บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
การปฏิรูปการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญประสบความสำเร็จได้หรือไม่นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับโรงเรียนซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติที่สำคัญยิ่ง โรงเรียนต้องจัดการศึกษาตามแนวปฏิรูปการศึกษา การจัดการเรียนรู้ได้กำหนดไว้ในสาระบัญญัติมาตรา 24 ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา (2542 ) ดังนี้
มาตรา 24 การจัดการเรียนรู้ ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1. จัดเนื้อหาสาระ กิจกรรม ให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน
โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์
ความรู้ มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
3. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติจริง ให้ทำได้
คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่าน และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง
4. จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน
รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา
5. ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนและอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถ
ใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ทั้งนี้ ครูผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
จากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่าง ๆ
6. จัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกับบิดา
มารดา ผู้ปกครองและบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ
สถานศึกษาในฐานะที่เป็นหน่วยปฏิบัติ ต้องนำนโยบายมาสู่การปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามที่ต้องการ โรงเรียนต้องจัดการเรียนรู้ ตามแนวปฏิรูปการเรียนรู้
โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ งานวิชาการต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษา
แต่จากการรายงานผลการปฏิบัติงานของสถานศึกษาก็พบกับปัญหามากมาย ดังนี้
2
1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ต่ำกว่าเป้าหมายที่โรงเรียนตั้งไว้ คือร้อยละ 75 ดังตาราง
ตารางที่ 1 แสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ช่วงชั้นที่ 1-2 โรงเรียนตาขุน ดังนี้
ปีการศึกษา
|
จำนวนนักเรียน
|
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้น ป.1-6
|
ป.1
|
ป.2
|
ป.3
|
ป.4
|
ป.5
|
ป.6
|
คน
|
%
|
คน
|
%
|
คน
|
%
|
คน
|
%
|
คน
|
%
|
คน
|
%
|
2548
|
589
|
84
|
79.08
|
103
|
78.64
|
102
|
68.60
|
88
|
68.24
|
94
|
68.41
|
118
|
69.16
|
2549
|
496
|
58
|
66.23
|
72
|
74.27
|
93
|
72.37
|
88
|
75.31
|
93
|
70.27
|
92
|
74.83
|
คะแนนเฉลี่ย ปีการศึกษา 2548
|
72.02
|
คะแนนเฉลี่ย ปีการศึกษา 2549
|
72.21
|
ตารางที่ 2 แสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตาขุน ดังนี้
ปีการศึกษา
|
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้น ป.6
|
2548
|
69.16
|
2549
|
74.83
|
3
2. ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ต่ำกว่าเป้าหมายที่โรงเรียนตั้งไว้ คือ นักเรียนต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ทุกคน และ
ต้องได้ระดับคุณภาพ 1 ไม่เกินร้อยละ 20 ดังตาราง
ตารางที่ 3 แสดงผลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ช่วงชั้นที่ 1-2 โรงเรียนตาขุน ดังนี้
ปีการศึกษา
|
จำนวนนักเรียน
|
ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ชั้น ป.1-6
|
ระดับคุณภาพ
3
|
ระดับคุณภาพ
2
|
ระดับคุณภาพ
1
|
ระดับคุณภาพ
0
|
คน
|
ร้อยละ
|
คน
|
ร้อยละ
|
คน
|
ร้อยละ
|
คน
|
ร้อยละ
|
2548
|
589
|
154
|
26.15
|
168
|
28.52
|
253
|
42.95
|
Advertisement
เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,282 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,172 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,227 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 27,202 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,267 ครั้ง |
เปิดอ่าน 80,359 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,663 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,576 ครั้ง |
|
|