Advertisement
การเลือกซื้อกล้องดิจิตอล
กล้อง Digital มีลักษณะ หน้าตาเหมือนกับกล้องถ่ายรูปทั่ว ๆ ไป ที่สิ่งหนึ่งที่ดีคือ ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิล์ม รูปแบบการเก็บภาพนั้น มีหลายรูปแบบ เช่น เก็บใน Disk 3.5", Zip Disk หรือ การ์ดหน่วยความจำ (ราคาค่อนข้างแพง) สำหรับการเลือกซื้อก็คงต้องดูลักษณะงานที่จะนำไปใช้สำหรับข้อมูลเบื้องต้นที่น่าศึกษามีดังนี้
- ความละเอียดของภาพที่ได้
หน่วยที่เราเรียกคือ ฟิกเซล (Pixel) ซึ่งคือความละเอียดสูงสุดของภาพที่สามารถถ่ายได้ จำนวนฟิกเซลนี้จะอยู่บนเซนเซอร์หรือที่เรียกว่า Charge-Couple Device(CCD)ซึ่งทำหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของภาพถ่ายความละเอียดที่ได้ของภาพถ่ายอาจไม่เท่ากับความละเอียดของ CCD ดังนั้นควรตวจสอบค่าทั้งสองให้ดีเสียก่อน
- การบีบอัดข้อมูล
หลักง่าย ๆ ในการตรวจสอบคือ ยิ่งมีการบีดอัดข้อมูลมากเท่าใด คุณภาพของภาพก็จะด้อยลงไปมากเท่านั้น
- หน่วยความจำ
หลายรุ่นจะเก็บใน การ์ดหน่วยความจำที่เรียกว่า SmartMedia หรือ CompactFlash ซึ่งการ์ด แต่ละรุ่นก็สามารถเก็บความจุได้ต่างกัน บางรุ่นเก็บใน Disk 3.5" แล้วแต่ความชอบ ความสะดวกที่ต้องการ เนื่องจากราคาจะแตกต่างกันมาก
- ระบบการซูมภาพและเลนส์
การซูมภาพมี 2 ประเภท คือ ซูมด้วยเลนส์ (เหมือนกล้องทั่วไป) และแบบระบบดิจิตอล (ใช้วิธีคำนวณแล้วเก็บข้อมูลไว้)ระบบซูมด้วยเลนส์จะดีกว่า แต่ราคาก็จะแพงกว่าด้วย ส่วนเรื่องของเลนส์ควรเป็นเลนส์ที่ทำจากแก้ว ไม่ใช่พลาสติก
- จอ LCD
บางรุ่นก็มีจอ LCD ช่วยให้สะดวกเวลาถ่าย แถมมักจะสามารถดูข้อมูลภายใน ทันทีได้ด้วย หลังจากถ่ายเสร็จแล้ว
- เทคโนโลยีใหม่ Pictbridge
เป็นเทคโลยีที่ช่วยให้สามารถพิมพ์พิมพ์ภาพจากล้องดิจิตอล ไปยังเครื่องพิมพ์ได้โดยตรง โดยการความสามารถในการปรับแต่งค่าสี ความสว่างของภาพอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ความเร็ว (Burst mode) และ ความสามารถพิเศษ กล้องที่ดีควรสามารถถ่ายภาพได้ในความเร็ว 2 ภาพต่อวินาทีเป็นอย่างต่ำ, สำหรับ เรื่องความสามารถพิเศษ ได้แก่ทำภาพขาวดำ ซีเปีย บันทึกเสียงได้ รวมทั้งบันทึก ภาพวีดีโอได้ด้วย (แค่เป็นวีดีโอคลิปสั้นๆ)
- แบตเตอรรี่
บางรุ่นสามารถใช้ถ่าย AA ได้แต่อย่าลืม กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะค่อนข้าง กินไฟมาก และโดยเฉพาะกล้องที่มีจอ LCD ดังนั้น ควรระวังเรื่องการใช้งาน
- อุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่, สายเคเบิลในการโอนย้ายข้อมูลจากกล้องผ่านทาง พอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์, รีโมทคอนโทรล
เทคนิคการถ่ายภาพ/การถ่ายภาพย้อนแสง
จาก Wikibooks
การถ่ายภาพย้อนแสง (Silhouette) จะไม่เห็นรายละเอียดของวัตถุ ควรถ่ายในช่วงเช้า หรือช่วงเย็น แสงแดดเริ่มอ่อน อย่าวัดแสงกับดวงอาทิตย์ตรง ๆ ควรวัดแสงที่ท้องฟ้า เฉียง 45 องศา กับดวงอาทิตย์ และลดรูรับแสงให้แคบลง 2-4 Stop หรือถ้าเป็นเวลาเย็นมาก สามารถมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าได้ ก็วัดแสงที่ดวงอาทิตย์ได้เลย การถ่ายภาพประเภทนี้ต้องระวังเรื่องฉากหน้าและฉากหลังด้วย เพราะจะทำให้รบกวนภาพทำให้ภาพดูรกตา
