Advertisement
ความจริงในความเชื่อ "ฝาแฝด" ชีวิตอัศจรรย์มีปัญหา ? |
แม้มิใช่เรื่องใหม่แต่เรื่องราวของ “ฝาแฝด” ก็เป็นข่าวฮือฮาเป็นระยะ อย่างล่าสุด “เด็กฝาแฝด” ต่างเพศคู่หนึ่งวัย 4 ขวบ ที่ จ.อ่างทอง ทางพ่อแม่ผู้ปกครองก็จัดพิธีให้แต่งงานกัน เนื่องจากมี “ความเชื่อ” ที่ว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้คนใดคนหนึ่งอาจจะอายุสั้น ?!? ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ความเชื่อเกี่ยวกับฝาแฝด...
แต่นอกจากความเชื่อ...ก็ยังมีความ “ความจริง” ที่พ่อแม่-ผู้ใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเด็กฝาแฝดควรสนใจ...
เรื่องราวของเด็กฝาแฝดนี้ ในเว็บไซต์ www.elib-online.com ซึ่งเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจโดยคุณหมอผู้ชำนาญการ มีสาระที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการกำเนิดเด็กฝาแฝด และ “ปัญหาเด็กฝาแฝด” ที่อาจจะเกิด-ที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรรู้
ทั้งนี้ กับประเด็นปัญหานั้น ใน “ความจริง” ที่มิใช่ความเชื่อ คุณหมอมฆวัน ธนะนันท์กุล ให้ความรู้ไว้ในบทความสรุปได้ว่า...เริ่มตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์เด็กแฝด ซึ่งจะทำให้มารดามีความเสี่ยงกว่าครรภ์ทั่วไป เช่น มีโอกาสแท้งและคลอดก่อนกำหนดสูงกว่าครรภ์ปกติ โอกาสที่เด็กจะตายในครรภ์และแรกคลอดสูงกว่าปกติ 2 เท่า เด็กอาจมีน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม เด็กเสี่ยงที่จะมีความผิดปกติแต่กำเนิดสูงกว่าครรภ์ปกติ
ผู้เป็นแม่อาจเกิดอาการแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ โลหิตจาง รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด เด็กอยู่ในท่าผิดปกติ โพรงมดลูก ใหญ่มาก หรือมีอาการแทรกซ้อนขณะคลอด เช่น มดลูกบีบตัวไม่ดี สายสะดือย้อย รวมถึงอาจมีอาการแทรกซ้อนหลังคลอด เช่น ตกเลือด และการติดเชื้อ
เด็กแฝดในครรภ์อาจเติบโตไม่เต็มที่แล้วคลอดก่อนกำหนดทำให้ตัวเล็ก เด็กแฝดในครรภ์ต้องการอาหารมากแต่แม่กินได้จำกัดจึงได้รับอาหาร น้อยหรือแย่งอาหารกันเอง ซึ่งเมื่อคลอดอาจมีอาการหอบ ติดเชื้อ อ่อนแอ เสี่ยงหัวใจวาย ความฉลาดและพัฒนาการอาจไม่เท่าเด็กที่เกิดเดี่ยว !!
เพราะอาจจะมีปัญหาดังที่ว่ามาทางคุณหมอจึงให้ “คำแนะนำสำหรับ ผู้เป็นแม่ที่ตั้งครรภ์เด็กแฝด” ว่า...ควรฝากครรภ์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีประสบ การณ์ในการดูแลครรภ์ที่มีอาการแทรกซ้อน-ครรภ์แฝด ต้องพักผ่อนมากกว่าหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่ามากกว่าครรภ์ปกติ โดยเน้นโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม เช่น นม เนื้อสัตว์ และถั่ว เป็นต้น ควรกินยาบำรุงที่ประกอบด้วย ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และแคลเซียม เพื่อเสริมอาหารที่อาจจะให้ธาตุเหล่านี้ไม่เพียงพอ ท่านอนควรนอนตะแคงเต็มที่ หรือนอนกึ่งตะแคงซ้าย-ขวา หรือนอนยกตัวขึ้น 45 องศา เพื่อไม่ให้มดลูกที่มีเด็กและรกกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ที่กลางหลัง ทำให้เลือดจะไหลกลับหัวใจลดลง ทำให้เกิดความดันต่ำ มดลูกขาดเลือดไปเลี้ยง ส่งผลให้เด็กอาจจะขาดออกซิเจนได้
หากแม่ตั้งครรภ์เด็กแฝดมีอาการ เช่น น้ำหนักเพิ่มเร็วกว่าปกติมาก ขาบวมกดแล้วบุ๋ม ปวดศีรษะรุนแรง ตาพร่า ตกเลือด เด็กดิ้นน้อยลง ฯลฯ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน !!
