Post Today - หากเราพิจารณาข่าวต่างๆ ตามหน้าสื่อทุกวันนี้ ...
เรามักพบแต่ข่าวด้านลบมากกว่าข่าวสารด้านบวก คาดว่าคำถามหนึ่งที่น่าจะผุดขึ้นมาในใจของพ่อแม่ทุกคู่คือ พวกเขาจะสามารถให้กำเนิดและเลี้ยงดูลูกน้อยที่เกิดมาให้มีคุณภาพ และเป็นคนดีของสังคมได้อย่างไรท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมปัจจุบัน เพราะสิ่งสำคัญของการเป็นมนุษย์นั้นไม่ได้อยู่ที่ความฉลาดเฉลียวหรือร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์เหนือผู้อื่น หากแต่อยู่ที่จิตใจอันดีงามพร้อมด้วยสติปัญญาในการมองโลกและปฏิบัติตนจึงจะนับได้ว่าเป็นมนุษย์ผู้มีคุณค่า
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต จากเสถียรธรรมสถาน ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในงานเสวนา “กายพร้อม ใจพร้อม สร้างอภิชาตบุตร” เปิดตัวศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรของโรงพยาบาลนครธนว่า ชีวิตมนุษย์ทุกคนล้วนเกิดขึ้นและเป็นไปตามกรรมของตนเอง ทั้งที่เป็นกุศลกรรมอันดีงามและอกุศลกรรมด้านลบ สังคมจึงสามารถแปรเปลี่ยนไปได้ทั้งในด้านดีและร้าย ตราบเท่าที่มนุษย์ทุกคนยังมีสถานะเป็นองค์ประกอบของสังคมโดยรวม ซึ่งในจุดนี้คุณแม่เชื่อว่าผู้เป็นพ่อแม่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการจรรโลงสังคมให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยการมอบสิ่งดีงามให้บุตรของตนแต่แรกเริ่มปฏิสนธิ
ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมรักและปรารถนาอยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอเป็นธรรมดา ของสิ่งใดที่ว่าดีก็จะเสาะแสวงหามาให้ สวดมนต์ภาวนาครั้งใดก็จะอธิษฐานจิตขอให้ลูกอยู่รอดปลอดภัย มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้มีแต่สิ่งดีงามเกิดขึ้นกับลูกของตน และแน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากเห็นลูกของตนเติบโตขึ้นมาได้ดียิ่งกว่าตนหรือเรียกได้ว่าเป็น “อภิชาตบุตร” ผู้มีคุณสมบัติสูงยิ่งกว่าบิดามารดา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากอำนาจแห่งรักทั้งสิ้น
คุณแม่กล่าวว่า การจะสร้างอภิชาตบุตรให้เกิดขึ้นนั้นไม่จำเป็นว่าพ่อแม่จะต้องรอให้ลูกคลอดและเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นก่อนจึงจะเป็นได้ แต่แท้ที่จริงแล้วคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่งของผู้เป็นอภิชาตบุตรนั้นจะต้องเป็นบุตรที่สามารถพาพ่อแม่ดำเนินชีวิตเข้าสู่แนวทางแห่งธรรมได้ ดังนั้นในมุมมองของคุณแม่ การสร้างอภิชาตบุตรจึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนสามารถกระทำได้ตั้งแต่แรกเริ่มปฏิสนธิตั้งครรภ์
นอกเหนือไปจากการเตรียมสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์เหมาะสมกับการปฏิสนธิและตั้งครรภ์แล้ว ผู้เป็นพ่อแม่ยังจะต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะปรับสมดุลจิตใจ ตั้งมั่นอยู่ในกุศล ทำความดี ละความชั่ว รักษาศีลให้กายใจบริสุทธิ์ เตรียมความพร้อมเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก เมื่อพ่อแม่เปี่ยมด้วยกุศลกรรม เด็กก็จะแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เรียกได้ว่า ลูกเป็นพลังใจผลักดันให้พ่อแม่ทำแต่ความดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ สิ่งนี้ก็ถือได้ว่า เด็กคนนั้นเป็นอภิชาตบุตรแล้ว
