Advertisement
❝ หากคุณไม่เคยดูหนังเรื่องต้องบอกว่า "สุดเชย หลุดโลก ถึงขั้น โลกไม่ให้อภัยเชียวนะ ❞
หนังดังที่โลกไม่ลืม
เรื่อง : ชนิตร ภู่กาญจน์
ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2550
โดย : แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา
วิมานลอย GONE WITH THE WIND
ฉายในปี คศ. 1939
ชื่อเรื่อง GONE WITH THE WIND ( วิมานลอย)
ผู้สร้าง David O.Selznick
ผู้กำกับ Victor Fleming
บทภาพยนตร์ Sidney Howard
ความยาว 238 นาที
ลงทุน 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทำเงิน 200 ล้านเหรียญ สหรัฐ
ผู้แสดง Clark Gable เป็น Rhett Butler,Vivien Leigh เป็น Scarlett O'Hara, Leslie Howard เป็น Ashley Wilker, Olivia de Havilland เป็น Melanie Hamilton
เกียรติยศ รับรางวัลออสการ์ 8 ตัว
สัปดาห์นี้ถึงคิวที่จะพูดถึงหนังดังที่โลกไม่ลืม ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอย่างเรื่อง วิมานลอย หรือ GONE WITH THE WIND เสียที ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้านับถึงความโด่งดังแล้วคงต้องบอกได้ว่า เด่นกว่าทุกๆเรื่องที่ผมเคยนำมาเสนอ แต่ที่ยังไม่นำเสนอในช่วงแรกๆเพราะเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีข้อมูลที่สื่อนำออกเผยแพร่อย่างแพร่หลายอยู่มากแล้ว เชื่อได้ว่า หลายคนคงเคยได้อ่านและได้เห็นจากสื่อต่างๆมาแล้ว จึงดึงๆเอาไว้ไม่อยากให้ออกมาในตอนต้นๆ
เมื่อวันนี้มาถึง คงต้องนำออกมาพูดเสียที เพราะหากไม่พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ คำว่า ภาพยนตร์ที่โลกไม่ลืม คงไม่มีความหมาย
วิมานลอย ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่โด่งดัง แต่เฉพาะในเรื่องที่ได้รับรางวัลออสการ์หลายตัวเท่านั้น แต่ในเรื่องของ รายได้ ก็นับว่า ยอดเยี่ยมที่สุดเหมือนกัน คือ ลงทุน แค่ 3.9 ล้านเหรียญ ฟันมาถึง 200 ล้านเหรียญ ผู้สร้างเป็นเศรษฐีได้ในพริบตา
สำหรับรางวัลที่เขาได้รับมาทั้งหมด 8 ตัวนั้น เขาจัดส่งไปทั้งหมดถึง 13 ตัว พลาดไป 5 ตัว ก็นับว่า ยังอยู่ในข่ายที่ว่า สุดยอด
8 ตัวจากออสการ์ คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม,บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม,แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม( Vivien Leigh),ผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม( Hattie McDaniel แสดงเป็น แม่นมผิวดำ),กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม,ถ่ายภาพยอดเยี่ยม,และ รางวัลตัดต่อยอดเยี่ยม
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าจะบอกว่า ค่อนไปทางนิยายน้ำเน่า เหมือนอย่างละครทีวีไทยในเวลานี้ ก็น่าจะพออนุมานให้เป็นไปได้ แต่ของเขา มีการสอดแทรก ความจริงในชีวิตออกมาให้เห็นถึงผลกระทบของสงครามกลางเมืองในอเมริการะหว่างคนทางเหนือ และคนทางใต้ ที่ทำให้ วิถีชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมันเป็นความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในอเมริกันชนทุกวันนี้ ทำให้ น้ำเน่าจาก นิยายรักของนางเอกพอที่จะลบล้างความเน่าออกไปได้บ้าง
