เครื่องบินพระที่นั่ง BOEING 737-800
เครื่องบินพระที่นั่งตามคำอธิบายในราชาศัพท์หมายถึงยานพาหนะสำหรับพระมหากษัตริย์ทรง หรือประทับ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินในพระราชกรณียกิจต่างๆโดยกล่าวถึงเครื่องบินทั้งประเภทใบพัด ไอพ่นและเฮลิคอปเตอร์ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ต่างๆ ให้ต่อท้าย คำว่า "พระที่นั่ง"โดยใช้คำต่อท้ายเช่น "เครื่องบินพระที่นั่ง" และ"เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง" โดยคำว่า "พระที่นั่ง" ใช้เฉพาะยานพาหนะสำหรับพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมารและสมเด็จพระบรมราชกุมารี ส่วนเจ้านายพระองค์อื่นใช้คำว่า"ที่นั่ง" แทนคำว่า"พระที่นั่ง"
ย้อนกลับไปเมื่อปี พศ 2490 กองทัพอากาศได้ทำการจัดหาเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 หรือ C47Dagota เข้าประจำการและมีเครื่องบินส่วนหนึ่งน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเพื่อทรงใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฏรในท้องถิ่นทุรกันดาร ทั่วประเทศนับแต่ปีนั้น(2490)จนถึงปัจจุบันนี้กองทัพอากาศได้น้อมเกล้าฯถวายเครื่ิองบินหลายแบบซึ่งประกอบไปด้วย C47, C54, C123B/K Avro748 Merlin4, Boeing 737-200/300/400 และAirbus 310
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเครื่องบินที่มีความเหมาะสมที่จะบรรจุเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะทดแทนเครื่องบินแบบเก่าคือ จะต้องมีสมรรถนะ สูง สามารถตอบสนองต่อภารกิจและมีความจุของลำตัวในห้องโดยสารไม่น้อยไปกว่า เครื่องบินราชพาหนะลำเดิม สามารถทำการร่อนลงจอดได้ทุกสนามบินในประเทศ ต้องมีอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องช่วยเดินอากาศที่ทันสมัย ต้องเป็นเครื่องบินที่มีสายการผลิตยาวนานและต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน มีความแพ่รหลายในการใช้งานและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับ ในวงการการบินพลเรือนของโลก จากการคัดเลือกของกองทัพอากาศทำให้เครื่องบินBoeing 737-800 กลายมาเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่ล่าสุด เนื่องจากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ของกองทัพอากาศที่ต้องการมากที่สุด อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนักบิน เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงของกองทัพอากาศมีความชำนาญ กับเครื่องบินในตระกูล Boeing 737เป็นอย่างดี
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเจิมเครื่องบินพระที่นั่ง Boeing 737-800 ซึ่งเป็นเครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่ที่กองทัพอากาศน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เนื่องในโอกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ60ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ได้ทรงงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้ดีขึ้นในทุกๆด้าน โดยการเสด็จไปเยี่ยมเยือนประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาศในชนบทที่ห่างไกล จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กองทัพอากาศได้มีโอกาศสนองเบื้องพระยุคลบาท ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่อานาประชาราษฏร์ในพื้นที่ต่างๆทั่วราชอาณาจักร ในการสนองพระราชกรณียกิจโดยจัดเครื่องบินพระราชพาหนะสำหรับใช้ในการเสด็จ พระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่างๆตลอดมา และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ถวายพระบรมวงศานุ วงค์ทุกพระองค์ วันที่20 เมษายน 2550 เครื่องบิน Boeing 737-800 หมายเลขเครื่อง 55-555 ของกองทัพอากาศไทยที่จัดซื้อจากบริษัท Boeing สหรัฐอเมริกาบินเดินทางมาจากเมืองซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตันถึงยังสนามบินของกองบัญชาการกองทัพอากาศที่ดอนเมือง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเริ่มศึกษาเรียนรู้หาประสบการณ์ ในแต่ละหน้าที่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้มากที่สุด