“การที่เด็กหนึ่งคนถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นพระในบ้าน โอกาสที่เด็กจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้เจริญด้วยอริยะย่อมสูงขึ้น จึงนับเป็นการสร้างโลกให้ดีขึ้นและเต็มไปด้วยกุศลกรรมจากจุดเริ่มต้นด้วยการสรรค์สร้างเด็กให้ดีตั้งแต่พื้นฐาน บ้านจึงเป็นที่สร้างกระแสอริยะสำคัญในสังคม โดยมีพ่อแม่เปรียบเสมือนพระในบ้าน เช่นเดียวกับพระนางผุสดีในเวสสันดรชาดก ซึ่งในภายหลังได้เกิดเป็นพระนางสิริมหามายาในเวลาต่อมา ก่อนจะถือกำเนิดเป็นพระพุทธมารดาได้นั้น ก็ต้องผ่านการบำเพ็ญเพียรภาวนาอธิษฐานจิต รักษาศีล ปฏิบัติธรรมอยู่ในวินัยอย่างเคร่งครัด และมีจิตใจเป็นกุศล จึงจะให้กำเนิดผู้มีบุญได้”
แม่ชีศันสนีย์กล่าวอีกว่า แม้ผู้ประสบภาวะมีบุตรยากก็มิใช่ข้อยกเว้น ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายช่วยให้การมีบุตรไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การเตรียมความพร้อมทางกายภาพเท่านั้น การขัดเกลาทางจิตใจเป็นเรื่องที่ต้องกระทำควบคู่กันไปเพื่อให้เด็กที่เกิดมาสมบูรณ์พร้อมอย่างแท้จริง
จะเห็นว่าแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางการรักษาของศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรของโรงพยาบาลนครธน ซึ่งเน้นการรักษาแบบองค์รวมผสมผสานกับแพทย์ทางเลือกแขนงต่างๆ ประยุกต์ใช้เข้ากับการรักษาเพื่อปรับสมดุลให้แก่ผู้ประสบปัญหาให้ถึงพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ
อาจารย์สุกัญญา หงส์ประภาส ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ไทยของโรงพยาบาลนครธน อธิบายว่า การเตรียมความพร้อมให้กับพ่อแม่ด้านจิตใจถือว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกับความพร้อมด้านร่างกาย ความเครียดถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในการรักษาผู้มีบุตรยากและยังมีผลกระทบต่อเนื่องไปตลอดช่วงการตั้งครรภ์ 9 เดือน เมื่อแม่เครียดย่อมส่งผลไม่ทางใดก็ทางหนึ่งต่อลูกน้อย
อาจารย์สุกัญญาแนะนำว่า คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับใช้ความรู้แพทย์แผนโบราณมาช่วยในเรื่องนี้ได้ เช่น การปรับสมดุลร่างกายด้วยการรับประทานพืชผักสมุนไพรไทยแทนที่อาหารเสริมราคาแพง การกำหนดฝึกลมหายใจรักษาสมาธิ ออกกำลังกายผ่อนคลายความเครียดด้วยการนวดกดจุดแผนโบราณหรือการฝังเข็มตามหลักการแพทย์จีนโบราณ พร้อมกันนั้นยังแนะให้พ่อแม่ทุกคู่รักษาจิตให้แจ่มใสด้วยการสวดมนต์ภาวนา รักษาศีล 5 เหล่านี้ถือว่าเป็นการสร้างเสริมรากฐานที่สำคัญให้แก่ลูกน้อยแล้ว
เเต่ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลนครธนเองก็ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องของวิทยาศาสตร์ เเละเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทางโรงพยาบาลได้นำเข้ามาให้บริการเเก่ว่าที่คุณพ่อคุณเเม่ที่ประสบปัญหามีบุตรยาก
