สุนทรภู่ ครูกวี ศรีสยาม
ระบือนาม ปราชญ์เปรื่อง เรื่องอักษร
ประดิษฐ์ถ้อย ร้อยลำนำ เป็นคำกลอน
"พระสุนทร โวหาร"คนขานไกล
ว่าเป็นเอก ในอักษร กลอนสุภาพ
อีกทั้งกาพย์,โคลง,ฉันท์ ประพันธ์ได้
เป็นมณี กวีศิลป์ แผ่นดินไทย
ขอนบไหว้ กราบครู ด้วยบูชา
ประนมกร..ก้มกราบสุดซาบซึ้ง
เป็นเพียงหนึ่งกวีที่แสนปลื้ม
สถิตในดวงจิตมิคิดลืม
ได้ดูดดื่มอรรถรส..บทประพันธ์
สุนทรภู่..ครูกวีศักดิ์ศรีชาติ
ร่าย-นิราศ-โคลง-กลอน-อักษรสรร
อมตะตลอดกาลผ่านคืนวัน
พระอภัยมณีนั้น..รู้กันดี...
ท่านเปรื่องปราด..ปรีชาน่านับถือ
ชนเลื่องลือเก่งนักสมศักดิ์ศรี
บรมครูผู้ชาญการกวี
สุนทรภู่นามนี้..มิลืมเลือน
ร่ายอักษร..กลอนไทยแสนไพเราะ
ลงคำเหมาะจับใจหาใครเหมือน
สุภาษิตหญิงไทยได้สอนเตือน
อย่าแชเชือนตั้งจิต..พินิจดู
........สดุดีกวีวรสุนทรภู่
สิบนิ้วนบจบกระหม่อมไหว้จอมครู
ชนเชิดชูชื่นชมนิยมกลอน
เป็นแบบอย่างสร้างสรรค์วรรณวิจิตร
เสนาะสนิทยิ่งนักในอักษร
สัมผัสพราวราวระนาดปี่พาทย์มอญ
บรรเลงซ้อนเสียงสลับเพราะจับใจ
หวานวิเวกเอกทุ้มนุ่มนวลโสต
ลางตอนโอดคร่ำครวญโหยหวนไห้
แล้วรัวเร่งเพลงสะบัดสะบิ้งไป
ทยอยไล่ลูกหมดท้ายบทตอน
ยามตกยากตรากตรำระกำหมอง
ก็ร้อยกรองกลอนระบายทุกข์ถ่ายถอน
ยามสมหวังดังจิตลิขิตกลอน
เป็นอักษรซึ้งซ่านสำราญรมย์
เรียบเรียงร่ำพร่ำไว้ในนิราศ
หลายรสชาติหวานชื่นคละขื่นขม
ลางตอนนั้นขันขำใช้คำคม
คนนิยมแยบยลนิพนธ์ตาม
ประพันธ์โดยคุณ ภีนุ จารุปัทมเวศม์
แนวกวีศรีสุนทรบวรลักษณ์
ก็นานนักหลายฉนำยังด่ำดื่ม
คมแสนคมคารมกล้าน่าขอยืม
ศิษย์แสนปลื้มสัมผัสในไหลลื่นเรียง
ได้อาศัยใบบุญสุนทรแก้ว
ยึดเป็นแนวร้อยกรองเคลิ้มคล้องเสียง
พาหลงรักอักษรามาคลอเคียง
ไม่พอเพียงเอ่ยพร่ำที่รำพัน
ยี่หกมิถุนาพาบูชิต
ร่วมน้อมจิตศรัทธาคงดำรงมั่น
กราบท่านภู่ครูศรีกวีวรรณ
มาช่วยกันจรรโลงรักษ์....สืบนักกลอน
ประพันธ์โดย จ.ดวงแก้ว