Boeing 737-800 เป็นอากาศยานพานิชย์ในตระกูล 737 ของ Boeing รุ่น NG หรือ Next Generation โดยเริ่มเปิดตัวออกสู่สาธารณะชนเมื่อปีพศ 2537 หลังจากเครื่องต้นแบบเสร็จสิ้นการทดสอบและผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากคณะ กรรมการความปลอดภัยในการคมนาคมหรือ NTSB (National Transportation Safety Bureau)และสมาพันธ์การบินนานาชาติหรือ FAA (Federal Aviation Administration) เสร็จเรียบร้อยแล้วแล้วทำให้เป็นที่ต้องการของสายการบินต่างๆทั่วโลกจนถึงปี 2549มียอดสั่งซื้อรวมทั้งหมด 1940ลำโดยบริษัท Boeing ได้ทยอยส่งมอบเครื่องบิน 737-800 ให้กับลูกค้ากว่า 70 สายการบินและหน่วยงานของรัฐบาลไปแล้วมากกว่า 1000ลำ การออกแบบของเครื่องบิน Boeing 737-800 มีการนำเอาเทคโนโลยีโครงสร้างปีกแบบใหม่มาใช้ ทำให้ตัวเครื่องมีพื้นที่ในปีกเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลต่อการบรรจุเชื้อเพลิงปริ มาณมากๆจึงทำให้มีพิสัยบิน(ระยะทำการบิน)ไกลขึ้น และรูปแบบของแอร์ฟลอยด์ที่ล้ำยุคส่งผลต่อความเร็วเดินทางที่เพิ่มขึ้นโดย สามารถบินด้วยความเร็วเดินทางได้ถึงมัค 0.785 หรือประมาณ 530 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเครื่อง737รุ่นก่อนหน้านี้ที่มีความเร็วเดินทางมัค 0.745 เครื่องบิน Boeing 737-800 มีเพดานบินสูงสุด 41,000 ฟุต ในขณะที่เครื่องบินคู่แข่งอย่าง Airbus A320 มีเพดานบินสูงสุดที่ 39,000 ฟุต เทคโนโลยีแบบใหม่ในการสร้างปีกแบบมีปีกเล็กที่บริเวณส่วนปลายสุดของปีก (Wingler)ที่โค้งงอและชี้ขึ้น นอกจากจะมีผลทำให้บินมีพิสัยไกลขึ้นแล้วยังสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ถึงร้อยละ 3.5 ในส่วนของปีกเล็กที่กระดกงอขึ้นบริเวณส่วนปลายสุดของปีกนี้ บริษัท Boeing ผู้ผลิตได้ทำการติดตั้งให้โดยมิได้คิดมูลค่าแต่อย่างใด ในส่วนของแผงควบคุมการบินของเครื่องบินพระที่นั่งลำนี้ ได้มีการออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยใช้เทคโนโลยีของจอรุ่นใหม่ล่าสุดแบบจอ แบบชนิดเดียวกันกับที่มีใช้อยู่ในเครื่องบินโดยสารพิสัยบินไกลรุ่น Boeing 777
ในส่วนของเครื่องยนต์ของ Boeing 737-800 พระราชพาหนะลำใหม่นี้ กองทัพอากาศทำการเลือกเครื่องยนต์ต้นกำลังของบริษัท CMFI รุ่น CFM56-7 และบริษัทเครื่องยนต์อากาศยานแห่งนี้เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนของ GE จากสหรัฐอเมริกาและ Snecma ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์ของอากาศยานที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือมายาวนาน เครื่องยนต์รุ่น CFM 56-7เป็นเครื่องยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง ทำการซ่อมบำรุงได้ง่ายเหมือนกับเครื่องยนต์สมัยใหม่ทั่วไป ระดับความดังของเสียงเครื่องยนต์อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยด้านเสียง ไม่ส่งผลกระทบในเรื่องมลภาวะทางเสียงต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกับสนามบิน
การตกแต่งภายในของเครื่องบินพระที่นั่งเครื่องนี้ นอกจากจะเป็นการถวายความปลอดภัยสูงสุดแด่องค์พระประมุขของเราชาวไทยแล้ว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อประชาชน ชาวไทยทุกคน กองทัพอากาศจึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งภายในเครื่องบิน โดยการตกแต่งห้องโดยสารภายในทั้งหมดด้วยความปราณีตบรรจงให้ออกมาสวยงามและสม พระเกียรติ พร้อมกับความสะดวกสบายในการประทับและพักผ่อนพระอิริยาบถ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆเช่น อุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมมูล การออกแบบภายในกองทัพอากาศได้มอบให้บริษัท Greenpoint Technologies Inc. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบภายในของเครื่องบินโดยสารมากว่า 20 ปี โดยมีผลงานเป็นเครื่องบินพระที่นั่งของพระประมุขในประเทศต่างๆรวมไปถึง เครื่องบินประจำตัวของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา โดยการออกแบบภายในทั้งหมดของ Boeing 737-800 เครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่นี้มีการกำหนดการติดตั้งอุปกรณ์ทุกชนิด เพื่อความถูกต้องในเรื่องของวัสดุที่ใช้ทำ การสร้างและการใช้งานอย่างเหมาะสม กองทัพอากาศได้เรียนเชิญปรึกษาสมุหราชองค์รักษ์เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และความสมพระเกียรติ นอกจากนี้กองทัพอากาศยังได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทการบินไทย จำกัดมหาชนที่ช่วยดูแลเกี่ยวกับการกำหนดและเลือกอุปกรณ์ในส่วนของการบริการ และการซ่อมบำรุงอีกด้วย