นพ.พิสิฐ ตันติวัฒนากุล แพทย์เฉพาะทางด้านภาวะผู้มีบุตรยาก กล่าวว่า จริงๆ เเล้วหลายคนเข้าใจผิดว่าศาสนากับเรื่องของวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ไปด้วยกันไม่ได้ เเต่ในมุมมองของโรงพยาบาลนครธนเเล้ว เชื่อว่าการนำเอาหลักศาสนาเเละการเเพทย์ทั้งเเผนปัจจุบันเเละการแพทย์แผนทางเลือกมาผสมผสานใช้ด้วยกัน น่าจะทำให้เกิดผลดีที่สุดต่อทั้งคู่สมรสที่ตั้งใจจะมีบุตร เเละต่อลูกน้อยในครรภ์ที่จะลืมตามาดูโลกด้วย
การใช้เทคโนโลยีรักษาภาวะมีบุตรยากที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เช่น การผสมเทียม การทำกิฟต์ การปฏิสนธินอกร่างกายด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว การทำพรอสท์ อิคซี่ การบริจาคไข่ ตัวอ่อน อสุจิ ตลอดไปจนถึงการตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนการฝังตัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่เพิ่มโอกาสให้ทารกที่มากำเนิดมีสุขภาพแข็งแรงเเละทางศูนย์ยังมีความพร้อมในการรองรับเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ในอนาคตอีกด้วย
นพ.พิสิฐ กล่าวสรุปว่า ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรของโรงพยาบาลนครธน มีเทคโนโลยีที่นำสมัย เเต่ก็ไม่ได้ละทิ้งเรื่องของศาสนา ยังคงมุ่งเน้นการรักษาด้วยหลักการแบบองค์รวมให้เกิดความสมดุลระหว่างทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดตามแนวคิด “อบอุ่น ใส่ใจ ให้เวลา” ร่วมกับการผสมผสานการแพทย์แผนโบราณอย่างลงตัว เพื่อให้เราสามารถสร้างศูนย์เทคโนโลยีเเห่งนี้ เป็นห้องที่จะสร้างกุศลให้เกิดทั้งกับตัวเด็กเเละพ่อเเม่ที่ประสบปัญหามีบุตรยากได้
เพื่อให้ได้อภิชาตบุตรในที่สุด ตามเเนวคิดที่คุณแม่ชีศันสนีย์ได้ให้ไว้
ขอขอบคุณ
ข้อมูลโดย :
หาคนดีมีศีลธรรมในใจ หายากยิ่งกว่าเพชรนิลจินดา ได้คนเป็นคนดีเพียงคนเดียว ย่อมมีคุณค่ามากกว่าเงินเป็นล้านๆ เพราะเงินล้านๆ ไม่สามารถทำความร่มเย็นให้แก่โลกได้อย่างถึงใจ เหมือนได้คนดีมาทำประโยชน์
คนดีแม้เพียงคนเดียว ยังสามารถทำความเย็นให้แก่โลกได้มากมายและยั่งยืน เช่น พระพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งหลายเป็นตัวอย่าง คนดีแต่ละคนมีคุณค่ามากกว่าเงินเป็นก่ายกอง เป็นคุณค่าแห่งความดีของตนที่จะทำต่อไปมากกว่าเงิน แม้จะจนก็ยอมจน ขอแต่ให้ตัวดีและโลกมีความสุข
แต่คนโง่ชอบเงินมากกว่ามากกว่าคนดีและความดี ขอแต่ได้เงินแม้ตัวจะเป็นอย่างไรไม่สนใจคิด ไม่สนใจดู ถึงจะชั่วช้าลามกหรือแสนโสมมเพียงไรไม่หลีกห่าง ขนาดยมบาลเกลียดกลัวไม่ยอมนับเข้าบัญชีผู้ต้องหา กลัวจะไปทำลายสัตว์นรกด้วยกันให้เดือดร้อน ขอแต่ได้เงินก็เป็นที่พอใจ ส่วนจะผิดถูกประการใดเขาไม่ยุ่งเกี่ยว
คนดีกับคนชั่ว สมบัติเงินทองกับธรรมะคือคุณความดี ผิดกันอย่างนี้แล ใครมีหูมีตาก็คิดแก้ไขเสียแต่บัดนี้ อย่าให้สายเกินแก้ ฉะนั้น สัตว์โลกจึงต่างกันทั้งภพกำเนิด รูปร่างลักษณะ จริต นิสัย ดี - ชั่ว สุข - ทุกข์ เพราะกฏของกรรมหรือกฏของตัวเองที่ทำขึ้น มิใช่กฏของใครไปทำให้ ตัวทำเอาเอง
ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอาเมื่อเวลาตายแล้ววุ่นวาย หานิมนต์พระมากุสลามาติกา ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียแต่บัดนี้ คือ เร่งทำความดีแต่บัดนี้ จะได้หายห่วง
