค์  เป็นต้นว่า  คนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อเกี่ยวกับ ผี วิญญาณว่ามีจริง  จะมีจริงหรือไม่ เคยเห็นหรือเปล่า  อาจพบเจอมาแตกต่างกัน  แต่จะเชื่อในเบื้องต้นว่าผีมี  ถ้าจะอ้างอิงว่าพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงผีหรือวิญญาณเอาไว้  ในเมื่อสังคมไทยเป็นสังคมพุทธ ความน่าจะเป็นอาจเป็นไปตามนั้นได้  แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญ  ที่ทำให้ต้องยอมรับว่า  ทำไมคนไทยเชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณว่ามีจริง คือคนไทยเกือบทุกคนเคยถูกปลูกฝังและเคยได้ยิน  รวมทั้งเคยถูกหลอกเกี่ยวกับผีมาตั้งแต่เกิด  หรือนี่คือวิธีการที่ใช้เป็นเครื่องมือที่ทำให้จิตใจของคนในสังคมเกลี้ยงเกลา  ไม่กระด้างกระเดื่อง ทำให้ว่านอนสอนง่าย
                การเชื่อว่าผีมีจริงเป็นสร้างแนวความคิดเกี่ยวกับผีหรือวิญญาณอีกมากมาย  เช่น  บ้านเรือนมีผีเรือน  ต้นไม้มีรุกขเทวดา  รถมีแม่ย่านาง  พื้นดินมีภุมมเทวดา  แม่น้ำมีแม่คงคา  รวมทั้งยังมีสารพัดวิญญารที่สิงสถิตย์อยู่ตามที่ต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน   แต่ผลสะท้อนที่ปรากฏเป็นวัฒนธรรมแห่งความเชื่อ  คือ
-          สร้างสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์  เป็นการปลูกฝังเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือนนิเวศวิทยา  เมื่อมนุษย์มีความผูกพันอยู่กับธรรมชาติ  ได้ประโยชน์มากมายจากธรรมชาติ  ได้พึ่งพึงอิงอาศัยกัน การที่จะทำให้มนุษย์เชื่อและเห็นคุณค่าของธรรมชาติมากกว่าได้เพียงอย่างเดียวคงไม่พอ  จำเป็นต้องให้มนุษย์รู้จักให้ตอบแทนบ้าง  ฉะนั้น  การดูแลรักษาธรรมชาติ จึงต้องอาศัยเทพยดา  ภูติ ผี  ปีศาจ และวิญญาณเป็นที่อ้างอิง  อาจเป็นเพราะมนุษย์มีอุปนิสัย (อัตตา) เกี่ยวกับความเชื่อในตัวเองมากกว่าที่จะคนอื่น  จึงไม่อาจจะเตือนหรือเชื่อกันเองได้
-          สร้างกุสโลบาย  เป็นกลวิธีในการหล่อหลอมให้จิตใจของมนุษย์อ่อนนุ่ม และอ่อนโยน  อันจะเป็นผลทำให้ง่านต่อการปกครอง  การอบรมและปลูกฝัง  รวมทั้งเป็นการผูกปริศนาธรรมที่ซ่อนเร้นอยู่กับสถานการณ์
-          สร้างพลังชีวิต  ไม่มีพลังใดที่จะยิ่งใหญ่และมีแรงผลักดันเท่าเทียมพลังแห่งใจ  การสร้างพลังชีวิตคือการสร้างจิตใจให้เกิดพลัง  การได้ไหว้  การได้บนบานศาลกล่าวกับต้นไม้เพียงแค่เชื่อว่ามีวิญญาณสิงสถิตย์อยู่  ต้นหนึ่ง  ดูเหมือนจะเขลาปัญญา  แต่อาจจะทำให้พลังใจเกิดพลังลุกโชนอีกครั้งก็เป็นได้
         วัฒนธรรมแห่งความเชื่อ  มีวิวัฒนาการคล้ายกับปรัชญา  ดังนั้นสังคมไทย  จึงมีรูปแบบเป็นสังคมปรัชญา เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้  แต่ตราบใดที่ไม่มีใครหาคำตอบจากการสอนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งดูเพียงผิวเผินคล้ายงมงาย  ความงามของเงาจันทร์ในน้ำเน่าคงจะไม่ปรากฏ  แต่ถ้าหากว่า  จะมีใครสักคนที่เห็นความงานของเงาจันทร์นั้น  อาจจะถูกมองว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่งของสังคมนั้น  ถ้าคนในสังคมทั้งหมด เห็นเพียงความสำคัญของกระพี้ไม้  เปลือกไม้  หรือแก่นไม้  เพียงแค่ใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น   