ห้องประทับหรือ Royal Compartment กองทัพอากาศได้เรียนเชิญอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผ้าไทยและผ้าโบราณตลอดจนศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับอาจารย์สาคร โสภาและอาจารย์วิโรจน์ กล่อมมานพ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุธิจากกรมศิลปากรผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมฝาผนัง ดำเนินการในการวาดรูปจิตรกรรมไทยจากบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนกในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมาวาดไว้ในฉากกั้นห้องโดยสารจำนวนสองภาพ ลงบนวัสดุมาตรฐานและได้การรับรองจาก FFA นอกจากนี้ยังมีการสร้างตราสัญลักษณ์ฉลองครองสิริราชสมบัติ 60 ปีโดยอาจารย์ สมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างจากกรมศิลปากรซึ่งเป็นผู้ออกแบบและดำเนินการสร้าง ภายในห้องโดยสารหรือห้องประทับ วัสดุต่างๆที่เดิมถูกออกแบบเป็นไม้วอลนัท ทางกองทัพอากาศจึงได้ขอเปลี่ยนเป็นไม้สักทอง ซึ่งเป็นไม้ที่ประชาชนชาวไทยภาคภูมิใจ ไม้สักทองทั้งหมดที่ใช้ในการตกแต่งถูกคัดเลือกแต่ไม้ที่มีคุณภาพสูงสุดโดย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งไม้สักทองทั้งหมดไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อนำขึ้น ติดตั้งและประดับบนเครื่องบินพระที่นั่งลำนี้
ความภาคภูมิใจสูงสุด ของผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการบินในประเทศไทยคือได้ถวายการรับใช้ในการ เสด็จพระราชดำเนินทางอากาศด้วยเครื่องบินพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ในการเสด็จ ไปประกอบพระราชกรณียกิจยังพื้นที่ต่างๆแม้ในบางพื้นที่รถยนต์ยังไม่สามารถ เข้าไปถึงได้โดยนอกจากจะบรรจุเครื่องบิน Boeing 737-800 ลำใหม่ล่าสุดเข้ากระจำการแล้ว คณะรัฐมนตรีได้จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งแบบ S92A อีก 3เครื่องโดยให้ทางกองทัพอากาศเป็นผู้ดูแลและเตรียมการในการซื้อเฮลิคอปเตอร์ แบบ 10 ที่นั่งแบบ S92Aโดยการลงนามระหว่าง พลอากาศเอกไพศาล สีตบุตร และนายโทมัส ริชลิก ผู้แทนจำหน่ายจากบริษัทซิกอร์สกี้ (Sikorsky International Operations Inc.) ที่สำนักงานของบริษัทในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆนี้ การจัดหาเครื่องบินพระที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Boeing 737-800 ที่กองทัพอากาศจัดซื้อเข้ามาประจำการในฝูงบินพระที่นั่งมีมูลค่าประมาณ 3100 ล้านบาทซึ่งในขณะนี้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยและพร้อมขึ้นบินเพื่อถวายการรับ ใช้ให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ใน ขณะที่ทรงประทับให้ได้รับความสะดวกสบายในทุกพระราชอริยาบทของการเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพสกนิกร ชาวไทยทุกคน
Boeing 737-800 Technical Characteristics
Passengers
Typical 2-class configuration 162
Typical 1-class configuration 189
Cargo 1,555 cu ft (44 cu m)
Engines
(maximum thrust) CFMI CFM56-7 27,300 lb
Maximum Fuel Capacity 6,875 U.S. gal (26,020 L)
Maximum Takeoff Weight 174,200 lb(79,010 kg)
Maximum Range 3,060 nautical miles(5,665 km)
Typical Cruise Speed (at 35,000 feet) 0.785 Mach
Basic Dimensions
Wing Span 112 ft 7 in (34.3 m)
With Winglets 117 ft 5 in (35.8 m)
Overall Length 129 ft 6 in (39.5 m)
Tail Height 41 ft 2 in (12.5 m)
Interior Cabin Width 11 ft 7 in (3.53 m)
เรื่องโดย
Arcom Roumsuwan
chang.arcom@thairath.co.th
ข้อมูลอ้างอิงจาก
The Aerospace Magazine October 2007
Photo By
www.thaihotweb.com
www.hflight.net
www.jetphotos.net
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์ ฉบับวันที่ 12 ธ.ค.52