วันนี้ (5 กันยายน 2560) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีวาระเกี่ยวกับร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... โดยคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ มีรายละเอียด ดังนี้
ร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างกฎ ก.ค.ศ.
1. กำหนดให้ยกเลิกกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550
2. กำหนดวงเงินงบประมาณและการบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการมีดังนี้
2.1 กำหนดให้ส่วนราชการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในสังกัด ครั้งที่ 1 (1 เมษายน) และครั้งที่ 2 (1 ตุลาคม) ภายในวงเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนที่จ่ายให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ วันที่ 1 มีนาคม และ 1 กันยายน ตามลำดับ
2.2 กำหนดให้ส่วนราชการบริหารวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนในภาพรวมของส่วนราชการหรือเขตพื้นที่การศึกษา
3. กำหนดการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เลื่อนตามผลงาน คือ ผู้ได้รับเงินเดือนในอัตราเดียวกัน มีผลงานเท่ากัน ควรได้รับเงินเดือนเป็นมูลค่าที่เท่ากัน และผู้ได้รับเงินเดือนใน ต่างอันดับกัน หรือมีผลงานต่างกัน ควรได้รับการเลื่อนเงินเดือนเป็นมูลค่าที่ต่างกัน
4. กำหนดกรอบวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนรายบุคคลไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานในการคำนวณและช่วงเงินเดือนสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละอันดับของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และยกเลิกโควตา 2 ขั้น ร้อยละ 15 ของจำนวนคน
5. กำหนดให้ส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเลื่อนเงินเดือนในอัตราร้อยละที่แตกต่างกันตามคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงาน ภายในกรอบวงเงินรวมร้อยละ 3 และกรอบวงเงินรายบุคคลร้อยละ 6 ในแต่ละรอบการประเมิน โดยจะใช้วิธีการเฉลี่ยให้ข้าราชการแต่ละคนได้รับการเลื่อนเงินเดือนในอัตราที่เท่ากันไม่ได้
6. กำหนดการจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน ดังนี้
6.1 กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนเป็นร้อยละของฐานในการคำนวณที่กำหนดไว้ตามช่วงเงินเดือนในแต่ละอันดับเงินเดือน
6.2 กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนข้าราชการแต่ละคนเป็นร้อยละเท่าใดจะต้องสอดคล้องกับคะแนนผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการผู้นั้น
6.3 กำหนดให้ผู้ใดได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับเงินเดือนที่ดำรงอยู่ให้ผู้นั้นได้รับค่าตอบแทนพิเศษ โดยเงินค่าตอบแทนพิเศษคิดเป็นร้อยละของฐานในการคำนวณที่กำหนดไว้ตามช่วงเงินเดือนและ ไม่นำมารวมเป็นเงินเดือนพื้นฐาน
7. ให้ยกเลิกหลักการรอการเลื่อนขั้นเงินเดือน กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกฟ้องคดีอาญาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการและศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว หรือถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัย อย่างร้ายแรง
8. กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกรณีอื่นๆ ดังนี้
8.1 กำหนดให้ผู้จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนต้องมีเวลาปฏิบัติราชการไม่น้อยกว่า 4 เดือน ในแต่ละรอบการประเมิน
8.2 กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ หรือได้รับอนุญาตให้ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ เนื่องจากราชการเป็นเหตุเมื่อผู้นั้นกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้สั่งเลื่อนเงินเดือนได้ไม่เกินร้อยละสามของฐานเงินเดือนข้าราชการผู้นั้น ในแต่ละรอบการประเมิน
8.3 กรณีข้าราชการเสียชีวิตในระหว่างรอบการประเมิน และปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 4 เดือน ให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามผลการปฏิบัติงาน
ที่มา สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 5 กันยายน 2560