ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

แนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน


ข่าวการศึกษา 10 ส.ค. 2558 เวลา 10:26 น. เปิดอ่าน : 7,565 ครั้ง
แนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Advertisement

❝ คกก.อำนวยการปฏิรูปการศึกษา เห็นชอบแนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เสนอให้ สพฐ.ออกประกาศให้มีผลใช้บังคับภายในภาคเรียนที่ 2/2558 ❞

ผลการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา 9/2558

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) - พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 9/2558 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2558 ระหว่างเวลา 13.30-17.45 น. ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร โดยมีพลเอก สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุม

 

เห็นชอบแนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นหลักสูตรที่บังคับให้สถานศึกษาทุกขนาดทุกประเภทใช้เหมือนกัน ทั้งจำนวนชั่วโมงในการสอนแต่ละกลุ่มสาระ และบังคับให้ใช้ทุกตัวชี้วัดกับทุกระดับทุกกลุ่มสาระเหมือนกันทุกโรงเรียน โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละโรงเรียน

ที่ประชุมจึงมอบให้คณะอนุกรรมการปฏิรูปการเรียนรู้ ซึ่งมีนางสิริกร มณีรินทร์ เป็นประธานอนุกรรมการฯ ได้จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ครู ศึกษานิเทศก์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ผู้ดูแลหลักสูตร และผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา จาก 4 ภูมิภาคเข้าร่วมประชุม ซึ่งได้ข้อสรุปถึงแนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรดังกล่าว แล้วนำมาเสนอให้ที่ประชุมครั้งนี้ได้พิจารณา

ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบแนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรดังกล่าวใน 2 ประเด็น คือ

1) การผ่อนคลายจำนวนชั่วโมงที่สอนในแต่ละกลุ่มสาระ/แต่ละชั้นปี

ควรให้สถานศึกษากำหนดจำนวนชั่วโมงเองตามสภาพปัญหาและบริบทของตน แต่ต้องมีจำนวนชั่วโมงรวมครบถ้วนและจำนวนวันที่จัดการเรียนการสอนครบ 200 วันต่อปีการศึกษา

ทั้งนี้ การผ่อนคลายจำนวนชั่วโมงสอนดังกล่าว ในทางปฏิบัติมีความเป็นไปได้ เพราะจำนวนชั่วโมงที่กำหนดไว้ในหลักสูตร สามารถนับชั่วโมงได้จากทั้งใน/นอกห้องเรียน และการยืดหยุ่นของจำนวนชั่วโมงที่สอนในแต่ละสาระนั้น ถือว่าเอื้อประโยชน์ให้กับสถานศึกษาในการปรับเปลี่ยนเวลาให้สาระต่างๆ ตามปัญหาหรือจุดเน้นของแต่ละโรงเรียนได้

ข้อดีของการผ่อนคลาย คือ ครูสามารถคิดรูปแบบการเรียนการสอนใหม่ๆ และหลากหลายมากขึ้น ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้เรียน และตรงกับจุดเน้นของสถานศึกษา ผู้ปกครอง รวมทั้งความต้องการของชุมชน ตลอดจนส่งผลให้เกิดเป็นชุมชนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาวิชาชีพครู เพราะครูจะได้มาทำงานวิชาการร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันมากขึ้น

2) การผ่อนคลายการวัดผลทุกตัวชี้วัด

โดยให้นำตัวชี้วัดออกให้หมดไปไว้ในภาคผนวก ไม่บังคับใช้ และให้นำเกณฑ์การวัดผลและประเมินผลผู้เรียนข้อ 2 "ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนด" ออกไป ทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพราะในโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูไม่ครบชั้น ครูไม่เพียงพอ หรือโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนให้ครบทุกตัวชี้วัดได้

ดังนั้น ข้อดีของการผ่อนคลายการวัดผลทุกตัวชี้วัด ก็จะเอื้อให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถบูรณาการวิชาการต่างๆ ได้ ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ก็สามารถมีจุดเน้นในสาระวิชาสำคัญๆ ของโรงเรียนได้ ทั้งยังจะช่วยให้ครูคิดรูปแบบใหม่ๆ ในการสอนโดยไม่ยึดติดกับตัวชี้วัดหรือวิธีการนับเวลาเรียนตามแบบเดิม ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสให้ครูสามารถสอนแบบบูรณาการได้อย่างเต็มที่ เพราะจะไม่เกิดความยุ่งยากในการจัดทำเอกสารเพื่อการวัดผลตามตัวชี้วัดแบบเดิมๆ อีกต่อไป

นอกจากนี้ การมีตัวชี้วัดหลักๆ ที่เหมือนกันทั่วประเทศ เป็นตัวชี้วัดที่มีลำดับขั้นของเกณฑ์ขั้นต่ำที่นักเรียนแต่ละคนควรมีในแต่ละสาขาวิชาและตามจุดเน้นของแต่ละสถานศึกษา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ครูสามารถสอนแบบบูรณาการได้

