ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การศึกษา การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยกา


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,413 ครั้ง
Advertisement

การศึกษา  การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยกา

Advertisement

❝ นายบพิธ น้อยชนะ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น พ.ศ. 2551 ❞  

รายงานการวิจัยฉบับย่อ 

 

ชื่อเรื่อง                  การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน

ผู้วิจัย                      นายบพิธ  น้อยชนะ

สถานที่ปฏิบัติงาน               โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก  

เลขที่ 70  ถนนหน้าเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

ปีที่ทำเสร็จ            พ.ศ. 2551

ประเภทงานวิจัย                  การศึกษาเชิงทดลอง (Experimental Study)

บทคัดย่อ

             การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ  1)  พัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษา    ปีที่ 4 ที่มีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70    2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานกับการเรียนรู้แบบปกติ  3)  ประเมินความสามารถในการทำโครงงานภาษาอังกฤษของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  และ 4)  เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่มีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล     สวนสนุก เป็นกลุ่มทดลอง 47 คน และกลุ่มควบคุม 48 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5  เรื่อง Flowers And Plants   ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ตามหลักการเรียนรู้แบบโครงงาน จำนวน  7   แผน 23 ชั่วโมง  แผนจัดการเรียนรู้แบบปกติ สาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง Flowers and Plants  จำนวน  2   แผน 6 หัวเรื่อง ใช้เวลาสอน 11 ชั่วโมง  แบบทดสอบเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ  จำนวน 30 ข้อ  แบบสำรวจความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน จำนวน 20  ข้อ และแบบประเมินความสามารถในการทำโครงงาน  10  ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของกลุ่มทดลองและกลุ่มตัวอย่างด้วยสถิติ t-test แบบ Independent

    วัตถุประสงค์ของการศึกษา

                1.  เพื่อพัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีการจัดการเรียนรู้แบบ โครงงาน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70

2.  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานกับการเรียนรู้แบบปกติ

3.  เพื่อประเมินความสามารถในการทำโครงงานภาษาอังกฤษของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

4.  เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่มีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน

 

วิธีดำเนินการ   สามารถสรุปได้ดังนี้

การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาเชิงทดลอง (Experimental  Research)       เพื่อพัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีการจัดการเรียนรู้แบบ โครงงาน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70  เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานกับการเรียนรู้แบบปกติ  เพื่อประเมินความสามารถในการทำโครงงานภาษาอังกฤษของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่มีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน โดยได้ตั้งสมมติฐานไว้ว่า  แผนจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีการจัดการเรียนรู้แบบโครง ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบโครงงานสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบปกติ โดยนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลการเรียนรู้หลังเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ตามเกณฑ์  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 70   มี ความคิดเห็นต่อเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับมากขึ้นไป และ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 70  มีความสามารถในการทำโครงงานวิชาภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับดีขึ้นไป   กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่กำลังเรียนใน ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา 2550 กลุ่มทดลอง ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/5 จำนวน 47 คน สอนแบบโครงงาน และกลุ่มควบคุม ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 48 คน สอนโดยการสอนแบบปกติ  เนื้อหาที่ใช้ในการทดลอง เป็นเนื้อหาที่ได้จากการวิเคราะห์เอกสาร หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี 2544 และหลักสูตรการศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศของโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองเพื่อการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่แผนจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่จัดการเรียนรู้แบบโครงงาน  จำนวน  7  แผน  แผนจัดการเรียนรู้แบบปกติ สาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง Flowers and Plants  จำนวน  2   แผน 6 หัวเรื่อง  แบบทดสอบเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ  จำนวน 30 ข้อ แบบสำรวจความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน จำนวน 20  ข้อ และแบบประเมินความสามารถในการทำโครงงาน  10  ข้อ ดำเนินการทดลอง โดยการทดสอบความรู้ก่อนการทดลอง สอนตามแผนจัดการเรียนรู้ในกลุ่มทดลอง 7 ครั้งละ 1 แผน ในกลุ่มควบคุม 2 แผน 6 หัวเรื่อง ประเมินพฤติกรรมกระบวนการทำงานกลุ่มหลังแผนจัดการเรียนรู้ทุกแผน ทดสอบความรู้หลังการทดลอง ประเมินความสามารถในการทำโครงงาน และให้นักเรียนกลุ่มทดลองทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน และ วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ด้วยสถิติค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ ทดสอบความแตกต่างด้วยสถิติ t-test แบบ Independent เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม

