ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปัญหาการศึกษาไทย ....แก้ไขง่าย ใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ) โดย รัชชัยย์ ศรสุวรรณ


บทความการศึกษา 1 ธ.ค. 2567 (12:06 น.) เปิดอ่าน : 674 ครั้ง
Advertisement

ปัญหาการศึกษาไทย ....แก้ไขง่าย ใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ) โดย รัชชัยย์ ศรสุวรรณ

Advertisement

ผมได้อ่านข้อเสนอแนะของนักวิชาการที่เสนอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อยู่ใต้บังคับบัญชาของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด แล้วเห็นว่า…..

“คันที่ก้น แต่ไปเกาที่คอ แล้วจะหายคันเหรอครับ”

ปัญหาการศึกษาไทย ….แก้ไขง่าย ใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ)

โดย รัชชัยย์ ศรสุวรรณ
นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………….

“ในอดีต เมื่อครั้งผมเป็นนักเรียน”
“ระดับโรงเรียน” เมื่อครั้งที่คนรุ่นผมเป็นนักเรียน สิ่งที่พวกผมกลัวมากที่สุดคือ “การสอบตก” เพราะการสอบตกย่อมหมายถึงต้องเรียนซ้ำชั้น ไม่มีโอกาสที่จะสอบแก้ตัวหรือสอบซ่อมรายวิชาใดมีนักเรียนสอบตกมาก คุณครูก็จะถูกผู้อำนวยการหรืออาจารย์ใหญ่ เพ่งเล็ง และซักถาม คุณครูก็จะนิ่งไม่ได้ จะทุ่มเทจัดการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ พ่อแม่ ผู้ปกครองก็จะใส่ใจลูกๆมาก เพราะการสอบตก เรียนซ้ำชั้น ส่งผล กระทบต่อเศรษฐกิจในครอบครัว และหน้าตาทางสังคม

“ระดับจังหวัด” นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะถูกประเมินโดยการใช้ข้อสอบกลาง และ ข้อสอบถูกตรวจโดยส่วนกลาง หากพบว่านักเรียนสอบตก หรือไม่ผ่านในรายวิชาสามัญ เป็นจำนวนมาก ย่อมถูกผู้มีอำนาจประเมินคุณภาพผู้บริหารว่า ไร้คุณภาพ การแต่งตั้งโยกย้ายไปอยู่โรงเรียนที่มีปริมาณนักเรียนสูงขึ้น ก็จะถูกเพ่งเล็งว่าสมควรหรือไม่ การพิจารณาความดีความชอบก็จะมีความสัมพันธ์กับคุณภาพการจัดการศึกษา ผู้มีอำนาจในยุคนั้นถ้าเป็นระดับประถมศึกษา ก็เป็น สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัด ถ้าเป็นระดับมัธยมก็เป็นสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัด

“ระดับประเทศ” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.6) ในยุคปัจจุบัน จะต้องสอบโดยใช้ข้อสอบของประเทศเท่านั้น ไม่มีคะแนนเก็บ ได้เป็นได้ ตกเป็นตก ต้องเรียนซ้ำชั้นสถานเดียว นักเรียนในยุคนั้นมีคุณภาพมาก เพราะต้องใส่ใจ ใครมีทักษะทางอาชีพก็จะไปเรียนสายอาชีพตั้งแต่จบชั้น ม.ศ.3

คุณภาพการศึกษายุคนั้นเทียบชั้นระดับโลกได้ การสอบเเข่งขันวิชาคณิตศาตร์ นักเรียนไทย ชนะนักเรียนของอเมริกา ประเทศเกาหลีเคยมาดูงานทั้งด้านการศึกษาไทย การเศรษฐกิจ และด้านการอาชีพ (โครงการ สะมะเอิน จูดอง….ถ้าจำไม่ผิด)

“ในอดีต เมื่อครั้งผมเป็นครูและเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน”
การจัดการศึกษาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มีการจัดการศึกษาภายใต้การบริหารจัดการโดยเขตพื้นที่การศึกษา มีการยกเลิกข้อสอบกลาง ทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 คุณภาพการศึกษาขึ้นอยู่กับความใส่ใจของครูและผู้อำนวยการโรงเรียน แต่การศึกษาก็ยังพอไปได้ นักเรียนยังคงมีระเบียบวินัยเข้มข้น เมื่อหนีเรียนก็ไม่มีสิทธิสอบ ต้องเรียนซ้ำช่วงปิดเทอม ครูก็หน่ายที่จะสอนตอนปิดเทอมเพราะไม่ได้พักไม่ได้ค่าตอบแทน ก็เขี่ยๆให้ผ่าน คุณภาพก็ด้อยลงบ้าง การเลื่อนระดับจากอาจารย์ 1 ซี 3 (ครูบรรจุใหม่ จบปริญญาตรี) เป็นอาจารย์ 2 ซี 7-8 ไม่ยุ่งยากมากนัก เขียนผลงานไม่มากนัก ก็ได้เป็น

