”พิธีแต่งงาน” ไม่ใช่แค่เรื่องของสองเรา
เมื่อได้ย่างเท้าเข้าหน้าบริเวณงานมงคลสมรสในสถานที่จัดงานอันหรูหรา สวยงาม ของโรงแรมแต่ละแห่งในกรุงเทพมหานคร เราจะพบกับบรรยากาศที่ชื่นมื่น ทั้งผู้ที่เป็นแขกมาในงานและเจ้าภาพ ไม่ว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่และเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยู่ในชุดสวยพิเศษสุด ต่างมีสีหน้าที่แจ่มใส ยิ้มแย้ม นัยน์ตาบ่งบอกถึงความสุขความดีใจเป็นอย่างยิ่ง แขกทุกๆ คนมีโอกาสทักทายแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ได้เพียงเสี้ยวเวลาเดียว ไม่กล้าชื่นชมอยู่ได้นานนัก เพราะรู้ดีและเกรงใจว่าแขกคนอื่นๆ กำลังจะทยอยกันเข้ามาในงาน
ต่อจากนั้นแต่ละคนต่างก็สาละวนกับอาหารที่เจ้าภาพจัดไว้เลี้ยงแขก ถ้าอาหารอร่อยก็จะชื่นชมในรสชาติอันถูกปากนั้น ถ้าไม่อร่อยก็จะบ่นว่าสู้ที่นั่นไม่ได้ สู้ที่นี่ไม่ได้ พร้อมกับเสียงพูดคุยกันกระหึ่มก้องงาน ดูเหมือนว่า ผู้คนจะลืมคู่บ่าวสาวเสียชั่วคราวโดยสิ้นเชิง
ในขณะเดียวกันคู่บ่าวสาวก็จะต้องเดินไปทักทายแขกตามโต๊ะต่างๆ กว่าจะทั่วงานก็เริ่มอ่อนแรง เริ่มมีแววของความเหนื่อยล้าเกิดขึ้น ความจริงทั้งคู่เหนื่อยล้ามาแล้วตั้งแต่พิธีรดน้ำสังข์เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา งานเลี้ยงกลางคืนจึงเป็นการที่จะต้องรวบรวมพลังทางกายและจิตใจอีกครั้งเสมือนเป็นการขึ้นเวทีในยกที่สอง
ภวังค์ของแขกเหรื่อที่กำลังพูดคุยและรับประทานอาหารกันอย่างต่อเนื่อง ภวังค์แห่งความเหนื่อยล้า ระคนกับความอิ่มเอมใจของคู่บ่าวสาว พลันต้องสะดุดลงด้วยเสียงโฆษกที่ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นไปบนเวทีเปิดตัว ให้ทุกคนได้พบเห็นความหนุ่มหล่อและสาวงามของทั้งคู่ แล้วก็ตามมาด้วยการฉายภาพแห่งความทรงจำ ตั้งแต่วัยเด็กของคู่บ่าวสาว และเล่าขานมาเรื่อยๆ ว่าพบรักกันเมื่อไหร่อย่างไร คนนั้นมีดีอย่างไร คนนี้มีข้อประทับใจอย่างไร แขกบางคนที่เป็นหัวโบราณแอบกระซิบกันว่า ไม่รู้จะเอามาเล่าให้เราฟังทำไม
เมื่อภาพแห่งความทรงจำเหล่านั้นจบลง โฆษกก็จะเชิญทั้งคู่มาสัมภาษณ์ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับโฆษกจริงๆ ครับ บางครั้งสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวแบบเจื่อนๆ บางครั้งสัมภาษณ์สั้นๆ แต่ประทับใจ บางครั้งสัมภาษณ์แบบตลกคะนอง บางทีก็สัมภาษณ์เยิ่นเย้อ นานมากจนแขกเหรื่อขยับข้อมือดูนาฬิกากันหลายครั้งหลายหน คู่บ่าวสาวก็ยิ้มไม่ค่อยออกเพราะเหนื่อยมาก สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเป็นประเพณีไทยมาตั้งแต่เมื่อใด คือการสัมภาษณ์จะจบลงตรงที่โฆษกจะขอให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักต่อกันด้วยการหอมแก้ม จูบปากกัน