อะไรที่เป็นสมบัติของโลก มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล สมบัติในโลกเราแสวงหามา หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริง ๆ ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาด และความโง่เขลาของผู้แสวงหาแต่ละราย ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน จนกลายเป็นสรณะของพวกเรา ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทอง เครื่องหวงแหนเป็นคนร่ำรวย สวยงาม เฉพาะสมัย จึงพากันรักพากันห่วงจนไม่รู้จักเป็นรู้จักตาย สำคัญตนว่าจะไม่ตายและพากันประมาทจนลืมตัว เพลิดเพลินตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว
อย่าสำคัญตนว่าเก่งกาจสามารถฉลาดรู้กว่าเขาเลย ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตาทับถมตัวเอง จนไม่มีวันสร่างซา เมื่อถึงเวลาจนตรอกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์ ถ้าไม่เตรียมทราบไว้เสียแต่บัดนี้ ซึ่งอยู่ในฐานะอันควร อาตมาขออภัยด้วยถ้าพูดหยาบคายไป แต่คำพูดที่สั่งสอนคนให้ละชั่วทำความดี จัดเป็นหยาบคายอยู่แล้ว โลกเราก็จะถึงคราวหมดสิ้นศาสนา เพราะไม่มีผู้ยอมรับความจริง การทำบาปหยาบตายมีมาประจำแทบทุกคน ทั้งให้ผลเป็นทุกข์ ตนยังไม่อาจรู้ได้ และตำหนิมันบ้างพอมีทางแก้ไข แต่กลับตำหนิคำสั่งสอนหยาบคาย ก็นับเป็นโรคที่หมดหวัง
เมื่อมีผู้เตือนสติ ควรยึดมาเป็นธรรมคำสอน จะเป็นคนมีขอบเขตมีเหตุผล ไม่ทำตามความอยาก เมื่อพยายามฝ่าฝืนให้เป็นไปตามทางของนักปราชญ์ได้ จะประสบผลคือความสุขในปัจจุบันทันตา แม้จะมิได้เป็นเจ้าของเงินล้าน แต่มีทางได้รับความสุขจากสมบัติและความประพฤติดีของตน
คนฉลาดปกครองตนให้มีความสุขและปลอดภัย ไม่จำต้องเที่ยวแสวงหาทรัพย์มากมาย หรือเที่ยวกอบโกยเงินเป็นล้าน ๆ มาเป็นเครื่องบำรุงจึงมีความสุข ผู้มีสมบัติพอประมาณในทางที่ชอบ มีความสุขมากกว่าผู้ได้มาในทางมิชอบเสียอีก เพราะนั่นไม่ใช่สมบัติของตนอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ แต่กฏความจริงคือกรรม สาปแช่งไม่เห็นด้วย และให้ผลเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด นักปราชญ์ท่านจึงกลัวกันนักหนา แต่คนโง่อย่างพวกเราผู้ชอบสุกเอาเผากิน และชอบเห็นแก่ตัว ไม่มีวันอิ่มพอ ไม่ประสบผลคือความสุขดังใจหมาย
คนหิวอยู่เป็นปกติสุขไม่ได้ จึงวิ่งหาโน่นหานี่ เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึกว่าผิดหรือถูก ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็มาเผาตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ คนที่หลงจึงต้องแสวงหา ถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา จะหาไปให้ลำบากทำไม อะไร ๆ ก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว จะตื่นเงาตะครุบเงาไปทำไม เพราะรู้แล้วว่าเงาไม่ใช่ตัวจริง ตัวจริงคือสัจจะทั้งสี่ ที่มีอยู่ในกายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว ความมั่งมีศรีสุขจะไม่บังเกิดแก่ผู้ทุจริตสร้างกรรมชั่ว มีมากเท่าไรย่อมหมดไป พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ที่สร้างบาปกรรมไว้ ผลกรรมนั้นย่อมตกอยู่กับลูกหลานรุ่นหลัง ให้มีอันเป็นไป ผู้ทุจริตเบียดเบียนรังแกผู้อื่น จะหาความสุขความเจริญไม่ได้เลย
คนดีมีศีลธรรม - หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากเว็บแสงธรรมค่ะ
เก็บไว้ที่ Myspace เอาไว้อ่านคนเดียวมานานแล้ว ขออนุญาตนำมาวางไว้ที่นี่ค่ะ
-----------------------------------------------------