Advertisement
ในหลักการที่สำคัญประการหนึ่งของศาสตร์ฮวงจุ้ย เกี่ยวกับการจะพิจารณาดูว่าบ้านไหนดีหรือร้าย มีโชคเกี้อหนุนผู้อาศัยหรือไม่ มากน้อยเพียงใดนั้น สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาและคำนึงถึงก็คือ ประตู ซึ่งคำว่าประตูจะรวมทั้งทิศทางการหันและตำแหน่งของประตูด้วย ผู้เขียนได้เคยเขียนถึงปัญหาและความสำคัญของการหันทิศทางหน้าบ้านไปสู่ทิศต่าง ๆ ว่าทิศไหนดี ทิศไหนไม่ดี ทั้งในแง่ทฤษฎีที่มีปรากฏอยู่โดยทั่วไปกับในแง่ปฏิบัติของผู้เขียน ในเชิงวิเคราะห์ในหลาย ๆ ตอนที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นว่าแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน
เนื่องจากทิศทางของบ้าน เป็นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการประเมินความดีร้ายของฮวงจุ้ยเกือบทั้งหมด การสามารถทราบเรื่องทิศได้อย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่การจะระบุชี้ชัดลงไปเลยว่าทิศไหนดีทิศไหนไม่ดีในแต่ละยุค เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะทิศทางของบ้านจะมีตั้งแต่ 0-360 สิ่งที่จะบอกได้คือ ใช้เข็มทิศจีนโบราณ (หล่อแก) เป็นตัวบ่งบอกเท่านั้น เพราะเป็นเข็มทิศที่ละเอียด ประกอบด้วยวงแหวนหลายชั้น จานสี่เหลี่ยมของหล่อแกจะแทนโลกหรือแผ่นดินที่อยู่อาศัย จานหมุนวงกลมตรงกลางจะแทนสวรรค์หรือท้องฟ้า (ตำแหน่งของดวงดาว) ซึ่งใช้ความสัมพันธ์ของฟ้าดิน เพื่อหาตำแหน่งประตูออกมา
คำว่า “ประตูบ้าน” ในศาสตร์ฮวงจุ้ยจะหมายถึงประตูใหญ่ หรือประตูหน้าบ้านของตัวบ้าน หรือสำนักงานที่ใช้เป็นทางสัญจรเข้าออกในแต่ละวัน โดยที่ประตูนั้นจะมีความสำคัญในแง่ของฮวงจุ้ย ดังนี้
เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างโลกภายนอกและโลกภายในบ้าน เป็นตัวผสานระหว่างจักรวาลใหญ่และจักรวาลเล็ก ๆ ที่มนุษย์เราอาศัยอยู่
เป็นจุดที่กิ่งฟ้าและก้านดินมาบรรจบกัน ก่อให้เกิดจุดแห่งความเป็นมงคลและอัปมงคลขึ้น โดยจะสัมพันธ์กับตำแหน่งของดวงดาวในจักรวาลกับตำแหน่งบ้านบนพื้นโลก
เป็นด่านแรกที่มนุษย์เราจะก้าวออกไปในแต่ละวัน เพื่อแสวงหาอาหาร ความก้าวหน้า ความสำเร็จในชีวิต
เป็นทางเข้าออกของพลังจักรวาลและสิ่งที่เป็นมงคล-อัปมงคลทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่จะต้องอาศัยจุดหรือทวารนี้ ในตามสถานธรรม วัดวาอารามของจีนจะเห็นมีรูปของเทพเจ้าวาดเอาไว้ที่หน้าประตูทางเข้า เพื่อคอยสกัดกั้นภูติผีวิญญาณ ขับไล่สิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าไป คนจีนตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบันในเทศกาล หรือวันสำคัญตามประเพณี จะมีการจุดธูปปักเอาไว้ที่ประตูทางเข้า เพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และการขออนุญาตให้ดวงวิญญาณของผู้ตาย ผ่านเข้าไปในบ้านได้ เป็นต้น
ประตูบ้านจึงเปรียบได้กับปากของคนเรา โดยสัตว์โลกทั้งหลายล้วนแต่จะมีปากไว้ เพื่อกินอาหารให้สามารถยังชีพอยู่ได้ แต่ประตูบ้านนั้นจะรับประทานอาหารที่ผิดไปจากสัตว์โลก คือจะรับเอาแต่ความศักดิ์สิทธิ์ของพื้นปฐพีที่ดี เพื่อผู้อยู่อาศัยจะได้รุ่งเรือง ร่ำรวย ทั้งจะคอยทำหน้าที่ดูดซับเอาราศีภายนอกและภายในซึ่งเป็นนามธรรม เกี่ยวกับสวรรค์และพื้นโลก เช่น ความงดงามของสายน้ำ ภูเขา สภาพแวดล้อมข้างเคียงเข้าสู่ตัวบ้าน ประตูบ้านจึงถือเป็นปากแห่งโชค และปากแห่งโชคตัวนี้จะต้องถูกต้องทั้งเรื่องทิศทาง ตำแหน่ง ขนาดและมีหมิงถังของประตู
