......เดือนเมษายน 2525 ศิลปินปฏิวัติชุดสุดท้าย ออกจากป่าเขตผาจิ-ผาช้าง คืนเมือง ส่วนที่เป็นนักศึกษา นักกิจกรรม กลับไปสู่ห้องเรียนหรือเลือกประกอบอาชีพเพื่อการมีรายได้เลี้ยงชีพ เริ่มต้นการต่อสู้ชีวิตครั้งใหม่
อาจมีบางคนเกี่ยวข้องกับวงการเพลงอยู่บ้าง แต่คงมีเพียงคาราวาน ที่กลับมาประกอบอาชีพศิลปินเพลงเพื่อชีวิตอย่างเต็มตัว ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ
ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2525 ใน “คาราวาน อิน คอนเสิร์ต ฟอร์ ยูนิเซฟ”
“โอ้ยอดรักฉันกลับมา จากขอบฟ้าที่ไกลแสนไกล จากโคนรุ้งที่เนินไศล จากใบไม้หลากสีสัน ฉันเหนื่อย ฉันเพลีย ฉันหวัง”
(สุรชัย จันทิมาธร, เพลง ‘คืนรัง’)
การกลับมาของคาราวานและเพื่อนร่วมสมัยร่วมอุดมการณ์ที่บอบช้ำจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาประเทศไทยอาจบรรยายได้ด้วยเพลง “คืนรัง” พวกเขาไม่ได้กลับมาเพื่อ “กรีดเลือดพาลล้างลานโพธิ์” อีกต่อไปแล้ว แต่มาพร้อมบาดแผลและข้อกล่าวหาที่หลายคนบอกกันว่า “มีการกระทำอันไม่เป็นคอมมิวนิสต์” และในขณะเดียวกัน คอนเสิร์ตเพื่อยูนิเซฟที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ถึงจะไม่ลานโพธิ์) ที่ประกาศถึงการ “คืนรัง” ของพวกเขา ก็ถือเป็นการเริ่มกระแสยุคที่ 3 ของเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งเป็นการปรับเข้าสู่ระบบธุรกิจดนตรียุคใหม่ การแสดงสดวันนั้นนำไปสู่เทปเพลงชุดแรกของการกลับมาและชุดแรกในสัญญาทำเทป 3 ชุดกับบริษัทอีเอ็มไอ ประเทศไทย แม้ว่าจะไม่ใช่สัญญาที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ แต่สำหรับเพลงเพื่อชีวิตที่เคยถูกตั้งความคาดหวังดังหนึ่งเป็นกิจกรรมสาธารณะ นั่นคือมูลค่าที่เกินความคาดหมาย
ข้อมูลจาก http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=29.50;wap2
Album : Concert for Unicef
Artist : คาราวาน
Bit Rate : 128kbps
Label : EMI
Track list
01 คนกับควาย
02 คืนรัง
03 ข้างถนน
04 เปิบข้าว
05 กุลา
06 คืนสู่รัง
07 หาบครุน้ำ
08 ยิ้มกลางสายฝน
09 ไอปอนปองซา
10 คาราวาน
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/243/38243/images/ca_unsf.jpg)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/243/38243/images/unicef1.jpg)
เพลงเพราะๆ ในคืนนั้นคนมักจำ "คืนรัง" ได้มากที่สุด
..ฉันเหนื่อย ฉันเพลีย ฉันหวัง...บ่งบอกสภาพเหมือนนกปีกหักคืนรวงรัง
แต่ "ยิ้มกลางสายฝน" นั้นบอกเล่าห่ากระสุนดั่งพิรุณที่สาดสาย
' ' ' ' ' ' ' ' ' '
' ' ' ' ' ' ' ' ' '
เย็น....ฝนพรำพร่างพรูสู่พฤกษา
พรมไม้ป่า สดใสในวสันต์
หัวใจเรา ฉ่ำชื่นเช่นดังคืนวัน
ฝันและใฝ่โลกใหม่ต้องเป็นของเรา
ยามฝนหลั่ง เมฆบังบดทิวเขา
ยามเห็นเจ้า เปียกปอนตอนใกล้สาง
พบคนจริง ยิ่งยงคู่คงเส้นทาง
เห็นผู้สร้าง ความทรงจำ มิเลือนจากใจ
ยืนหยัดทะนง คู่คงเส้นทางยืดเยื้อ
ยิ้ม...เพื่อความฝันใกล้บรรลุชัย
ยามเห็นหน้า ต้องตาสื่อความหมาย
จับมือทักทาย ส่งยิ้มกลางสายฝน
พบความจริง ยิ่งหมายมั่นในกมล
หนทางสู้....สู่ชัยมิไกลจากเรา
' ' ' ' ' ' ' ' ' '
' ' ' ' ' ' ' ' ' '
(ภาพจากอินเตอร์เน็ต ข้อความบางส่วนจากอินเตอร์เน็ต)
http://www.oknation.net/blog/rhythm/2009/10/24/entry-2