ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้ศึกษา นางกานต์รวี วงศ์สุริฉาย ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านหนองแกประชาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กาญจนบุรี เขต 4
ปีการศึกษา 2549
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ในการศึกษา 1) เพื่อหาค่าประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติมกลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนบ้านหนองแกประชาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุรีเขต 4 จำนวน 17 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จำนวน 6 ชุด ชุดละ 10 ข้อ และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม การวิเคราะห์ข้อมูล การหาค่าประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1 / E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการหาค่า t-test (Dependent) การศึกษาความคิดเห็นของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ( ) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) และการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยาก (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt)
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นจำนวน 6 เล่ม มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ทุกเล่ม
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ทุกเล่ม
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความคิดเห็นต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม โดยเฉลี่ย
อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54)