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 2672 วันที่ 30 ม.ค. 2552


ความเชื่อ...กุศโลบาย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

พิษบุหรี่...ทำให้ตาบอด

พิษบุหรี่...ทำให้ตาบอด


เปิดอ่าน 6,400 ครั้ง
เจ็ดวันที่ฉันเหงา

เจ็ดวันที่ฉันเหงา


เปิดอ่าน 6,388 ครั้ง
เหมือนภาพแห่งความฝัน

เหมือนภาพแห่งความฝัน


เปิดอ่าน 6,398 ครั้ง
นี่หรือคือการตอบแทน

นี่หรือคือการตอบแทน


เปิดอ่าน 6,409 ครั้ง
เรื่องฝนฝน . ในวันที่ฝนตก

เรื่องฝนฝน . ในวันที่ฝนตก


เปิดอ่าน 6,540 ครั้ง
สัญญาณอันตราย

สัญญาณอันตราย


เปิดอ่าน 6,384 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เหนือฟ้ายังมีฟ้า..เหนือคนธรรมดา..ก็มีคน......

เหนือฟ้ายังมีฟ้า..เหนือคนธรรมดา..ก็มีคน......

เปิดอ่าน 6,387 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต (Herbart Method)
วิธีสอนแบบแฮร์บาร์ต (Herbart Method)
เปิดอ่าน 7,313 ☕ คลิกอ่านเลย

ความรักประจักษ์จิต  ช่วยชีวิตให้มีชีวา
ความรักประจักษ์จิต ช่วยชีวิตให้มีชีวา
เปิดอ่าน 6,396 ☕ คลิกอ่านเลย

ใส่ใจร่างกาย...ห่างไกลโรคภัย!!
ใส่ใจร่างกาย...ห่างไกลโรคภัย!!
เปิดอ่าน 6,393 ☕ คลิกอ่านเลย

ประเพณีวันสิ้นปี หรือ ตรุษไทย
ประเพณีวันสิ้นปี หรือ ตรุษไทย
เปิดอ่าน 6,423 ☕ คลิกอ่านเลย

ข่าวเรื่องใบประกอบวิชาชีพหรือปล่าว
ข่าวเรื่องใบประกอบวิชาชีพหรือปล่าว
เปิดอ่าน 6,393 ☕ คลิกอ่านเลย

เปลี่ยนชื่อ..ไข้หวัดหมู...ไม่หมูอย่างที่คิด...
เปลี่ยนชื่อ..ไข้หวัดหมู...ไม่หมูอย่างที่คิด...
เปิดอ่าน 6,388 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สุภาษิต-คำพังเพยเข้าถึงเด็กไทย แนะใช้บ่อย-สื่อเห็นภาพจริง
สุภาษิต-คำพังเพยเข้าถึงเด็กไทย แนะใช้บ่อย-สื่อเห็นภาพจริง
เปิดอ่าน 82,817 ครั้ง

คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
เปิดอ่าน 18,735 ครั้ง

ทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับน้ำ ที่คุณครูเอาไปสอนเด็กได้
ทริคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับน้ำ ที่คุณครูเอาไปสอนเด็กได้
เปิดอ่าน 12,995 ครั้ง

6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน
6 จุดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลับในบ้าน ที่ต้องเร่งกำจัดก่อนจะบั่นทอนชีวิตทุกวัน
เปิดอ่าน 3,456 ครั้ง

ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม
เปิดอ่าน 22,589 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