 ผลการศึกษา

                สามารถสรุปผลได้ดังนี้

1. ผลการพัฒนาประสิทธิภาพของแผนจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่อง Flowers and Plants พบว่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทำแบบทดสอบระหว่างเรียนมีค่าเท่ากับ 72.93 และร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทำแบบทดสอบหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 76.67 แสดงว่าประสิทธิภาพแผนของแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเรื่อง Flowers and Plants มีค่าเท่ากับ  72.93/76.67  เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 70/70  ปรากฏว่าแผนของแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเ ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 70/70 ที่กำหนดไว้

 

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีการ

จัดการเรียนรู้แบบโครงงาน จากผลจากการวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงานและแบบปกติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  พบว่านักเรียนที่เรียนรู้แบบโครงงานมีคะแนนเฉลี่ย 23.00 ส่วนนักเรียนที่เรียนรู้แบบปกติ มีคะแนนเฉลี่ย 20.49 และเมื่อทดสอบความแตกต่างด้วย สถิติ t-test แบบ Independent พบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ทั้งสองกลุ่ม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 โดยผลการเรียนรู้หลังการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานมีค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงกว่าการเรียนรู้แบบปกติ นอกจากนี้ผลสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่มด้วยแบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่มในการจัดการเรียนรู้ทั้ง 7 แผน คือ พฤติกรรมการร่วมกันวางแผนการทำงาน การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การเป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดี การแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล และยอมรับข้อสรุปและผลงานของกลุ่มและร่วมกันปรับปรุง  พบว่านักเรียนที่มีพฤติกรรมผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดีขึ้นไปมากที่สุด คือพฤติกรรมการร่วมกันวางแผนการทำงาน คิดเป็นร้อยละ 79.17 รองลงมาคือ พฤติกรรมการเป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดี คิดเป็นร้อยละ 79.14 และพบว่าพฤติกรรมที่นักเรียนผ่านระดับดีขึ้นไป

3.  ความสามารถในการทำโครงงานภาษาอังกฤษของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ร้อยละ 82.98 มีความสามารถในระดับดีขึ้นไป และพบว่ามีความสามารถในการทำโครงงานระดับดี 2 กลุ่ม  ระดับพอใช้ 3 กลุ่ม และระดับปรับปรุง จำนวน 1 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ทำโครงงานเรื่องต้นไม้ในโรงเรียนของเรา มีคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุด คิดเป็น 3.50 คะแนน มีคุณภาพระดับดี รองลงมาคือกลุ่มที่ 6 เรื่องการแสดงความรู้สึกในโอกาส ต่างๆ ด้วยสำนวนภาษาอังกฤษ ได้คะแนนเฉลี่ย 3.20 ส่วนกลุ่มที่ 4 ทำโครงงานเรื่องวันสำคัญที่เป็นวันหยุดราชการของไทย ได้คะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด เท่ากับ 2.7 คะแนน มีคุณภาพของโครงงานระดับพอใช้ โดยข้อที่มีความสามารถในระดับดีคือ การดำเนินการตามแผน การวางแผนการทำโครงงาน อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการทำโครงงาน การบันทึกข้อมูล และการจัดกระทำข้อมูล ส่วนความสามารถในการทำโครงงานในเรื่องที่มีคุณภาพระดับปรับปรุง ได้แก่ เรื่องข้อมูลหรือข้อเท็จจริงประกอบการทำโครงงาน การแปลความหมายของข้อมูลและสรุปผล และ การเขียนรายงาน / การเสนอผลงาน

4. ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน จากการตอบแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการสอนวิชาภาษาอังกฤษด้วยวิธีสอนแบบโครงงานใน 5 ประเด็น (1) ความสำคัญของภาษาอังกฤษและสิ่งแวดล้อมรอบตัว (2) กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (3) กิจกรรมการสอนของครู (4) เจตคติของผู้เรียนต่อวิชาภาษาอังกฤษ และ (5) กระบวนการกลุ่ม ในภาพรวม พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 72.34 นักเรียนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานในระดับมาก ในด้านความสำคัญของภาษาอังกฤษและสิ่งแวดล้อมรอบตัว รองลงมาคือด้านกระบวนการกลุ่ม ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือด้านกิจกรรมการสอนของครู   ความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้ด้านความสำคัญของภาษาอังกฤษและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ในระดับมากเป็นความคิดเห็นที่ว่าในโลกยุคปัจจุบันภาษาอังกฤษมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน และเห็นว่าการเรียนภาษาอังกฤษโดยการทำโครงงานมีประโยชน์กับนักเรียน  ในด้านกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีความคิดเห็นระดับมาก นักเรียนเห็นว่านักเรียน มีความรู้สึกภูมิใจที่ครูไม่ได้บอกความรู้ให้นักเรียน แต่ครูบอกวิธีการค้นคว้าความรู้จนพบคำตอบด้วยตนเอง และเห็นด้วยระดับมากในข้อที่นักเรียนควรรู้เรื่องใกล้ตัวหรือเหตุการณ์ในท้องถิ่นของนักเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ความคิดเห็นด้านกิจกรรมการสอนของครู นักเรียนเห็นด้วยระดับมากในข้อนักเรียนเห็นว่าการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีนักเรียนต้องฝึกฝนให้มีความรอบรู้ทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่านและเขียน  ความคิดเห็นด้านเจตคติของผู้เรียนต่อวิชาภาษาอังกฤษ นักเรียนมีความคิดเห็นในระดับมากในข้อที่ว่าการทำกิจกรรมโครงงานภาษาอังกฤษทำให้มีความรู้ สนุก ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน ๆ  และความคิดเห็นด้านกระบวนการกลุ่ม นักเรียนมีความคิดเห็นระดับมากโดยมีความคิดเห็นว่าการทำโครงงานภาษาอังกฤษทำให้นักเรียน รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รู้จักแหล่ง ข้อมูลที่จะค้นคว้าในเรื่องต่าง ๆ และเห็นด้วยระดับมากว่าการทำโครงงานภาษาอังกฤษนักเรียนมีโอกาสได้เลือกหัวข้อเอง จึงทำให้การเรียนสนุก เพราะนักเรียนได้ศึกษาในหัวข้อที่สนใจ

 

ข้อเสนอแนะ

จากการศึกษาครั้งนี้ พบว่า การสอนด้วยวิธีสอนแบบโครงงานทำให้ผู้เรียนมีผลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษสูงขึ้นกว่าการเรียนรู้แบบปกติ ผู้เรียนสามารถทำโครงงานได้ และนักเรียนส่วนใหญ่เห็นด้วยในระดับมากต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงาน ดังนั้นผู้ศึกษา จึงขอเสนอแนะที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการเรียนรู้ในสถานศึกษา ดังนี้

1.  สถานศึกษาต่าง ๆ ควรสนับสนุนให้ครูนำวิธีสอนหรือแนวการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้โครงงานไปใช้เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนในหน่วยการเรียนรู้อื่น ๆ

                                2.  ควรมีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีความต้องการศึกษาวิธีการสอนภาษาอังกฤษด้วยวิธีสอนแบบโครงงานหรือวิธีอื่น เพื่อให้ครูมีความชัดเจนในเรื่องการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนภาษาอังกฤษด้วยวิธีสอนแบบโครงงาน และสามารถเลือกใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับสาระการเรียนรู้และผู้เรียน

