บำบัดต่อมช้อป
ในเมื่อเจ้าของสินค้าเอาเทคนิคย่นเวลาตัดสินใจซื้อมากระตุ้นให้เราจ่ายเร็วได้สำเร็จ แล้วถ้าเรายึดหลักเดียวกัน คือหาวิธียืดเวลาการคิดตัดสินใจออกไปให้นานที่สุดก่อนควักกระเป๋าจ่ายล่ะ ...เรื่องช้อปจนกระกระเป๋าฉีก สติแตก หน้าแห้ง เงินหมดก็ไม่มีน่ะสิ ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะสะกดตัวเองให้คิดและตัดสินใจช้าลง เพื่อควบคุมความต้องการของตัวเองได้ยังไง ลองเทคนิคเหล่านี้ดูก่อนเป็นไง
สติ และ ลิมิต คาถาเด็ดบทแรกที่ต้องงัดขึ้นมาใช้เวลาที่ต่อมช้อป
ถูกสะกิด ตามด้วยบทที่ 2 "ฉันกำลังจะซื้ออะไร" "เพื่ออะไร" "
จำเป็นไหม" และ "แบบนี้ที่บ้านมีแล้วกี่อัน" ถ้าเจอสุดยอดโปรโมชั่น
เย้ายวนก็ต้องบทนี้ "ลดจริงหรือ" "ราคาตั้งต้นเว่อร์ไปเปล่า"
"เราจะได้เอาคูปองนี้มาใช้อีกทีเมื่อไหร่" "เราจะลืมใช้/ส่ง
คูปองนี้หรือเปล่า" หรือ "คอยดูสิพรุ่งนี้ก็ยัง Sale อยู่" ...เป็นต้น
ทำตัวเป็นพวกวินโดว์ช้อป อย่าเพิ่งรีบร้อนเดินเข้าร้านไหน จนกว่าจะเดินชื่นชมสินค้า display ร้านต่างๆ ให้หนำใจก่อน
เมื่อเกิดอาการสะดุดกึกกับโปรโมชั่น ก็เบรกตัวเองด้วยการแวะดูหนังสือสักเล่ม จิบกาแฟสักแก้ว ดูหนังสักเรื่องก็น่าจะดี
ถ้าเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ขอดูทุกแบบแล้วเลือกมาลองสัก 2-3 ชุด นอกจากยืดเวลาการจ่ายออกไปแล้ว คุณยังมีเวลาพิจารณาด้วยตาตัวเองว่าเมื่อของเหล่านั้นอยู่บนตัวเราแล้วมันเหมาะกับเราจริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่คนอื่นบอกว่าเหมาะ
ระลึกไว้ว่าของที่ควรค่ากับเงินในกระเป๋าเราคือของจำเป็น ของดี และของที่เหมาะกับเราเท่านั้น ไม่ใช่ของถูกของแถม
บอกตัวเองว่า บัตรเครดิตสำหรับรายจ่ายประจำ พวกค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ประเภทรายจ่ายขาจรต้องเงินสดเท่านั้นเพราะแบงค์ในกระเป๋าที่หายไปจะช่วยฉุดสติสตางค์เราให้กลับคืน
กลยุทธ์เสริม
ของยังมีจำนวนจำกัดได้ เราก็พกเงินต่อวันในจำนวนจำกัดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะวันที่จะไปช้อป
บัตรเครดิตไม่ต้องติดกระเป๋าบ้างก็ได้ โดยเฉพาะช่วงสตางค์มีน้อย
เตือนตัวเองว่าอย่าใช้การเดินห้างเป็นการพักผ่อน (บ่อยนัก)
ออกช้อปครั้งใดต้องลิสต์รายการของที่จะซื้อก่อนทุกครั้ง
ถ้าคิดกันให้ดีๆ ถึงเราไม่ได้ความสุขแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้จ่ายแบบทันที นอกจากเงินไม่ขาดมือแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรขาดหายไปจากชีวิตนี่นา คุณว่าจริงไหม....