|
แม้เป็นความรับผิดชอบที่หนักหนา แต่การมีลูกช่วยให้คู่แต่งงานมีความสุขมากขึ้น |
|
|
เคล็ดลับการครองชีวิตคู่อย่างมีความสุข ผู้ชายต้องมีภรรยาอายุน้อยกว่า 5 ปีขึ้นไป ยิ่งถ้าผู้หญิงเรียนสูงกว่ายิ่งดี โดยเฉพาะคู่ที่แต่งงานกัน ผลศึกษาชี้มีลูก 3 คนคือความสุขสุดยอด
งานศึกษาของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ที่อิงจากประสบการณ์ของคู่แต่งงานเฉียดหมื ่นลบล้างงานศึกษาชิ้นอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่สรุปว่า การมีลูกอาจบั่นทอนความสัมพันธ์ที่สดชื่นสมหวังที่สุด
รายงานที่อยู่ในเจอร์นัล ออฟ แฮปปี้เนส สตัดดีส์ มาจากการสอบถามความคิดเห็นพ่อแม่เกือบ 90,000 คนเกี่ยวกับความสุขในชีวิต ซึ่งพบว่าการมีลูกทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น และสุขที่สุดเมื่อมีลูก 3 คน แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นคู่ที่แต่งงานกันเท่านั้น
ผู้หญิงมีความพึงพอใจที่ได้มีลูกมากกว่าผู้ชาย
ดร.หลุยส์ แองเจลีส ผู้นำการวิจัย อธิบายว่าการที่คู่ที่อยู่กินกันโดยไม่แต่งงานมีความ สุขในการมีลูกน้อยกว่าคู่ที่แต่งงานกันไม่ใช่เรื่องของความพร้อมด้านฐานะเงินทอง แต่เป็นความพร้อมและความยินดีที่จะมีลูกตั้งแต่แรก
ดร.แองเจลีสยังสรุปว่าแม้การเลี้ยงลูกเป็นงานหนัก แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่ากว่าหลายเท่า
“เมื่อพิจารณาจากสภาพชีวิตโดยรวม คู่แต่งงานที่มีลูกมีความสุขมากกว่าคู่ที่ไม่มีลูก”
ขณะเดียวกัน สำหรับคนมากมาย ชีวิตคู่ที่ประสบความสำเร็จอาจขึ้นอยู่กับเสน่ห์ดึงด ูด การทุ่มเท ความอดทน และรักแท้ แต่งานวิจัยเชิงสถิติล่าสุดจากอังกฤษกลับระบุว่าปัจจ ัยเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นักวิจัยทีมนี้ได้ข้อสรุปว่า คู่ที่เข้ากันได้ดีอิงกับวัย การศึกษา และการหย่าร้างในอดีต กระทั่งคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าบางคู่มีโอกาสหย่าร้าง มากกว่าคู่อื่นๆ ถึง 5 เท่า
จากการศึกษา คู่ที่มีโอกาสดีที่สุดที่จะอยู่กินกันตลอดรอดฝั่งคือ คู่ที่ผู้หญิงมีการศึกษาสูงกว่า และผู้ชายแก่กว่า 5 ปีขึ้นไป และทั่งคู่ต้องไม่เคยผ่านการหย่าร้างมาก่อน
คู่แต่งงานที่ฝ่ายหญิงมีการศึกษาต่ำ ฝ่ายชายเคยหย่ามาก่อนและอ่อนกว่า 5 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มอยู่กันไม่ยืดมากกว่าคู่อื่นๆ ถึง 5 เท่า
