รมว.ศึกษาธิการ เบรกเพิ่มเขตพื้นที่ศึกษา หลังพบมีการร้องเรียนจำนวนมาก โอนอำนาจให้ยังพบรีดไถครู จี้ “ชินภัทร” คิดระบบตรวจสอบกรรมการ ...
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเสนอให้พิจารณาปรับเพิ่มจำนวนเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งมีมติสมัยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็นรมว.ศึกษาธิการเห็นชอบให้ปรับเพิ่มจำนวนเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จังหวัดละ 1 เขต และคงจำนวนเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ว่า ส่วนตัวมองว่า การกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาเป็นเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการ เช่นเดียวกับการกระจายอำนาจจากเขตพื้นที่การศึกษาไปให้ผู้บริหารสถานศึกษา แต่การปรับเพิ่มจำนวนเขตพื้นที่ฯ เป็นเป้าหมายในระยาว ต้องยอมรับว่า การขยายเขตพื้นที่ฯ ในปัจจุบันยังมีข้อจำกัด เพราะยังมีปัญหาที่เขตพื้นที่ฯ ถูกกล่าวถึงหรือร้องเรียนกันมา อาจเป็นเพราะการ บริหารในรูปของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาที่มีอำนาจมากและกรรมการหลายส่วนมาจากเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ ส่วนนี้ก่อให้เกิดปัญหามีการรีดเลือดจากครูในหลายรูปแบบ
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ตนพร้อมที่จะให้ปรับเพิ่มแต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจะสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ฯ ได้มากขึ้น เดิมอำนาจทั้งหมดอยู่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายหรือเลื่อนลำดับจะมีความล่าช้า ไม่เป็นธรรม จึงได้กระจายอำนาจลงไปในเขตพื้นที่ฯ 225 เขต เพื่อความรวดเร็ว แต่พอกระจายอำนาจไปแล้วก็มีปัญหา ตนจึงได้มอบให้ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปคิดระบบให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพราะตนอยากให้เกิดระบบคุณธรรมในการบริหารจัดการระบบการศึกษา หากแก้เรื่องนี้ได้จะทำให้คุณภาพการเรียนการสอนดีขึ้นมหาศาล อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าระบบกรรมการในเขตพื้นที่ฯ เป็นปัญหาใหญ่ของระบบการศึกษาไทย จำเป็นต้องหาวิธีที่ดีในการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมการ รวมทั้งต้องมีระบบการตรวจสอบที่ดีด้วย.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 2 พฤษภาคม 255