ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 10,408 ครั้ง
Advertisement

หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว

Advertisement

หากคิดว่า หมอนรองกระดูกเสื่อมเป็นโรคที่พบในผู้สูงอายุเท่านั้น แสดงว่าคุณกำลังประมาทกับสุขภาพเกินไป เพราะความเสื่อมของหมอนรองกระดูกมีโอกาสมาเยือนได้เร็วก่อนวัย และก็เป็นไปได้มากเสียด้วย โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ รวมถึงคนที่ชอบกิจกรรมประเภทกีฬาโลดโผนสุดโต่งทั้งหลายก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน
ปัญหาที่พบบ่อยจากหมอนรองกระดูกเสื่อม คือโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าอาการปวดที่เป็นอยู่คือสัญญาณของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่ก่อนจะลงรายละเอียดถึงโรค ก็ต้องทำความรู้จักหมอนรองกระดูกเสียก่อน

นพ.พรเอนก ตาดทอง
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ กล่าวว่า กระดูกสันหลังของเราประกอบด้วยกระดูกหลายๆ ชิ้นมาต่อกัน ระหว่างกระดูกเหล่านี้จะมีอวัยวะชนิดหนึ่งคั่นอยู่เราเรียกว่า "หมอนรองกระดูก" เพราะฉะนั้นกระดูกสันหลังมีกี่อัน หมอนรองกระดูกก็มีใกล้เคียงกัน

"หมอนรองกระดูก"
มีชื่อตามตำราว่า Intervertebral disc ถ้าจะจำเพาะลงไปตามตำแหน่งก็เป็นว่า หมอนรองกระดูกคอ เรียกว่า Cervical disc และหมอนรองกระดูกที่เอวเรียกว่า Lumbar disc หมอนรองกระดูกไม่ได้เป็นกระดูก แต่จะประกอบด้วยส่วนใหญ่ๆ 2 ส่วนคือ วงรอบนอกจะเป็นเอ็นแข็งๆ เรียกว่า Anular ligament และใจกลางจะเป็นเหมือนเจลใสๆ เรียกว่า Nucleus pulposus ทั้งหมดมีหน้าที่รับแรกกระแทกและทำให้เราเคลื่อนไหวกระดูกสันหลังได้ดีขึ้น เริ่ม



จากรูปจะเห็นว่า ด้านหลังของหมอนรองกระดูกจะเป็นที่อยู่ของไขสันหลัง และด้านหลังออกมาด้านข้างเล็กน้อยก็จะเป็นทางออกของเส้นประสาทที่จะมาเลี้ยงแขน (ถ้าเป็นตำแหน่งของคอ) และเลี้ยงขา (ถ้าเป็นตำแหน่งของเอว) โดยภาวะปกติกระดูกหลังมักไม่ยื่นไปกดไขสันหลังหรือเส้นประสาทยกเว้นกรณีอุบัติเหตุที่กระดูกสันหลังหัก หรือในภาวะที่กระดูกสันหลังเสื่อมมากๆ จนผิดรูปไปกดเอาไขสันหลังหรือเส้นประสาทได้

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างไร
จากภาพจะเห็นได้ว่า หมอนรองกระดูกสันหลังกับเส้นประสาทอยู่ไม่ห่างกันเลย เมื่อไรก็ตามที่หมอนรองกระดูกยื่นออกมาทางด้านหลังเยื้องไปด้านข้างสักนิด ก็จะไปกดทับเส้นประสาทได้ ยิ่งถ้ามีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลัง จะยิ่งทำให้หมอนรองกระดูกยื่นออกมามากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้แกนภายในของหมอนรองกระดูกยื่นออกมาทับเส้นประสาทเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การที่ร่างกายมีขอบของหมอนรองกระดูกไม่เท่ากันมาแต่กำเนิด หรือจากอุบัติเหตุ เช่น การล้มก้นกระแทกพื้น หรือการที่เราอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานมากจนเกิดการอักเสบ มีการหดเกร็งจนแรงไปกระทำให้หมอนรองกระดูกยื่นออกมามากจนกดทับเส้นประสาท

อาการของโรค
อาการปวดหลังร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง เป็นอาการเด่นของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดมากหรือปวดน้อยขึ้นอยู่กับว่าเส้นประสาทถูกกดมากหรือน้อยเป็นสำคัญ ถ้าทิ้งไว้นานเส้นประสาทจะทำงานได้น้อยลง อาการชาและอ่อนแรงของขาซีกนั้นจะเริ่มเด่นชัดขั้น อาการทั้งหมดจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น คนที่เป็นจะคุ้นเคยกับอาการและบอกรายละเอียดของอาการได้เป็นอย่างดี

มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง
การรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีหลายวิธี  ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกดทับเส้นประสาท โดยจะมีการแบ่งลักษณะของหมอนรองกระดูกออกเป็นระยะๆ ทั้งนี้เนื่องจากการรักษาในแต่ละระยะแตกต่างกัน
1. ระยะ Protusion ผนังของหมอนรองกระดูกจะยังไม่เสียความยืดหยุ่นไปมากนัก การรักษาด้วยยา กายภาพบำบัด ตลอดจนการรู้จักวิธีเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังเพื่อป้องกันไม่ให้มีการอักเสบ จะสามารถช่วยให้อาการของโรคไม่กำเริบและหายได้ในที่สุด
2. ระยะ Prolapse ในระยะนี้ผนังของหมอนรองกระดูกเริ่มเสียความยืดหยุ่นไปแล้วแต่ยังไม่ถึงกับแตกจนส่วนแกนในไหลออกมา การรักษาโดยการผ่าตัดน่าจะได้ผลดีที่สุด
3. ระยะ Extrusion ผ่าตัดแน่นอนครับ
4. ระยะ Sequestration ระยะนี้ก็ต้องผ่าตัดเหมือนกันครับ
จะเห็นได้ว่า ทั้งสี่ระยะโอกาสที่จะไม่ต้องผ่าตัดมีเพียงระยะแรกเท่านั้น การผ่าตัดกระดูกสันหลังเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่พึงปรารถนา แม้ว่าปัจจุบันอันตรายจะน้อยลงกว่าสมัยก่อนมากก็ตาม

ปัจจุบันมีวิธีรักษาแบบใหม่โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดใหญ่ เรียกว่า Nucleoplasty หรือ การจี้ด้วยคลื่นความร้อน เทคนิคในการทำ Nucleoplasty คือจะใช้การฉีดยาเฉพาะที่บริเวณที่จะใช้เข็มเจาะ โดยมีเครื่องเอ็กซเรย์ช่วยในการมองภาพหมอนรองกระดูกสันหลัง เข็มที่เจาะลงไปจะมีแกนในซึ่งเป็นหัวจี้ ปล่อยคลื่นความร้อนออกมาจี้ที่หมอนรองกระดูกสันหลัง มีผลให้ความดันในหมอนรองกระดูกลดลง ทำให้เกิดการดึงหมอนรองกระดูกที่ยื่นอยู่ให้กลับเข้ามา เส้นประสาทที่กระดูกกดทับอยู่ก็ฟื้นสภาพได้ ผลข้างเคียง อาจมีอาการระบมจากการเจาะเข็มบ้างเล็กน้อย วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดร้าวลงขาเป็นๆ หายๆ และไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัด


ประโยชน์จากการรักษาด้วยวิธี Nucleoplasty

แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็วไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หลังผ่าตัดอาจต้องพัก 1-2 ชั่วโมง และสามารถกลับบ้านได้ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ การใช้วิธีนี้ยังสามารถลดการอักเสบภายในหมอนรองกระดูกได้ด้วย มีผลให้อาการปวดหลังและปวดขาลดลง

การป้องกันไม่ให้โรคเลื่อนจากระยะแรก นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทำได้ดังนี้

  • พบแพทย์ทันทีที่มีอาการปวดหลังแล้วร้าวลงขา
  • ให้ความสำคัญกับการปวดหลังทุกครั้ง อย่าลืมว่าคนปกติไม่ปวดหลังนะครับ หาสาเหตุทุกครั้งที่มีอาการปวดหลัง หาเองไม่พบก็ไปพบแพทย์
  • พึงระลึกไว้เสมอว่า การทานยารักษาอาการปวดหลังเป็นการรักษาปลายเหตุ การรักษาคือต้องแก้ที่สาเหตุ และสาเหตุของอาการปวดหลังที่พบบ่อยที่สุดคือ การอยู่ในท่าต่างๆ ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
  • Warm ร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง ทำ Stretching Exercise ของกล้ามเนื้อหลังทุกครั้งก่อนออกรอบ
  • การนวดจะดีสำหรับอาการเมื่อยและไม่ดีสำหรับอาการปวด ถ้าท่านไม่แน่ใจว่าที่เป็นอยู่เป็นอาการปวด หรือเมื่อย ก็ไม่ควรไปนวด เพราะจะทำให้อาการแย่ลงในกรณีที่ไปเจอหมอนวดประเภทมือใหม่ไฟแรง…

ข้อมูลจากโรงพยาบาลเวชธานี

www.vejthani.com


หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วหนุ่มสาวออฟฟิศระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

นอนหลับท่าไหนดีที่สุด

นอนหลับท่าไหนดีที่สุด


เปิดอ่าน 14,797 ครั้ง
ประโยชน์ของโหระพา

ประโยชน์ของโหระพา


เปิดอ่าน 2,095 ครั้ง
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค

สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค


เปิดอ่าน 17,378 ครั้ง
ตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน

ตารางสีเสื้อผ้าประจำวัน


เปิดอ่าน 22,391 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 8,214 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
เปิดอ่าน 20,889 ☕ คลิกอ่านเลย

งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
เปิดอ่าน 75,744 ☕ คลิกอ่านเลย

กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
เปิดอ่าน 17,515 ☕ คลิกอ่านเลย

4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
เปิดอ่าน 41,628 ☕ คลิกอ่านเลย

"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน
เปิดอ่าน 20,228 ☕ คลิกอ่านเลย

ใช้คณิตศาสตร์ ศึกษาภาพฝาผนัง
ใช้คณิตศาสตร์ ศึกษาภาพฝาผนัง
เปิดอ่าน 11,372 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
เปิดอ่าน 43,732 ครั้ง

รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
เปิดอ่าน 31,671 ครั้ง

สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite
เปิดอ่าน 17,826 ครั้ง

รู้ไหมว่า..น้ำพริกตาแดง...ต้านมะเร็งได้
รู้ไหมว่า..น้ำพริกตาแดง...ต้านมะเร็งได้
เปิดอ่าน 16,287 ครั้ง

 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
เปิดอ่าน 11,003 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