จากนั้นก็ต้องจูงมือกันไปตัดแบ่งขนมเค้กชิ้นใหญ่นำไปให้แขกรับประทาน ขนมเค้กแห่งความรักนี้แม้ว่าแสนจะอร่อยแต่แขกก็ต้องพยายามรับประทานด้วยความที่ยังอิ่มอาหารคาว และรีบรับประทานเพื่อที่จะลาเจ้าภาพกลับบ้าน
ในช่วงท้ายของงานแขกเริ่มทยอยกลับบ้านคนแล้วคนเล่า ที่คุ้นเคยก็โบกมืออำลากลับ เสียงรถยนต์ทยอยออกจากงานทีละคันๆ ในที่สุดความเงียบและความสงบว่างเปล่ากลับมาอีกครั้ง เหลือแต่ญาติสนิทเท่านั้น ที่รอส่งตัวคู่บ่าวสาวกลับไปเรือนหอ
ชีวิตคู่ เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ชีวิตคู่ได้เริ่มต้นจากวินาทีนี้ แต่หลายคู่ชีวิตได้ดำเนินมานานแล้ว เพียงแต่มาจัดงานมงคลสมรสให้เป็นไปตามประเพณี
เส้นทางแห่งชีวิตคู่นี้ ส่วนหนึ่งดำเนินไปได้อย่างมีความสุข ราบรื่นประสบความสำเร็จและอยู่เป็นคู่กันอย่างยั่งยืน มีความถาวร แม้จะมีเหตุปัจจัยมากระทบมาบั่นทอน ก็ไม่เป็นเหตุให้เกิดปัญหาได้
บางคู่สามารถดำเนินชีวิตคู่ไปได้แม้จะไม่ราบรื่นนักแต่ก็พอปรับให้มีสภาพชีวิตครอบครัวได้ดีพอใช้
แต่หลายคู่ชีวิตคู่ไม่สามารถดำเนินไปได้ตลอดรอดฝั่ง บางทีอยู่กินกันไม่กี่เดือนก็ต้องแยกจากกัน บางรายพยายามปรับกันแล้วปรับกันอีกหลายครั้งหลายครา ในที่สุดก็ต้องเลิกราต่อกัน
มีหลายคู่ที่ดำเนินชีวิตครอบครัวมาได้อย่างดีเป็นเวลายาวนานพอสมควร แล้วก็ต้องมีเหตุให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็มี
อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ชีวิตคู่มีเส้นทางดำเนินไปแตกต่างกันอย่างนั้น
ผู้เขียนขอให้ท่านผู้อ่านหมุนภาพจากสังคมและเศรษฐฐานะหนึ่งไปสู่อีกสังคม และเศรษฐฐานะที่ด้อยและลำบากกว่า
ในอีกมุมของสังคมหนึ่ง ชีวิตคู่อาจเริ่มต้นอย่างง่ายๆ ตามธรรมชาติจะเรียกว่าไม่ได้ดำเนินไปตามวัฒนธรรมและประเพณี และไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรกันมากมายนัก เมื่อหนุ่มสาวเกิดชอบพอสนิทสนมกันและดูใจกันมาพอสมควร ประกอบกับการที่ต้องมาทำงานห่างไกลบ้าน และต่างก็มีฐานะไม่ดีนัก ทั้งคู่จึงไม่ได้นึกถึงการสู่ขอ และแต่งงานให้ถูกต้องตามประเพณี และตัดสินใจมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เมื่ออยู่ด้วยกันได้ระยะหนึ่งจึงส่งข่าวไปบอกทางบ้าน พ่อแม่ทั้งคู่อาจจะรู้สึกเสียใจบ้าง ที่ลูกทำอะไรไม่ปรึกษา ไม่บอกกล่าวผู้ใหญ่ก่อน แต่ด้วยรักลูกและเห็นว่า เรื่องได้ดำเนินไปแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงทำพิธีกันอย่างเรียบง่าย ประหยัด เพียงเป็นเครื่องบอกให้รู้ว่าผู้ใหญ่รับรู้แล้วเท่านั้น
