Advertisement
เวลาที่ใครสักคนคิดจะสร้างบ้านสักหลัง เหตุผลนั้นเกิดจากอะไรบ้างนะ เพราะบ้านหลังเดิมมีขนาดเล็ก จึงคิดอยากขยับขยาย หรืออยู่คอนโดมาตลอดจึงอยากได้บ้านมีพื้นที่กว้างๆบ้าง กำลังคิดที่จะมีลูก หรือ กำลังจะแต่งงาน สำหรับเจ้าของบ้านหลังนี้เหตุผลสุดท้ายดูจะใช่และลงตัวมากที่สุด แล้วการเริ่มต้นชีวิตคู่ในบ้านหลังใหม่จะเป็นอย่างไร เราลองไปหาคำตอบกันค่ะ
บ้านหลังนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด 97 ตารางวา แบ่งเนื้อที่ออกเป็นบ้าน 2 หลังที่ถูกเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงไม้ หลังแรกที่เราพบตั้งอยู่ด้านหน้าสุด เป็นของพี่ชาย คือ คุณต๊ง - พงศกร กิจขจรพงษ์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านหลังนี้ ส่วนหลังที่สองที่เราพาคุณมาเยี่ยมชมนั้น เป็นบ้านของคู่สามี -ภรรยา ข้าวใหม่ปลามัน ที่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันได้ปีกว่าๆ คือ คุณบิน กิจขจรพงษ์ และคุณพลอย -มนพันธ์ มัลลิกะมาส เมื่อทั้งคู่วางแผนที่จะใช้ชีวิตคู่ จึงคิดอยากมีบ้านสักหลัง และอยากให้บ้านเสร็จก่อนวันแต่งงานเพื่อใช้เป็นเรือนหอนั่นเอง หลังจากที่ทั้งสามคนช่วยกันเสาะแสวงหาที่ที่จะปลูกบ้านที่อยู่ใจกลางเมืองได้แล้ว จึงเริ่มวางแบบแปลนของบ้าน และกำหนดพื้นที่ใช้สอยหลักๆภายในบ้าน โดยบ้านถูกออกแบบให้มีใต้ถุนสูงคล้ายกับบ้านทรงไทย มีพื้นที่ใช้สอยหลักๆอยู่บริเวณชั้น 2 ส่วนบริเวณใต้ถุนบ้านนั้น ใช้ทำเป็นห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร ซึ่งคุณต๊งและคุณพ่อ ก็มักจะมานั่งคุยและรับประทานอาหารร่วมกันอยู่เป็นประจำ
สำหรับโจทย์ในการแต่งบ้านหลังนี้ดูจะไม่มีอะไรยุ่งยาก เนื่องจากทั้งคู่ชอบความเรียบง่าย และชอบบ้านที่ดูสบายๆ ไม่ยึดติดกับสไตล์ใดๆ โดยเห็นได้จากการออกแบบห้องนอน ซึ่งบ้านหลังอื่นมักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆแต่บ้านหลังนี้กลับมีห้องนอนขนาดกระทัดรัดที่ตกแต่งแบบสบายๆและเป็นกันเอง ‘ ผมกับพลอยไม่ค่อยเน้นเรื่องห้องนอนมากนัก เราจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ห้องรับแขกหรือห้องทำงานมากกว่า ’ พื้นที่ที่สำคัญจึงเป็นบริเวณชั้น 2 ที่ออกแบบให้เป็นห้องรับแขกและห้องทำงาน ภายในห้องทำงานนั้นออกแบบให้มีตู้หนังสือสูงจรดฝ้าเพดาน ซึ่งภายในตู้ก็เต็มไปด้วยข้าวของจากการเดินทางและหนังสือทุกแบบทุกสไตล์ไม่ว่าจะเป็น หนังสือแต่งบ้าน ถ่ายภาพหรือนวนิยายต่างๆ เพราะทั้งคู่ชอบอ่านหนังสือมากนั่นเอง โดยเฉพาะคุณพลอย ซึ่งมีอาชีพเป็นนักเขียนเกี่ยวกับเรื่องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งมีพ็อคเก้ตบุ๊คออกมาแล้วมากมาย การเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆนั้นทำให้คุณพลอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตกลับมา รวมไปถึงของแต่งบ้านเก๋ๆ ซึ่งคุณพลอยแอบกระซิบว่า ไม่มีชิ้นไหนที่ราคาแพงเลย เพราะอาศัยซื้อตามตลาดขายของเก่านั่นเอง ส่วนคุณบินนั้นทำอาชีพผู้กำกับโฆษณา ทำให้มีความชอบเกี่ยวกับหนังต่างๆจึงมักเก็บสะสมโปสเตอร์หนัง และ DVD เป็นจำนวนมาก ‘ ตอนทำบ้านจะบอกพี่ชายว่า อยากได้ห้องทำงานที่มีที่เก็บหนังสือเยอะๆ หรือตู้สำหรับเก็บพวก DVDภาพยนตร์ต่างๆ เพราะเวลาไปต่างประเทศทีไรต้องแวะร้านหนังสือทุกที ผมไม่เคยเสียดายเงินในการซื้อหนังสือเลย ’