ผลศึกษานี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับเดวิด คาเมรอน วัย 43 ปี กับซาแมนธา ภรรยาวัย 38 ปี รวมถึงบารัก โอบามา วัย 48 ปี กับมิเชล วัย 45 ปี แม้คู่หลังอายุจะห่างกันแค่ 3 ปี แต่ครองรักกันมาถึงวันนี้ 17 ปีแล้ว แต่ผลศึกษานี้อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับไมเคิล ดักลาส วัย 65 ปี กับแคเธอรีน เซตา-โจนส์ วัย 40 ปี เนื่องจากนักวิจัยระบุว่าการแต่งงานมีแนวโน้มล่มหากฝ ่ายใดฝ่ายหนึ่งเคยหย่ามาก่อน กรณีนี้ดักลาสเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง
งานวิจัยชิ้นนี้ที่มีชื่อว่า ออปติไมซิ่ง เดอะ แมร์ริเอจ มาร์เก็ต ตีพิมพ์อยู่ในยูโรเปียน เจอร์นัล ออฟ โอเปอเรชัน รีเสิร์ช ที่ปกติแล้วเน้นหนักงานวิเคราะห์เกี่ยวกับธุรกิจ นักวิชาการ อาทิ ดร.เอมมานูเอล แฟรกเนียร์ จากมหาวิทยาลัยบาธ อังกฤษ ได้ศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็นชาวสวิส 1,534 คู่ ทั้งที่เป็นคู่แต่งงานและคู่ที่อยู่กินกันเฉยๆ และมีการติดตามผลในอีก 5 ปีต่อมา จากข้อมูลเกี่ยวกับอายุ การศึกษา สัญชาติ และความสัมพันธ์ในอดีต นักวิจัยพบปัจจัยหลายอย่างที่คู่ที่ต้องแยกทางมีเหมือนกัน จากนั้น นักจิตวิทยาจะวิเคราะห์ความสำคัญของแต่ละปัจจัยเพื่อ สร้างโปรไฟล์คู่ชีวิตในอุดมคติ และคู่ชีวิตที่เปรียบเสมือนฝันร้าย
ในแง่อายุ นักวิจัยพบว่าหากภรรยาแก่กว่าสามี 5 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มที่จะหย่าร้างมากขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับคู่ที่ทั้งสองฝ่ายอายุเท่ากันทว่า คู่ที่ภรรยาอายุน้อยกว่าสามี 5 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่ชีวิตคู่จะอัปปาง โดยมีความเสี่ยงหย่าร้างน้อยลงถึง 6 เท่า
ในแง่การศึกษา คู่ที่เรียนน้อยกันทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มแยกทางมากที่ สุด ส่วนคู่ที่เรียนสูงทั้งชาย-หญิงมีแนวโน้มหย่าร้างครึ่งหนึ่ง
แต่ถ้าผู้หญิงเรียนสูงกว่าผู้ชาย มีแนวโน้มที่จะอยู่กันยืนยาวกว่าคู่ที่การศึกษาน้อยถ ึง 8 เท่า และ 3 เท่าเมื่อเทียบกับคู่ที่สามีมีความรู้มากกว่าภรรยา การวิเคราะห์ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าคู่ที่มั่นคงที่ สุดคือคู่ที่ทั้งสองฝ่ายไม่เคยหย่าร้างมาก่อน แต่คู่ที่ต่างฝ่ายต่างเคยหย่ามาแล้ว กระทบต่อความมั่นคงในชีวิตรักไม่มากนัก
สำหรับคู่ที่ไม่มั่นคงที่สุดคือคู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเคยหย่ามาก่อน
“ดูเหมือนชาย-หญิงจะเลือกคู่จากความรัก เสน่ห์ดึงดูดภายนอก การมีรสนิยม ความเชื่อและทัศนคติเหมือนกัน และมีค่านิยมแบบเดียวกัน
“อย่างไรก็ตาม ความยืนยาวของชีวิตคู่ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เป็นจร ิงอื่นๆ การจับคู่โดยอิงกับเกณฑ์บางอย่าง เช่น อายุ ระดับการศึกษา รากเหง้าทางวัฒนธรรม อาจช่วยลดโอกาสการหย่าร้างได้” งานวิจัยสรุป
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ |
|