ด้วยเหตุนี้เอง ฉากเด่นๆของภาพยนตร์เรื่องที่เป็นที่ประทับใจไม่ลืมของคนอเมริกันคือ ฉากของสงครามกลางเมือง ที่นักวิจารณ์ในอเมริกัน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ได้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมคงจะด้วยประเด็นนี้นี่เอง
ด้วยผลจากสงครามดังกล่าวนี้เอง ทำให้ ความรักที่แสนจะเป็นน้ำเน่าของ ตัวนางเอก ต้อง พบกับความไม่สมหวัง และทำให้วิถีชีวิตของเธอผันผวนแปรเปลี่ยนไปอย่างชนิดที่ "แทบไม่น่าเชื่อ" แทนที่ นางเอกกับพระเอกจะได้เสียเป็นเมียผัวกัน นางเอกกลับต้องไปแต่งงานกับคนอื่นๆ(โนเนม)ถึงสองครั้งเพื่อให้ชีวิตของตัวเองอยู่รอด และพบกับสิ่งที่ต้องการ กว่าจะมาแต่งกับพระเอกในครั้งที่สาม ความรักก็ดูเหมือนว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เกิดขึ้นจนได้ และ ตรงจุดนี้แหละคือ ประเด็นของเรื่องที่บอกว่า GONE WITH THE WIND หายไปกับสายลม หรือ กลายเป็น วิมานลอยนั่นแหละ
จุดจบของเรื่องที่ จะต้องกลายเป็น วิมานลอย คนที่นั่งดูคงจะต้องลุ้นกันตัวโก่งตัวงอว่า ความผิดหวังมันเกิดขึ้นเพราะอะไร
ถ้าเป็นนักนิยมดูความรักน้ำเน่าที่ชอบมีอยู่ในปัจจุบัน คงจะต้องนั่งเดาเอาไว้ในใจว่า "รับรองได้ว่าตอนจบพระเอกต้องตาย หรือ ไม่ก็ นางเอกต้องตายมันถึงจะเป็นวิมาน(หลุด)ลอย แต่ ฝรั่งเขาไม่ทำให้เน่าแบบ "หาทางออกที่ดีไม่ได้"แบบนั้น แต่เขาแทรกเอาความเป็นจริงของชีวิต และ ความรู้สึกของความเป็นคนใส่เข้าไปในสภาพของความเป็นจริง แทนที่พระเอกนางเอกที่รักกันปานจะกลืนจะต้องตายจากกันทั้งคู่กับกลับเดินแยกทางกันไปอย่างปกติสุข
คนดูที่ดูแล้วสงสารนางเอกจับใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ก็อาจจะคิด หรือ ให้เพื่อนหนุ่มปลอบใจได้ว่า อย่าเสียใจไปเลย วันหนึ่ง เขาและเธอก็จะต้องกลับมาอยู่ด้วยกันแน่ๆ เพราะทั้งคู่มีความรักเป็นโว่ทองคล้องใจเอาไว้ ก็น่าจะทำให้คนคิดไปเช่นนั้นเพื่อความสบายใจได้ เพราะไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าไรนัก
แต่ถ้าใครจะบอกว่า ทั้งคู่ต้องแยกกันไปเลย ไม่มีวันมาพบกน จะคิดให้ ซาดิสต์แบบนี้ก็คงไม่มีใครว่า สรุปแล้ว เนื้อหาของหนังเรื่องจบ จบลงด้วย สภาพของชีวิตจริงที่คุณเองย่อมไม่รู้ว่า หนทางข้างหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้น แบบคำพูดในประโยคหนึ่งที่มีอยู่ในหนังเรื่องนี้หลายตอนที่ว่า
Tomorrow is another day
GONE WITH THE WIND เป็นหนังที่มีการซื้อลิขสิทธิ์ออกมาเผยแพร่อย่างถูกต้องตามกฎหมายจึงไม่น่าแปลกที่ ในตลาดหนังแผ่นเมืองไทย จะมีภาพยนตร์เรื่องนี้วางขายแบบชนิดที่ต้องบอกว่า ซื้อหาได้ง่ายๆ แถมราคาถูกทั้งประเภทที่เป็น วีซีดี(ภาคไทย) และ ดีวีดี มีทั้งภาคไทยและเสียงในฟิล์ม
รักจะเป็นคนชอบหนัง ต้องบอกว่า หากคุณไม่เคยดูหนังเรื่องต้องบอกว่า "สุดเชย หลุดโลก ถึงขั้น โลกไม่ให้อภัยเชียวนะคุณ"
ชนิตร ภู่กาญจน์ |
|
|
|
วันที่ 18 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,409 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,150 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 16,465 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,261 ครั้ง |
เปิดอ่าน 24,116 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,718 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,025 ครั้ง |
|
|