ในยุคเกือบร้อยปีก่อนหน้านี้ การก่อสร้างบ้านเรือนจะให้ความสำคัญในเรื่องการหันทิศทางของบ้านเป็นหลัก ตัวบ้านอยู่ทิศไหน ประตูก็มักจะหันไปทางทิศนั้น บ้านเดี่ยวก็จะมีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียว แต่ในปัจจุบันตัวบ้านที่สร้างหันไปทางหนึ่ง ประตูก็อาจจะหันไปอีกทางหรือในลักษณะของรูปแบบคอนโดมิเนียม ที่มีการแบ่งห้องพักออกเป็นหลายปีกในอาคารเดียวกัน แต่ละปีกก็จะหันไปคนละทิศทาง โดยใช้ประตูของตัวอาคารเป็นประตูร่วมในการเข้าออกสู่ห้องพัก ซึ่งจะเห็นว่ามีความสลับซับซ้อนในเรื่องของประตูมากขึ้น ปัญหาก็คือจะยึดเอาทิศทางของประตูใหญ่หรือจะยึดเอาทิศของประตูห้องพัก หรือสำนักงานบนอาคารนั้น ๆ หรือยึดทั้ง 2 ประตูเป็นหลักในการวิเคราะห์ การดูทิศทางของการหันของประตูบ้านหรืออาคาร ในปัจจุบันจึงถือเป็นเรื่องค่อนข้างจะยุ่งยากและสามารถทำให้สับสนได้ ถ้าหากเราไม่เข้าใจถึงหลักการและขั้นตอนของการวิเคราะห์ฮวงจุ้ย ก็สามารถทำให้ผิดพลาดได้และในที่สุดปัญหาความโชคร้าย ก็จะตกอยู่กับเจ้าของบ้านและธุรกิจของอาคารนั้น ๆ ซึ่งอาจจะมีอาจารย์ฮวงจุ้ยหลาย ๆ ท่านพยายามมองข้ามปัญหาและเคราะห์กรรมตรงจุดนี้ไป
การนำหลักของฮวงจุ้ยมาวิเคราะห์ในโครงการธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ต้องใช้เงินทุนหลายร้อยล้านบาทนั้น จะต้องอาศัยความเชื่อถือและความศรัทธาของเจ้าของโครงการเป็นพื้นฐาน อย่างน้อยท่านเหล่านั้นจะต้องผ่านการทำสอบและพิสูจน์ในหลักวิชามาบ้างแล้ว มิฉะนั้น ก็คงไม่กล้าเสี่ยงต่อคำแนะนำของอาจารย์ฮวงจุ้ยทั้งหลาย
ตึกหรืออาคาร SOFTWART PARK บนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นของบริษัท สามารถ เทเลคอม คอร์ปอเรชั่นจำกัด ในระยะแรกก่อนลงเสาเข็มทางกลุ่มผู้บริหารได้ให้เกียรติเชิญอาจารย์ตั้งซิวเง็ก จากประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นอาจารย์ของผู้เขียนไปคำนวณ และตั้งทิศทางการหันทิศทางประตูของตัวอาคาร อาคารแห่งนี้จะมีประตูเข้าสู่ตัวอาคารได้ถึง 4 ทิศทาง ได้แก่ทิศเหนือ ใต้ ตะวันออกและตะวันตก อันถือเป็นจตุรทิศที่ดีและอยู่ในองศาที่มีโชค ซึ่งมีอิทธิพลในการดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้อยากเข้ามาร่วมลงทุน เปิดสำนักงาน ร้านค้า
ในตัวอาคารแห่งนี้ ปัจจุบันยังเป็นที่ทำการของกระทรวงยุติธรรมและดูเหมือนเนื้อที่ทั้งหมดของอาคารจะเต็มหมดแล้ว อาคารเหล่านี้มีการใช้ประตูทั้ง 4 ทิศทาง ซึ่งถือว่าจำเป็นสำหรับอาคารสูง ๆ เช่นนี้ และบังเอิญเป็นประตูโชคถึง 3 ประตู ผู้เขียนเอง มีส่วนในเรื่องของการจัดวางผังที่ทำงาน เฉพาะชั้นที่เป็นที่ทำงานของ บริษัท สามารถ เทเลคอม คอร์ปอเรชั่น จำกัดเท่านั้น ซึ่งในการวัดหาตำแหน่งขององศา 4 ทิศทางประตูนั้น จะต้องขึ้นไปถึงดาดฟ้าลานจอดเครื่องบิน เพราะโครงสร้างที่เสริมไปด้วยเหล็กเส้น ทำให้การหาตำแหน่งทิศทางที่แน่นอนค่อนข้างจะลำบาก จะต้องอยู่ยืนนอตัวอาคารจึงจะหาทิศทางที่แน่นอนได้ ประตูที่มีโชค ผู้บริหารก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก การทำงานก็สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ง่าย
ตำแหน่งประตูหรือปากแห่งโชคตามหลักของฮวงจุ้ย
โดยหลักทั่วไป ประตูของบ้านหรืออาคารสำนักงาน นักวิศวกรหรือสถาปนิกสามารถที่จะออกแบบ โดยกำหนดตำแหน่งของประตูด้านหน้าอยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่ได้วางหลักตายตัวเอาไว้ให้เป็นตำแหน่งซ้ายหรือขวา การทีมีคนนำหลักทฤษฎีเสือขาว-มังกรเขียวไปปรับใช้กับการกำหนดตำแหน่งของประตูนั้น เพราะว่า
ไม่สามารถหาหลักเกณฑ์อะไรมาให้ยึดถือ หรือปรับใช้กับสภาพความเป็นจริงของบ้านเรือนในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้