3. ควรมีการนำวิธีสอนภาษาอังกฤษด้วยวิธีสอนแบบโครงงานไปใช้กับชั้นเรียนอื่น ๆ  เนื่องจากพบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในระดับมากต่อการเรียนรู้แบบโครงงานที่ว่าในโลกยุคปัจจุบันภาษาอังกฤษมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน และเห็นว่าการเรียนภาษาอังกฤษโดยการทำโครงงานมีประโยชน์กับนักเรียน ความรู้สึกภูมิใจที่ครูไม่ได้บอกความรู้ให้นักเรียน แต่ครูบอกวิธีการค้นคว้าความรู้จนพบคำตอบด้วยตนเอง ควรรู้เรื่องใกล้ตัวหรือเหตุการณ์ในท้องถิ่นของนักเรียนเป็นภาษาอังกฤษ การทำกิจกรรมโครงงานภาษาอังกฤษทำให้มีความรู้ สนุก ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน ๆ  และเห็นว่าการทำโครงงานภาษาอังกฤษทำให้นักเรียน รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รู้จักแหล่ง ข้อมูลที่จะค้นคว้าในเรื่องต่าง ๆ และเห็นด้วยระดับมากว่าการทำโครงงานภาษาอังกฤษนักเรียนมีโอกาสได้เลือกหัวข้อเอง จึงทำให้การเรียนสนุก เพราะนักเรียนได้ศึกษาในหัวข้อที่สนใจ สอดคล้องกับแนวคิดการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ความคิดเห็นในเชิงบวกดังกล่าวทำให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ และมีผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบโครงงานสูงกว่าการจัดการเรียนรู้แบบปกติตามคู่มือครู

4.  ควรประเมินความสามารถในการทำโครงงานของผู้เรียนในรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้เป็นการประเมินที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น การประเมินด้านความคิดสร้างสรรค์ การประเมินด้านการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

5.  ควรมีการวิจัยและพัฒนาคู่มือการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษด้วยวิธีสอนแบบโครงงานสำหรับครูโรงเรียนประถมศึกษา

6.  ควรมีการวิจัยและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษด้วยวิธีสอนแบบโครงงานโดยการบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่น ๆ และข้อมูลจากชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุด

  

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1132 วันที่ 29 ส.ค. 2551


การศึกษา การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยกาการศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่4โดยกา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ทำให้คนรัก ด้วย....หลัก3 อ

ทำให้คนรัก ด้วย....หลัก3 อ


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
เด็กดี

เด็กดี


เปิดอ่าน 7,411 ครั้ง
คะน้า.....ผักมหัศจรรย์

คะน้า.....ผักมหัศจรรย์


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
อ่านแล้วทำใจให้สบาย

อ่านแล้วทำใจให้สบาย


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
แบบทดสอบนิทานพื้นบ้าน

แบบทดสอบนิทานพื้นบ้าน


เปิดอ่าน 7,199 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
บทที่5 สรุปผล
บทที่5 สรุปผล
เปิดอ่าน 7,133 ☕ คลิกอ่านเลย

ไม่รวยก็สวยได้!!
ไม่รวยก็สวยได้!!
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

สารต้านอนุมูลอิสระ .....จำเป็นต่อร่างกายอย่างไร
สารต้านอนุมูลอิสระ .....จำเป็นต่อร่างกายอย่างไร
เปิดอ่าน 7,134 ☕ คลิกอ่านเลย

Dance Contest ฉบับมสด.มันส์ๆแบบมีประโยชน์
Dance Contest ฉบับมสด.มันส์ๆแบบมีประโยชน์
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

ด่วน...เตือนครูสูญเงินอบรมวิทยฐานะ....ก.ค.ศ.ยํ้าของจริงไม่มีค่าใช้จ่าย
ด่วน...เตือนครูสูญเงินอบรมวิทยฐานะ....ก.ค.ศ.ยํ้าของจริงไม่มีค่าใช้จ่าย
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

....เสน่ห์มนตราริมฝั่งโขง จากเชียงคานถึงเมืองพญานาค....
....เสน่ห์มนตราริมฝั่งโขง จากเชียงคานถึงเมืองพญานาค....
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)
เปิดอ่าน 8,554 ครั้ง

เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน
เปิดอ่าน 14,773 ครั้ง

"เสาวรส"
"เสาวรส"
เปิดอ่าน 13,396 ครั้ง

คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
เปิดอ่าน 19,005 ครั้ง

การกำหนดวงเงินการจัดหาพัสดุ
การกำหนดวงเงินการจัดหาพัสดุ
เปิดอ่าน 16,425 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