นอกจากด้านสภาพร่างกายแล้ว “จิตใจของเด็กแฝด” ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องระวัง ซึ่งบทความในนิตยสารดวงใจพ่อแม่ โดย คุณหมอชาญวิทย์ พรนภดล ก็ให้คำแนะนำไว้อย่างละเอียด ยกตัวอย่างเช่น... ปัญหาเด็กแฝดติดกันในด้านจิตใจ อยู่ติดกันมาก เล่นกันอยู่ 2 คน ไปไหนไปด้วยกัน หากขาดคนใดไปอีกคนก็จะรู้สึกเหงา เศร้า
เด็กแฝดอาจขาดทักษะทางสังคมหรือมีทักษะการเข้าสังคมน้อย เนื่องจากเด็กจะเรียนรู้เฉพาะนิสัยคู่แฝดของตนเอง รู้สึกว่าอยู่ 2 คนได้ จึงไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องปรับตัวเข้ากับคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับเพื่อนคนอื่นอย่างไรเมื่อต้องอยู่คนเดียว ไม่เข้าใจและยอมรับอารมณ์ของคนอื่น
หากเด็กแฝดคนใดคนหนึ่งโดนเปรียบเทียบกับเด็กแฝดอีกคน เช่นคนหนึ่งเรียนเก่งกว่าอีกคนแล้วมีการเปรียบเทียบ ก็อาจเกิดความรู้สึก “มีปมด้อย” อิจฉา โกรธ เสียใจ รู้สึกว่าพ่อแม่ลำเอียง
เด็กอาจรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องขึ้นอยู่กับแฝดอีกคน อย่างเช่นเวลาอยู่ด้วยกันจะมีความมั่นใจมากกว่า ได้รับความสนใจเนื่องจากเป็นแฝด
เหล่านี้อาจเป็นปัญหาด้านจิตใจที่เกิดกับเด็กฝาแฝด
เป็นปัญหาที่เกิดจากการเลี้ยงดูโดยขาดความเข้าใจ !!
ทั้งนี้ ทางคุณหมอแนะนำให้เลี้ยงดูเด็กแฝดแบบเป็นคน ๆ เดียว ...ไม่ใช่คู่เหมือน โดยสรุปก็คือให้แต่ละคนมีความเป็นตัวตนของตนเอง ให้สามารถทำอะไรแตกต่างจากอีกคนได้ พ่อแม่ผู้ปกครองอย่าบังคับยัดเยียดให้เด็ก แฝดต้องทำอะไรเหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การเล่น การเรียนรู้ การเรียนในโรงเรียน หรือแม้แต่การตั้งชื่อ
และจุดที่ต้องเน้นย้ำคือ “อย่าเปรียบเทียบ” เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งรู้สึกเป็นปมด้อยจะเปลี่ยนความคิดได้ยาก ซึ่งกรณีนี้กับเด็กที่เป็นพี่น้องกัน ที่มิใช่เด็กแฝด พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรตระหนัก ควรหาจุดดีของแต่ละคนให้ชัด เช่น คนหนึ่งเรียนเก่ง อีกคนถึงเรียนไม่เก่งก็อาจจะเล่นกีฬาเก่ง ก็ต้องให้กำลังใจ เด็ก โดยเฉพาะที่เป็น “ฝาแฝด”
“ความเชื่อ” ก็ว่ากันไป...แต่ “ความจริง” ก็อย่าละเลย
“ฝาแฝด” เป็นชีวิตที่อัศจรรย์...แต่ก็มีความอ่อนไหวสูง
ต้องดูแลอย่างเข้าใจ...ความสุขคูณสองจึงจะราบรื่น !!.
|
ขอบคุณที่มาข้อมูล
|
วันที่ 23 พ.ค. 2552
หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopeehttps://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6
Advertisement
เปิดอ่าน 7,170 ครั้ง เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง เปิดอ่าน 7,187 ครั้ง เปิดอ่าน 7,178 ครั้ง เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,163 ครั้ง เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง เปิดอ่าน 7,167 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,220 ครั้ง เปิดอ่าน 7,156 ครั้ง เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,195 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,170 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,156 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,174 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,204 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,167 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 17,858 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,419 ครั้ง |
เปิดอ่าน 39,037 ครั้ง |
เปิดอ่าน 28,951 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,004 ครั้ง |
|
|