เกิดจากความไม่เข้าใจในพื้นฐานเดิมของทฤษฎี และไม่ได้ศึกษาถึงเหตุผลของการกำหนดสภาพแวดล้อม ในหลายรูปลักษณ์ของคนในสมัยก่อนนั้น
ทฤษฎีดังกล่าวเกิดขึ้น จากการกำหนดให้ทิศเบื้องหน้าของบ้านที่หันคือ ทิศใต้ แต่ปัจจุบันการนำเสือขาว-มังกรเขียวมาประยุกต์ใช้กับบ้านในทุกทิศทาง
การยึดถือทฤษฎีเสือขาว-มังกรเขียว เท่ากับเป็นการปฏิเสธถึงหลักความจริงของสภาพบ้านเรือนที่มีการกำหนดประตูไว้ทั้ง 4 ด้านคือ ซ้าย ขวา หน้า หลังและ 3 ตำแหน่งคือ ซ้าย ขวาและประตูตรงกลาง
จำนวนของประตูเข้าออกบ้านหรืออาคาร จะเห็นว่าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ๆ มักจะมีทั้งประตูด้านซ้าย ประตูด้านขวาและประตูตรงกลาง แต่จากการคำนวณตำแหน่งของดวงดาว ที่สัมพันธ์กับทิศทางของศาสตร์ฮวงจุ้ยพบว่าทุก ๆ 20 ปีไม่ว่าในปัจจุบันหรืออนาคตจะมีอยู่ทุก 3 ทิศใน 8 ทิศ ที่ตำแหน่งของประตูห้ามอยู่ในตำแหน่งด้านซ้าย ตรงกลางและด้านขวาของบ้าน โดยถือว่าเป็นตำแหน่งประตูที่จะส่งผลร้ายทุก 3 ปีแก่ผู้อยู่อาศัย ในเรื่องของอุบัติเหตุหรือเลือดตกยางออก
ในการกำหนดตำแหน่งประตูที่ดี ยังจะต้องเลือกเอาทิศทางที่ดีที่สุด ในกรณีที่ประตูทางเข้าออกของบ้านหรืออาคารนั้น ๆ มีเกินกว่า 1 ประตูและแต่ละประตูก็หันไปคนละทิศทาง การมีประตูหลาย ๆ ประตู อาจส่งผลให้ประตูใดประตูหนึ่งที่เราเหยียบย่างเข้าออกประจำ กลายเป็นประตูเสียหรืออับโชคของอีกประตูหนึ่งได้ ซึ่งกลับจะนำเอาปัญหาและอุปสรรคความไม่ราบรื่นเข้ามาให้ผู้อยู่คอยแก้ไข ซึ่งในทุกวันนี้จะหาคนที่ศึกษาและเข้าใจ หลักวิชาฮวงจุ้ยได้ลึกซึ้งถึงจุดนี้ค่อนข้างจะหายาก เพราะเท่าที่ประสบมา อาจารย์หรือผู้ที่ได้ชื่อว่าซินแสฮวงจุ้ย ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปในเรื่องการใช้อุปกรณ์ของขลัง มาประดับประดาไว้เท่านั้น โดยลืมความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ฮวงจุ้ย” ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะมีโอกาสพบกับหลักวิชาฮวงจุ้ยแบบไหน?
บทความโดย อ.ธิตินัย พันธุ์วิชาติกุล
โทร. 0-1692-0574
http://www.fengshui-thitinai.com
🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) คลิกเลย👇👇
฿129https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6
Advertisement
 เปิดอ่าน 12,953 ครั้ง  เปิดอ่าน 10,511 ครั้ง  เปิดอ่าน 10,906 ครั้ง  เปิดอ่าน 9,872 ครั้ง  เปิดอ่าน 28,706 ครั้ง  เปิดอ่าน 4,940 ครั้ง  เปิดอ่าน 15,616 ครั้ง  เปิดอ่าน 10,672 ครั้ง  เปิดอ่าน 2,956 ครั้ง  เปิดอ่าน 15,813 ครั้ง  เปิดอ่าน 12,625 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,656 ครั้ง  เปิดอ่าน 9,693 ครั้ง  เปิดอ่าน 42,458 ครั้ง  เปิดอ่าน 8,777 ครั้ง  เปิดอ่าน 14,093 ครั้ง
|

เปิดอ่าน 10,402 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 15,557 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 16,804 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 13,104 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 18,931 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 11,865 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 1,323 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 12,323 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 12,640 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 38,943 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 25,891 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 25,742 ครั้ง |
|
|