เทคนิคการถ่ายภาพ/การถ่ายภาพเน้นระยะชัด
จาก Wikibooks
การถ่ายภาพเพื่อเน้นระยะชัด (Depth of field) ผู้ถ่ายภาพควรต้องทำความเข้าใจในการกำหนดค่าของรูรับแสงของเลนส์ เพื่อให้ได้ภาพตามต้องการ ค่าของรูรับแสง จะมีตั้งแต่กว้างสุด คือ 1.2, 4, 5.6, 8, 11, 16 และ 22 ค่าตัวเลขยิ่งน้อยรูรับแสงยิ่งกว้าง ระยะชัด ของภาพจะสั้นลง หรือที่เรียกว่า ชัดตื้น ค่าของตัวเลขยิ่งมาก รูรับแสงจะแคบลง ยิ่งแคบมากเท่าใดก็ยิ่งทำให้ภาพ เกิด ระยะชัดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เทคนิคการถ่ายภาพ/การจัดแสงสำหรับการถ่ายภาพ
จาก Wikibooks
เทคนิคในการจัดแสงสำหรับการถ่ายภาพจะมี 3 ทิศทาง คือ แสงด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
- แสงด้านหลัง
- โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่จะไม่นิยม ถ่ายภาพย้อนแสง เพราะกลัวแสงเข้ากล้อง หน้าดำ หรือหน้ามืด จริง ๆ แล้ว การถ่ายภาพย้อนแสง จัดว่าเป็นารถ่ายภาพที่สวยงามมีมิติมากที่สุด เพราะสามารถจะเห็นรูปร่าง ของแบบ โดยเฉพาะการถ่ายภาพของบุคคลจะมีความสำคัญมาก เพราะสามารถให้เห็น ลิมพ์ไลฟ์ของเส้นผม ซึ่งทำให้ภาพดูนิ่มนวล ส่วนการแก้ปัญหาความเข้มหรือความมืดที่ใชหน้า ด้วยการใช้รีแฟกซ์ สะท้อนแสง ลบเงา หรือตบแฟชศ์อ่อน ๆ
- แสงด้านข้าง
- จัดว่าเป็นหัวใจรอง ในการสร้างภาพที่สวยงามการใช้แสงด้านข้าง ส่วนมากจะเป็นการเน้น จุดใดจุดหนึ่งหรือเพียงด้านเดียว การใช้แสงด้านข้าง ยังสามารถบอกมิติสัดส่วนของรูปร่างได้ แสงด้านข้างที่นิยมใช้ในการบันทึกภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพบุคคล ในการถ่ายแบบ หรือการถ่ายสถาปัตยกรรมก็ได้
- แสงด้านหน้า
- สำหรับผู้ที่ถ่ายภาพแบบมืออาชีพ หรือผู้ที่มีความเข้าใจในการสร้างภาพสวย จะไม่นิยมถ่ายบันทึกภาพกัน เพราะจะทำให้ภาพดูแบน ไร้มิติ สีสันในองค์ประกอบจะจืด เพราะโดนความจ้าของแสงด้านหน้า บดบังทำให้สีหรือใบหน้า ดูจืดชืดไม่สะดุดตา
ดังนั้น การจัดทิศทางแสงในการถ่ายภาพ จึงมีความสำคัญไม่น้อย และจะขาดเสียไม่ได้ แสงในการถ่ายภาพเราะจนิยมถ่ายในช่วงเวลา เช้า หรือแดดอ่อน ๆ ที่ดวงอาทิตย์ทำมุมประมาณ 30 - 40 องศา นั่นคือ พื้นฐานในการนำทิศทางแสงมาช่วยปรุงแต่ง เพิ่มเติมความสวยงามในภาพ เป็นเรื่องที่สำคัญอีกขั้นหนึ่ง
วันที่ 14 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,206 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,195 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,178 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,172 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,823 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,588 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,046 ครั้ง |
เปิดอ่าน 29,244 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,748 ครั้ง |
|
|