Advertisement
ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคนในยุคต้องสู้นี้ มีเรื่องที่ต้องให้แก้ไขมากมาย ทั้งปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจที่รุมเร้าจนทำให้ใครหลายคนท้อแท้ไม่อยากที่จะทำอะไร เรียกได้ว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ รวมทั้งเอวของที่เริ่มหายไปทีละนิ้วก็หาใส่ใจไม่
“เนสท์เล่” จึงได้นำเคล็ดไม่ลับในการดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่คุณรักแบบง่ายๆ มาฝากหนุ่มสาวเฮลท์ตี้กัน เพื่อเป็นพลังในการฟันฝ่าอุปสรรคให้ผ่านพ้นไป
ผู้เชี่ยวชาญเนสท์เล่บอกว่า การที่มนุษย์จะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้นั้น สิ่งหนึ่งต้องเกิดมาจากการรับประทานอาหารที่สมดุลนั่นเอง ซึ่งกินอย่างสมดุลก็หมายถึงการมีชีวิตที่สมดุลตามไปด้วย
การบริโภคอย่างสมดุล คือการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ในสัดส่วนที่พอเหมาะกับวัย เพศ ขนาดของร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยให้พิจารณาจากหลักพื้นฐานคือ ผู้หญิงต้องการพลังงาน 1,600-2,000 กิโลแคลอรี่/วัน เด็กต้องการ 1,200-1,800 กิโลแคลอรี่/วัน ผู้ชายต้องการ 2,000-2,500 กิโลแคลอรี่/วัน ผู้ใช้แรงงานหนัก/ผู้ออกกำลังกายหนักต้องการมากกว่า 3,000 กิโลแคลอรี่/วัน
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้เคล็ดลับจำง่าย 4 ข้อในการกินอย่างสมดุลไว้ดังนี้
1. กินหลากหลาย เพิ่มผักผลไม้ – นอกจากกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว ควรกินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 400 กรัม หรือให้ได้ผักมื้อละ 4-6 ช้อน เพื่อให้ร่างกายได้ใยอาหาร ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
2. กินหวาน มัน เค็ม แต่พอดี – เพราะความหวานจากน้ำตาลเป็นพลังงานที่สูญเปล่า เป็นพลังงานที่ไม่มีเส้นใยอาหาร ไม่มีสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ใดๆ ยิ่งกินน้ำตาลเข้าไปมากเท่าใด ก็ยิ่งไปแย่งโควตาของพลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน และไม่ควรบริโภคโซเดียมเกินวันละ 2,400 มก. หรือเท่ากับน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ เพราะเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ควรกินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร หลีกเลี่ยงของทอด ผัด แกงกะทิ รวมทั้งเลี่ยงการใช้น้ำมันทอดซ้ำ
3. กินเท่าไหร่ ใช้ให้หมด – แน่นอนว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงขนมหวานชิ้นโปรด หรือแกงกะทิแสนอร่อยได้ แค่เพียงออกกำลังกายมากขึ้น เช่น ใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือเดินสะสมให้ได้วันละ 30 นาที ในวันที่รู้ตัวว่าได้แคลอรี่เยอะเกิน
4. อ่านฉลากโภชนาการให้เป็น – อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อทุกครั้ง เพราะจะทำให้รู้ว่าอาหารที่กินนั้น มีคุณค่าและให้สารอาหารอะไรบ้าง ให้พลังงานกี่แคลอรี่ เหมาะกับสุขภาพหรือไม่ เช่น ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักก็ควรเลือกอาหารที่ให้พลังงานน้อยๆ ผู้ที่เป็นเบาหวานก็ควรลดน้ำตาล ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงก็ควรเลี่ยงอาหารเค็ม เพียงเท่านี้ ทุกคนก็จะสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์แถมยังคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปอีกด้วย |
วันที่ 22 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,134 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,739 ครั้ง |
เปิดอ่าน 20,553 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,317 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,339 ครั้ง |
เปิดอ่าน 872 ครั้ง |
|
|