“ปัจจุบันหลังผมเกษียณอายุราชการ”
เป็นยุคล้มเหลวและสิ้นหวังของการศึกษาไทย เพราะกระทรวงศึกษาธิการเอาผลการเรียนของนักเรียนไปผูกติดกับการเลื่อนระดับของครูและผู้อำนวยการโรงเรียน (ซึ่งดูเหมือนดีและเหมาะสม) ปัญหาคือ ถ้านักเรียนสอบไม่ผ่านเป็นจำนวนมาก ผลงานของครูหรือผู้อำนวยการ ผลงานของ ผอ เขตฯ ก็จะไม่ผ่าน ดังนั้นระดับโรงเรียน วิธีการง่ายที่สุดคือ ผอ โรงเรียน จะสั่งการให้เขี่ยให้นักเรียนสอบผ่านทุกคน ไม่มีตก อ้างปรัชญาโน่นนี่ ครูก็พอใจ ไม่ต้องมาสอนซ่อมตอนปิดภาคเรียน ท่าน เขตฯ ก็พอใจที่รายงานจำนวนนักเรียนในความรับผิดชอบว่าไม่มีใครไม่ผ่าน สอดคล้องกับ ผลการสอบ NT ที่มีข้อมูลว่าสอบผ่านเป็นจำนวนมาก (ข้อเท็จจริงที่รู้มาคือ บางเขตฯ เอาข้อสอบ NT ให้โรงเรียนไปฝึกให้นักเรียนทำล่วงหน้า) การเสนอผลงานโดยวิธีการถ่ายคลิปวีดีโอการสอน นั้น มีใครที่ถ่ายทำครั้งเดียวผ่าน แสงมากไป เเสงน้อยไป เสียงเบาไป ดังไป ก็ต้องทำใหม่จนนักเรียน สะอิดสะเอียน เพราะต้องเรียนซ้ำๆหลายชั่วโมงเนื้อหาเดียวกัน เนื้อหาวิชาอื่นๆก็ต้องทิ้งไปเพราะเรียนไม่ทัน

แนวคิดในเรื่องการจัดการศึกษายุคปัจจุบัน เป็นที่ถูกใจนักเรียนมาก เพราะเด็กๆ รู้อยู่แล้วว่า “เรียนหรือไม่เรียนก็ถูกเขี่ยให้ผ่าน แน่นอน ” อย่างนี้จะเรียนทำไม หนีเที่ยวสิครับ

ที่น่าแปลก และน่าโมโห คือ “เรื่องที่รู้ทั้งรู้ เห็นเด่นชัดว่าทำร้ายการจัดการศึกษา” คือการยัดเยียดโครงการต่างๆ ให้โรงเรียนทำ และติดตามขอทราบรายงานและเอกสารหลักฐานร่องรอย ไม่ว่าจะโรงเรียนสีต่างๆ โรงเรียนในฝัน โรงเรียนดีใกล้บ้านโรงเรียนสุจริต (แต่ทุจริตเชิงนโยบายเพราะเบียดเบียนเวลานักเรียน) ฯลฯ โครงการที่ทำให้ครูต้องทิ้งเด็ก ทิ้งห้องมาทำรายงาน

เห็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางการศึกษาไทยหรือยังครับ
“การเปลี่ยนให้ศึกษาธิการจังหวัดมาบริหารจัดการศึกษา แทนเขตพื้นที่ การศึกษาจะดีขึ้นจริงหรือครับ”

“คันที่ก้น แต่ไปเกาที่คอ” แล้วจะหายคันหรือครับ

รัชชัยย์ ศรสุวรรณ
นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา

1 ธันวาคม 2567
……………………………………………………………………… 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เขตพท.การศึกษา vs ศึกษาธิการจังหวัด…จะไปทางไหน
https://www.matichon.co.th/columnists/news_4921366

 

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


ปัญหาการศึกษาไทย ....แก้ไขง่าย ใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ) โดย รัชชัยย์ ศรสุวรรณปัญหาการศึกษาไทย....แก้ไขง่ายใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ)โดยรัชชัยย์ศรสุวรรณ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

เดินหน้า ปฏิรูปการศึกษา 2559

เดินหน้า ปฏิรูปการศึกษา 2559

เปิดอ่าน 8,851 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
เปิดอ่าน 31,005 ☕ คลิกอ่านเลย

บทบาทผู้นำองค์กร 2020
บทบาทผู้นำองค์กร 2020
เปิดอ่าน 8,842 ☕ คลิกอ่านเลย

เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 16 เม.ย. 58 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดอ่าน 9,518 ☕ คลิกอ่านเลย

ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 35,454 ☕ คลิกอ่านเลย

การศึกษาไทย เราโง่อย่างมีหลักการ
การศึกษาไทย เราโง่อย่างมีหลักการ
เปิดอ่าน 28,887 ☕ คลิกอ่านเลย

ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
เปิดอ่าน 11,416 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
เปิดอ่าน 18,645 ครั้ง

สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
เปิดอ่าน 10,294 ครั้ง

ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
เปิดอ่าน 12,181 ครั้ง

วีดีทัศน์หลักเกณฑ์ตาม ว7/2558 (เกณฑ์ PA)
วีดีทัศน์หลักเกณฑ์ตาม ว7/2558 (เกณฑ์ PA)
เปิดอ่าน 13,959 ครั้ง

เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป
เปิดอ่าน 27,921 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