ดูทุกครั้ง การเคลื่อนไหว ไปของจิต
ดูผิดถูก ไม่เอา ไม่ถือสา
ดูทุกอย่าง จิตเห็น เป็นธรรมดา
ไม่ถือสา ไม่ปรุงแต่ง แบ่งชั่วดี
เห็นสักว่า มองเห็น เป็นธรรมชาติ
อย่าเก่งกาจ ปรุ่งแต่ง เพิ่มแสงสี
อย่านำจิต ไปแบ่ง เป็นชั่วดี
ใจจะมี สุขทุกข์ คลุกเคล้าไป
เป็นได้ไง ที่ดูไป โดยไม่ปรุง
เพราะจิตมุ่ง มองดู รู้ตัวจิต
อวิชชา สร้างสังขาร สร้างนิมิต
การดูจิต นั่นแหละสั่ง สังขารปรุง
ไม่คิดปรุง ไม่คิดยุ่ง มุ่งวางเฉย
โธ่ท่านเอ๋ย ปฏิฆะ นั่นล่ะยุ่ง
อกุศลจิต กุศลจิต ตัวคิดปรุง
สังขารฟุ้ง ปรุงแต่งไป ไม่รู้ตัว
อกุศลจิต ใช้ตามดู อกุศลจิต
ยิ่งเตลิดคิด ฟุ้งซ่าน พลุกพล่านทั่ว
ราคะจิต ดูราคะ จะพันพัว
โทสะกลั้ว ดูโกรธหลง คงปรุงตน
กุศลกาม ดูกาม ตามจิตเหตุ
ความอยากเพศ ตัณหาปรุง ยุ่งสับสน
จิตโลกีย์ ดูโลกีย์ ที่จิตตน
จิตไม่พ้น ติดบ่วง ห้วงโลกีย์
จิตโลกีย์ ดูโลกีย์ นี่แหละปรุง
ไม่คิดยุ่ง แต่จิตยุ่ง ปรุงสังขาร
สังขารเกิด เพราะอวิชชา มาบันดาล
อปุญญาภิสังขาร ของท่าน นั่นแหละปรุง
อวิชชา หรืออกุศลมูล พอกพูนเพิ่ม
จักคอยเติม สังโยชน์ โทษมัดมุ่ง
วัฏฏะท่าน จักยืดยาว คราวจิตปรุง
จิตจักฟุ้ง ยุ่งเหยิง ด้วยเพลิงกรรม
ไม่ดูจิต แต่สร้างจิต ชนิดมัคค
หมั่นฟูมฟัก มัคคภาวนา มาอุปถัมภ์
ลุโสดา ฯ สกทา ฯ อนาคา ฯ ธรรม
อรหัตตมัคคนำ โลกุตตระ ละโลกีย์
การสร้างจิต นี่สิเลิศ ประเสริฐแท้
เลือกสร้างแต่ มัคคจิต ชนิดนี้
ปัจจุบัน เป็นเหตุมัคค ปักมั่นดี
มัคคจิตนี้ ไม่ง่อนแง่น เป็นปัจจุบัน
เดินตามทาง พระภูมี ที่ตรัสบอก
ละจิตออก จากกิเลส เหตุทุกข์นั้น
ดับตัณหา ดับสังขาร ปรุงจิตพลัน
มัคคผลนั้น จักเกิดได้ ในจิตคุณ
ถ้าตามดูจิต อปุญาภิสังขาร และปุญญาภิสังขารที่เป็นโลกียะ จะปรุงแต่งอุปธิเป็นกรรมเป็นวิบากเพื่อภพต่อไป
อภิธรรมมาติกา
ปัจจยจตุกกะ
[อวิชชามูลกนัย]
[๒๗๔] สังขารเกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
นามเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
อายตนะที่ ๖ เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย
ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ ๖ เป็นปัจจัย
เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
สร้างมัคคจิตด้วยโลกุตตระกุศลจิต
โลกุตตรกุศลจิต
[๓๗๐] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน
โยคาวจรบุคคล เจริญโลกุตตรฌาน อันเป็นเครื่องนำออกไปจากโลก ให้เข้าสู่นิพพาน เพื่อประหาณทิฏฐิ เพื่อบรรลุปฐมภูมิ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตก วิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา อยู่ ในสมัยใด ในสมัยนั้น
สังขารเกิดเพราะกุศลมูลเป็นปัจจัย
วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
นามเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
อายตนะที่ ๖ เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย
ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ ๖ เป็นปัจจัย
เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
ปสาทะเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
อธิโมกข์เกิดเพราะปสาทะเป็นปัจจัย
ภพเกิดเพราะอธิโมกข์เป็นปัจจัย
ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย
ความเกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่านี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
ยังมีจิตตสังขารอยู่ตราบใด ย่อมมีการปรุงแต่งอยู่ตราบนั้น
โลกุตตระธรรมมีปุญญาภิสังขารแห่งโลกุตตระกุศลเป็นเหตุปัจจัยปรุงแต่งครับ
เจริญในธรรมครับ(มหาราชันย์)