Advertisement
จะเชื่อหรือไม่ คงตอบอยาก แต่ที่เกิดขึ้นแน่ ๆ ก็คือมีคนไปจับจองพื้นที่บนดวงจันทร์ สำหรับการขายกันแล้ว เท่าที่ทราบมีเซลส์วิ่งขายพื้นที่บนดวงจันทร์ในราคาเอเคอร์ละ 40 เหรียญสหรัฐหรือ 1,300 บาทต่อ 2 ไร่ครึ่ง
เซลส์แมนท่านนี้ชื่อ คุณฟรานซิส วิลเลียมส์ เขาเป็นนักธุริจอยู่ที่กรุงลอนดอน อาชีพของเขาคือขายที่ดินบนดวงจันทร์ ผมคงจะเรียกเป็นภาษาไทยว่า ที่ดินได้กระมัง เพราะพื้นที่ผิวดวงจันทร์นั้นเป็นหินและดินคล้าย ๆ กับโลกเราใบนี้ แม้จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือน้ำก็ไม่มีหรือ อาจจะมีแร่ธาตุต่าง ๆ แตกต่างกันไปจากบนโลกนี้บ้าง เวลาเดินไปเดินมาตัวคงลอย ๆ เหมือนที่คุณนีล อาร์มสตรอง แสดงให้เห็นบนจอทีวีเมื่อ 40 ปีก่อนโน้น
คุณวิลเลียมส์ ได้อธิบายว่า เขาเป็นทูตของดวงจันทร์ในประเทศสหราชอาณาจักร เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์บนดวงจันทร์ เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าสามารถขายที่ดินบนดวงจันทร์ได้แล้ว 300,000 เอเคอร์ หรือ 750,000 ไร่ คิดเป็นเงิน 12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 380 ล้านบาท ถือว่าเป็นธุรกิจที่ดีมาก
คุณวิลเลียมส์บอกว่า เขาได้ตั้งบริษัทเพื่อขายที่ดินบนดวงจันทร์มาได้ 8 ปี แล้ว การแสดงเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของหรือผู้ซื้อได้จ่ายเงิน ครบเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะได้แผ่นเงินแสดง การเป็นเจ้าของที่ดินบนดวงจันทร์ส่วนตัวได้เลย เรียกว่าโฉนดที่ดินบนดวงจันทร์ หรือ Lunar Deed เท่กว่ากระดาษบนโลกเราเยอะ
คุณวิลเลียมส์บอกว่า คนส่วนใหญ่ ชอบที่ดินบริเวณทางตะวันตกเฉียงเหนือ หรือเป็นบริเวณที่ถูกเรียกชื่อว่า โอเชียนนัส โปรเซลเลรัม หรือ Oceanus Procellarum หรือแปลว่ามหาสมุทรแห่งพายุ เป็นบริเวณที่พื้นที่ลาวาไหลพ่นออกมาจากปล่องภูเขาไฟเมื่อหลายพันล้านปีก่อน คนอังกฤษอาจจะชอบแบบนี้ก็ได้
เขากล่าวต่อไปว่า คนญี่ปุ่นชอบซื้อบริเวณทางตะวันออกไกลออกไปมากกว่า คุณวิล เลียมส์นั้นได้รับใบอนุญาตการขายพื้นที่บนดวงจันทร์ในประเทศสหราชอาณาจักรจากบริษัทของนายเดนนิส โฮป ในปี 1980 มีผู้ประกอบการรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา หัวใสอ้างกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดินบนดวงจันทร์หลังจากเขา พบว่า สนธิสัญญาเกี่ยวกับอวกาศของ สหประชาชาติมีช่องโหว่ เพราะว่า ข้อห้ามไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งบนโลกเป็นเจ้าของดวงจันทร์ แต่คุณเดนนิส โฮป (Dennis Hope) แกบอกว่าเขาไม่ได้ห้ามการเป็นเจ้าของส่วนบุคคลเอาไว้
