...ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้า
ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ...
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคน กับสิ่งแวดล้อม กับสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ต้องมีสิ่งที่มาจากภายนอกมากระทบ สัมผัส จากทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ก็จะเกิดการจำได้ หมายรู้ แล้วนำไปปรุงแต่งไปต่าง ๆ นานา
หากเจ้าของชีวิตนำไปปรุงแต่งในทางดี ใจก็จะเกิดสภาพใจดี ใจสะอาด สว่าง และสงบ ชีวิตก็จะดำเนินไปด้วยความสันติ สุข สงบ ปราศจากปัญหา เป็นคนชนะอารมณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบ กลายเป็นคนชนะใจตนเอง
แต่หากเจ้าของชีวิตนำไปปรุงแต่งไปในทางที่ไม่ดี จิตใจก็จะมีสภาพจิตใจเกิดความท้อแท้ เกิดความเศร้าหมอง ห่อเหี่ยว ขาดชีวิตชีวาไม่มีพลัง ไม่คิดจะต่อสู้กับชีวิต ยอมแพ้ต่อกิเลส และอารมณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบ กลายเป็นคนแพ้ใจตัวเอง
เมื่อยามใดมีจิตใจดี ได้รับการพัฒนา จะพบกับใคร สิ่งใด หรือมีใคร สิ่งใดมากระทบ ก็จะมองแต่ในสิ่งที่ดี หาประโยชน์ในสิ่งที่พบ ที่เห็น นำมาเพื่อพิจารณาปรับปรุงพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นจิตใจก็จะได้รับการบำรุงปุ๋ย น้ำ และคุณธรรม กลายเป็นใจมีพลัง มีชีวิตชีวา
แต่ยามใด จิตใจมีความเศร้าหมองขาดพลัง ขาดการพัฒนา ยามนั้นหากมีใคร สิ่งใด มากระทบก็พลอยทุกข์ใจ เศร้าหมองไปด้วย ใครอยู่ใกล้ มาพูดมาจาด้วย ย่อมได้รับเชื้อแห่งความเศร้าไปด้วยเช่นกัน นั่นก็หมายความว่ายามนั่น เขาได้พ่ายแพ้ต่อกิเลส ขาดการให้ปุ๋ย ให้น้ำกับจิตใจ จิตใจจึงขาดพลัง ขาดชีวิตชีวา ไม่มีพลังเพียงพอที่จะเป็นเกราะคุ้มกันในยามมีภัยคือกิเลส เข้าบุก เข้ามาโจมตี จึงกลายเป็นคนแพ้ไปอย่างราบคาบ กลายเป็นคนแพ้ใจตนเองไป
ในเรื่องนี้ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ได้กล่าวไว้ในหนังสือเรื่อง ...ชนะใคร ไม่เท่าใจตนเอง ...(หน้า ๒๘ - ๓๒)ไว้ว่า
...ปัญหาที่เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคมบ่อยครั้ง ผู้ก่อเหตุมีการศึกษาดีเยี่ยม มีฐานะร่ำรวย มีชื่อเสียงดี จนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำสิ่งเลวร้ายได้ขนาดนั้น แต่เขาก็ทำไปแล้ว...
ชีวิตนคนเราไม่ว่าจะร่ำรวย มีอำนาจวาสนา มีความสามารถ มีการศึกษาสูง ขนาดไหนก็ตาม หากขาดการพัฒนาจิต พัฒนาด้านอีคิว จิตใจก็อ่อนแอ ไม่มีกำลังใจ เมื่อใจไม่ดี ใจเสียอย่างเดียว เท่ากับเสียทั้งหมด เอาชนะอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แพ้กิเลสในตัวเองแล้ว ก็แพ้ทั้งหมด...
ผู้หวังความเจริญในชีวิต ก็พึงเพ่งพิศ นำไปพิจารณา หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ตนและ ประโยชน์ท่านแล้ว ก็ควรนำไป.....? ต่อไป