ทั้งนี้ ที่ประชุมขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นำข้อสรุปและแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาออกประกาศ เรื่อง การผ่อนคลายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้มีผลใช้บังคับภายในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 รวมทั้งให้ สพฐ.จัดเตรียมแนวทางการปฏิบัติไปสู่สถานศึกษา ทั้งในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาต่อไปด้วย

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมสถานศึกษานิติบุคคลในกำกับ

ที่ประชุมได้พิจารณาหารือร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมสถานศึกษานิติบุคคลในกำกับ พ.ศ. .... ตามที่คณะอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายการศึกษาได้เสนอ โดยมีหลักการเพื่อให้เป็นกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมให้สถานศึกษาของรัฐและเอกชนที่จัดการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญา มีความเป็นอิสระและมีความคล่องตัว สามารถบริหารจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ได้หารือถึงแนวทางการดำเนินการ 2 รูปแบบที่สำคัญ คือ ควรดำเนินการในรูปแบบโรงเรียนที่เป็นนิติบุคคลแบบเดียวกับที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ หรือรูปแบบการเป็นสถานศึกษาที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ ตามที่เสนอ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ จึงขอให้คณะอนุกรรมการฯ นำความเห็นจากที่ประชุมไปพิจารณาปรับปรุงให้เกิดความรอบคอบและถี่ถ้วน รวมทั้งให้เชิญผู้ที่ศึกษาวิจัยในเรื่องนี้มาหารือถึงแนวทางรูปแบบของการเป็นสถานศึกษานิติบุคคลที่เหมาะสมว่า ควรเลือกใช้รูปแบบใดหรือควรพิจารณาดำเนินการทั้ง 2 รูปแบบ

แต่สิ่งสำคัญคือ ควรจะต้องคำนึงถึงความสมัครใจและความพร้อมของแต่ละสถานศึกษา รวมทั้งนำปัญหาการเป็นนิติบุคคลของสถาบันอุดมศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ซึ่งรัฐมนตรีหรือหน่วยงานส่วนกลางไม่มีอำนาจเข้าไปกำกับดูแล ต่างไปจากรูปแบบของรัฐวิสาหกิจที่แม้จะเป็นนิติบุคคล แต่ก็ยังมีเจ้าของเข้ามากำกับดูแล เป็นต้น

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า เมื่อกล่าวถึงการกระจายอำนาจ จะมองไปที่การบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความอิสระและความคล่องตัวของสถานศึกษาเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่คนมักไม่ค่อยพูดถึงคือ เมื่อกระจายอำนาจไปแล้ว เกิดผลดีต่อวิชาการหรือคุณภาพการเรียนการสอนมากขึ้นได้อย่างไร จึงให้คณะอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายการศึกษา นำความเห็นหลากหลายจากที่ประชุมไปปรับปรุงแก้ไข และให้นำเสนอที่ประชุมพิจารณาครั้งต่อไป

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ

ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ พ.ศ. .... ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายการศึกษา ที่ได้มีการหารือร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษา สภาปฏิรูปการศึกษา

แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรจะต้องมีการปรับแก้ในรายละเอียดอยู่บ้าง เช่น ประเด็นการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมการเฉพาะเรื่อง ประเด็นอำนาจหน้าที่หลักของคณะกรรมการและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่งชาติ ประเด็นสำนักงานฯ ควรเป็นส่วนราชการ ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ฯลฯ

ทั้งนี้ ให้คณะอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายการศึกษา นำความเห็นจากที่ประชุมไปปรับปรุงแก้ไข และนำเสนอที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบครั้งต่อไป 

 

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ


แนวทางการผ่อนคลายหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ด่วน! สพฐ.ประกาศสอบบรรจุ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2567 รอบทั่วไป

ด่วน! สพฐ.ประกาศสอบบรรจุ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2567 รอบทั่วไป

เปิดอ่าน 3,964 ☕ 18 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
เปิดอ่าน 2,555 ☕ 26 เม.ย. 2567

รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 530 ☕ 26 เม.ย. 2567

สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
เปิดอ่าน 1,252 ☕ 25 เม.ย. 2567

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
เปิดอ่าน 643 ☕ 25 เม.ย. 2567

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
เปิดอ่าน 1,208 ☕ 25 เม.ย. 2567

แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
เปิดอ่าน 1,073 ☕ 25 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ
เปิดอ่าน 12,254 ครั้ง

อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
เปิดอ่าน 9,904 ครั้ง

อิทธิพลของดวงจันทร์
อิทธิพลของดวงจันทร์
เปิดอ่าน 1,943 ครั้ง

เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เปิดอ่าน 9,428 ครั้ง

ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 15,559 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