คุณเดนนิส โฮป ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทคิดค้นเรื่องนี้ได้ประมาณการว่า พื้นที่บนดวงจันทร์ทั้งหมดมีประมาณ 500 ล้านเอเคอร์ หรือ 1,250 ล้านไร่ เขาจึงได้ประกาศความเป็นเจ้าของส่วนตัวโดยเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา กับองค์การสหประชาชาติ และรัฐบาลประเทศรัฐเซีย หลังจากนั้นคุณโฮปก็เป็นเจ้าพ่อบนดวงจันทร์ทันที แม้ว่าเขาได้ทำเรื่องนี้ถึงองค์การสหประชาชาติได้ 28 ปีแล้ว และยังไม่มีคำตอบกลับมา การไม่ปฏิเสธถือว่าเป็นการยอมรับ หรือเปล่าก็ไม่รู้
สมัยก่อนนั้นมีแต่ประเทศสหรัฐอเมริกา และรัสเซียเท่านั้นที่มียานอวกาศไปท่องนอกโลกในช่วงที่องค์การสหประชาชาติได้ ร่างสนธิสัญญาเรื่องอวกาศขึ้นมาปี 1967 แต่ปัจจุบันมีจำนวนประเทศที่ส่งยานอวกาศออกนอกโลกได้เป็นโหลรวมทั้งประเทศจีน อินเดีย และญี่ปุ่นด้วย
ในปี 2020 องค์การนาซาแห่งสหรัฐอเมริกา จะไปตั้งสถานีอวกาศบนพื้นที่ดินของดวงจันทร์อย่างถาวร ทางประเทศรัสเซียก็เช่นกัน ก็จะไปสร้างสถานีเช่นเดียวกัน นอกจากสนธิสัญญาอวกาศขององค์การสหประชาชาติแล้ว ก็มีข้อตกลงบนดวงจันทร์ในปี 1979 เท่านั้น ซึ่งก็ได้กล่าวว่าทรัพยากรธรรมชาติของดวงจันทร์นั้น ถือว่าเป็นมรดกแห่งมนุษยชาติร่วมกันทั้งโลกหรือจะต้องแบ่งปันกันนั่นเอง และข้อตกลงนี้มีแค่ 13 ประเทศเท่านั้น ที่ยอมเซ็นอนุมัติด้วย
เรื่องเหล่านี้คงจะให้นักกฎหมายด้านอวกาศของประเทศต่าง ๆ มาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร ถ้าหากท่านซื้อที่ดินไปแล้วคงจะต้องหาวิธีทางกฎหมายไปเจรจากันค่าทนายอาจจะคุ้มกับที่ดินที่ได้รับไปแล้วก็ได้ ธุรกิจทุกประเภทมีความเสี่ยง สำเร็จหรือไม่ก็ต้องคอยติดตามกันดู.
ที่มา : เดลินิวส์
Advertisement
เปิดอ่าน 9,529 ครั้ง เปิดอ่าน 25,726 ครั้ง เปิดอ่าน 23,805 ครั้ง เปิดอ่าน 9,871 ครั้ง เปิดอ่าน 20,543 ครั้ง เปิดอ่าน 17,126 ครั้ง เปิดอ่าน 20,480 ครั้ง เปิดอ่าน 17,137 ครั้ง เปิดอ่าน 3,279 ครั้ง เปิดอ่าน 23,292 ครั้ง เปิดอ่าน 9,959 ครั้ง เปิดอ่าน 10,919 ครั้ง เปิดอ่าน 10,069 ครั้ง เปิดอ่าน 21,697 ครั้ง เปิดอ่าน 504 ครั้ง เปิดอ่าน 13,382 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 10,819 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 22,201 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 10,997 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 12,347 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 9,876 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 11,437 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 14,819 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 8,468 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,806 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,186 ครั้ง |
เปิดอ่าน 64,549 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,150 ครั้ง |
|
|