หลังจากที่แต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ปีกว่าๆ ทำให้ทั้งคู่เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างหนึ่ง คือ การอยู่ติดบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะคุณพลอย ซึ่ง ปกติมักจะใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน เพื่อไปทำงานหรือพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง จากที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยๆ กลับกลายเป็นเริ่มทำอาหารทานเองที่บ้าน จนมีความคิดที่อยากจะขยับขยายครัวให้มีพื้นที่มากกว่านี้ ทีมงานถามถึงสไตล์ในการตกแต่งบ้านหลังนี้ว่าให้คำนิยามว่าอย่างไร คุณบินกล่าวว่า ‘ ถ้าเอาเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านออกจนหมด เหลือแต่บ้านเปล่าๆมันก็คงเหมือนกับบ้านหลังอื่นทั่วไป แต่เมื่อได้ลงลายละเอียดกับมัน ได้ซื้อของมาแต่ง ได้จัดวางทุกอย่างลงไป บ้านก็จะสะท้อนความเป็นเราได้อย่างชัดเจน ผมไม่ได้กำหนดกะเกณฑ์ว่าบ้านจะต้องออกมาเป็นอย่างไร อย่างของแต่งบ้านต่างๆ จะเรียกว่าสะสมก็ไม่เชิง เพราะหลายๆชิ้นเราซื้อมาเราใฃ้ทำงานด้วย บางชิ้นเราก็ไม่ได้ตั้งใจซื้อ แค่มองแล้วรู้สึกชอบก็ซื้อ ไม่ได้มานั่งคิดมากว่ามันจะเข้ากับบ้านของเราหรือเปล่า ’
หลังจากวันที่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และหลังจากวันแรกที่ได้เริ่มต้นใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งคู่มีความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ความรักที่มีต่อกันเพิ่มพูนมากขึ้นและความรู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นความรู้สึกดีๆที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยๆกันนั่นเอง
เจ้าของ คุณบิน กิจขจรพงษ์ และคุณ มนพันธ์ มัลลิกะมาส
ออกแบบตกแต่ง คุณพงศกร กิจขจรพงษ์ โทร.08 -1867 -6848
ภาพ จิระศักดิ์ ,ดำรง
สไตล์ ประไพวดี โภคสวัสดิ์
<a.ตู้เก็บของเรียบๆที่บ้าน ลองเพิ่มไอเดียด้วยการนำแผ่นเหล็กมาติดลงไปบนหน้าบาน แล้วนำโปสการ์ดสวยๆมาติดไว้ เท่านี้ก็ทำให้ตู้มีดีไซน์มากขึ้น
b.คุณพลอยชอบงานศิลปะประเภท Collage มาก เลย ตัดรูปต่างๆมาติดที่ผนัง เป็นการเพิ่มลูกเล่นเก๋ๆให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี ส่วนวอลล์เปเปอร์ด้านข้างซื้อมาจากต่างประเทศ นำมาติดไว้ที่บริเวณขอบหน้าต่างเป็นไอเดียการแต่งผนังด้วยการใช้วอลล์เปเปอร์ที่ไม่จำเป็นต้องติดจนเต็มผนังห้องทั้งหมด
C.บริเวณช่องแสงของบ้าน เพิ่มลูกเล่นด้วยการทำชั้นปูนกว้างประมาณ 25-30 เซนติเมตร เพื่อใช้สำหรับวางกระบะต้นไม้ ก็ช่วยทำให้ตัวอาคารที่ดูแข็งกร้าวนุ่มนวลขึ้นทันตา
ลิงค์ดูแบบบ้านhttp://www.kroobannok.com/blog/view.php?article_id=16862
ขอบคุณพิเศษ roommag
วันที่ 14 ส.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,339 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,414 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,645 ครั้ง |
เปิดอ่าน 84,329 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,582 ครั้ง |
เปิดอ่าน 95,548 ครั้ง |
เปิดอ่าน 34,799 ครั้ง |
|
|