ลักษณะของชีวิตคู่ที่เริ่มต้นอย่างธรรมชาติอันเรียบง่ายนี้ ส่วนหนึ่งก็ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขราบรื่นตามธรรมชาติ ตามธรรมดาสามัญ มีความสำเร็จของชีวิตคู่และมีความยั่งยืนถาวรได้ หลายคู่ก็อาจจะมีความขัดแย้งกันแบบลุ่มๆ ดอนๆ และส่วนหนึ่งชีวิตคู่แบบนี้ก็อาจจะสะดุดและจบลงในเวลาต่อมา
เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างการแต่งงานที่หรูหราเสียค่าใช้จ่ายหลายแสนหรือเป็นล้าน กับการแต่งงานที่เรียบง่ายใช้ค่าใช้จ่ายไม่มากนัก ดูแล้วเส้นทางชีวิตคู่ทั้งสองแบบดูจะไม่ต่างกันมากนัก
ประเด็นนี้ทำให้น่าคิดว่าพิธีรีตองอันสวยหรู ค่าใช้จ่ายที่แพงกว่ามากมาย ไม่ได้เป็นปัจจัยรับประกันว่า ชีวิตคู่จะต้องดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเสมอไป ความจริงวัฒนธรรมและประเพณีเป็นสิ่งที่ดีงาม เราควรปฏิบัติให้อยู่ในกรอบแห่งความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมและประเพณีก็เป็นปัจจัยภายนอก ข้อสำคัญที่ผู้มีชีวิตคู่ไม่พึงลืมคือ ปัจจัยทางด้านจิตใจของทั้งคู่ ซึ่งถ้าจัดองค์ประกอบทางด้านจิตใจให้ดีให้เหมาะสมแล้ว ให้ฟ้าจะถล่มดินจะทะลายก็ทำลายล้างสายสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ยาก
ความรัก ความหมายที่มากกว่าแค่พิธีกรรม
ความรัก ความซื่อตรงและความซื่อสัตย์ต่อกัน มีความเหนียวแน่นในพันธะสัญญาที่มีต่อกัน ตั้งแต่แรกพบว่าจะรักกัน ให้ยึดถือสัญญานี้อย่างไม่มีวันตาย
ทั้งคู่ควรมีความพยายามที่จะบังคับ กำกับจิตใจ และมีสติระลึกเสมอว่าให้ดำรงความรัก ความซื่อตรงและความซื่อสัตย์นั้นไว้
ความอดทนในอารมณ์ต่างๆ ที่ไม่ถูกใจ ความอดทนที่ฟันฝ่าอุปสรรคด้วยกันให้ยั่งยืน ความอดทนที่จะต้องบังคับจิตใจตนเองให้เป็นคนตรงอยู่เสมอ รวมทั้งกายยอมรับความเป็นเอกลักษณ์ และข้อบกพร่องในคู่ของตนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ชีวิตคู่ดำเนินไปได้อย่างถาวร
ประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การรู้จักให้อภัย รู้จักเสียสละและละความสุขส่วนตนลง โดยพยายามมีกิจกรรมที่ให้ความสุขและความพึงพอใจด้วยกัน จะทำให้ชีวิตคู่มีชีวิตชีวาขึ้นได้มาก
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นจิตแพทย์เด็ก ในใจนั้นอยากให้คู่หนุ่มสาวเริ่มชีวิตคู่ด้วยปัจจัยด้านจิตใจที่มีต่อกันเป็นสำคัญ มากกว่าที่จะเริ่มชีวิตคู่ที่ติดอยู่ในรูปแบบที่ทำตามอย่างกันด้วยค่าใช้จ่ายที่แสนแพงเป็นที่น่าเสียดาย
และชีวิตคู่ที่ดำเนินไปด้วยใจนั้นจะยั่งยืนถาวรเป็นรากฐานอันดีและแน่นหนาสำหรับเด็กตัวน้อยๆ ที่จะเกิดมาให้มีเส้นทางของการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างเข้มแข็งต่อไป