ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2563


ข่าวการศึกษา 26 พ.ย. 2563 เวลา 17:05 น. เปิดอ่าน : 14,341 ครั้ง
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2563

Advertisement

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2563 วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2563 โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้

1. เห็นชอบ กรอบการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง จากเดิม ก.ค.ศ. ได้กำหนดให้การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เป็นการพัฒนาผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่งหลังจากที่ได้ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาฯ นี้แล้ว พบว่าวิธีการพัฒนาในรูปแบบเดิมเน้นการบรรยายมากกว่าการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง รวมถึงใช้ระยะเวลาการพัฒนาและงบประมาณค่อนข้างมาก ไม่ทันต่อความจำเป็นที่จะได้บุคลากรในตำแหน่งที่มีความสำคัญของหน่วยงานมาปฏิบัติงาน

เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ในเรื่องของการศึกษายกกำลังสองสู่ความเป็นเลิศ และเป็นการพลิกโฉมการศึกษาไทย ก.ค.ศ. จึงได้กำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก ให้มีทักษะพื้นฐาน ได้แก่ ทักษะภาษาไทย ทักษะภาษาอังกฤษ และทักษะดิจิทัล และให้มีความพร้อมในทักษะที่จำเป็นและสมรรถนะที่เหมาะสมตามมาตรฐานตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการพัฒนาก่อนการคัดเลือกแล้วจะเป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งได้ทันที โดยกรอบการพัฒนาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้

กระบวนการที่ 1 Self Development (การพัฒนาตนเอง) ให้มีการเรียนรู้ทักษะภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ดิจิทัล และทักษะที่จำเป็นตามมาตรฐานตำแหน่งและสมรรถนะสำหรับตำแหน่ง ผ่านศูนย์ HCEC/DEEP หรือช่องทางอื่นตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ส่วนราชการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจัดเตรียมงบประมาณ อุปกรณ์ เครื่องมือ สถานที่และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน และรับรองวุฒิบัตรหรือใบรายงานผลการประเมิน

กระบวนการที่ 2 Screening (การคัดกรอง) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถนำวุฒิบัตรหรือใบรายงานผลการประเมินไปใช้เป็นคุณสมบัติสำหรับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งภายในระยะเวลาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

กระบวนการที่ 3 Selection (การคัดเลือก) ให้ส่วนราชการ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก เกณฑ์และวิธีการประเมินให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทั้งนี้ ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละส่วนราชการ ส่วนการกำหนดองค์ประกอบ ตัวชี้วัด ให้ส่วนราชการ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง กำหนด

กระบวนการที่ 4 Probation (การประเมินสัมฤทธิผลฯ) ให้ผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งได้รับการ Coaching and Mentoring จากผู้ทรงคุณวุฒิหรือวิทยากรพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ และการฝึกปฏิบัติงานหรือการลงพื้นที่จริงเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรมที่เหมาะสมกับตำแหน่ง และมีกรรมการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

2. เห็นชอบหลักการของ (ร่าง) เกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ.

เนื่องจากสภาพปัญหาที่พบในปัจจุบัน โรงเรียนขนาดเล็กมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำลังของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนรู้ รวมถึงเกณฑ์ฯอัตรากำลังเดิม ได้ใช้จำนวนนักเรียนเป็นปัจจัยในการกำหนด ทำให้ไม่สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเกณฑ์อัตรากำลังฯ ขึ้นใหม่ เพื่อให้โรงเรียนขนาดเล็กมีอัตรากำลังที่เหมาะสม สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงไปสู่การวางแผนผลิต สรรหา และพัฒนาครูในอนาคต รวมถึงการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และการลดภาระงานธุรการของครู ซึ่งจะทำให้ครูมีเวลาในการจัดการเรียนการสอนได้เต็มที่ และเกิดประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณซึ่งเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ. ใหม่นี้ มีกรอบแนวคิดตามนโยบายยกระดับคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก การบริหารอัตรากำลัง ที่คำนึงถึงมิติเชิงปริมาณและมิติเชิงคุณภาพ

มิติเชิงปริมาณ

1. โรงเรียนขนาดเล็กมีครูอย่างน้อย 4 คน (ครูประถมศึกษา ครูภาษาไทย ครูคณิตศาสตร์ และครูปฐมวัย หรือ ครูภาษาอังกฤษ)
2. ใช้ Work Load (ชม.สอน และ ชม.เรียน) เป็นปัจจัยการกำหนดอัตรากำลัง
3. มีอัตรากำลังบุคลากรสายสนับสนุนการศึกษาที่เหมาะสม
4. แผนพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพโรงเรียนขนาดเล็ก (ปี 2563 – 2565)

มิติเชิงคุณภาพ

1. ตอบโจทย์นโยบายการศึกษายกกำลังสอง
2. เด็กมีทักษะในการอ่าน เขียน (Literacy) และการคิดวิเคราะห์ (Numeracy)
3. ลดงานธุรการของครู / คืนครูสู่ห้องเรียน
4. เชื่อมโยงไปสู่การวางแผนผลิต สรรหา และพัฒนาครูในอนาคต และศูนย์ HECE
5. โรงเรียนขนาดเล็กมีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนสูงขึ้น
6. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

โดยที่ประชุมได้ให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการปรับรายละเอียดของ (ร่าง) เกณฑ์อัตรากำลังดังกล่าว ให้เกิดความครอบคลุม ตามข้อเสนอแนะของที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง

3. เห็นชอบ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภททั่วไป เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ

เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ขออนุมัติกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภททั่วไป เป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ เพื่อเป็นการส่งเสริมความก้าวหน้าให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภททั่วไป ที่ปฏิบัติงานมาเป็นเวลานาน แต่ขาดความก้าวหน้าในการรับราชการและเพื่อประโยชน์ของทางราชการที่จะได้บุคคลที่มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่ง และตรงกับความต้องการของหน่วยงานการศึกษา หรือส่วนราชการมาปฏิบัติงาน

ก.ค.ศ. เห็นว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมความก้าวหน้าให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภททั่วไป และเพื่อประโยชน์ของทางราชการจึงเห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภททั่วไป เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ เพื่อใช้กับหน่วยงานการศึกษาและส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยสรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ได้ ดังนี้

1. ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก

2. ผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือกต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในหน่วยงานการศึกษาในสังกัดส่วนราชการนั้น

3. ผู้สมัครมีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือกได้เพียงตำแหน่งเดียวและหน่วยงานการศึกษาเดียว

4. ให้ส่วนราชการ หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งแล้วแต่กรณี ดำเนินการกำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการคัดเลือก กำหนดสัดส่วนจำนวนตำแหน่งว่างเพื่อใช้ในการคัดเลือก

5. การคัดเลือก แบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

6. ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องได้คะแนนในแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบ

7. ประกาศผลการคัดเลือกตามตำแหน่งว่างของแต่ละหน่วยงานการศึกษา หรือส่วนราชการ โดยเรียงตามประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกของแต่ละหน่วยงานการศึกษา หรือส่วนราชการ โดยเรียงลำดับจากผู้ได้คะแนนรวมทุกภาค จากมากไปหาน้อย

8. การบรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งเรียกตามลำดับที่ให้ครบตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัคร โดยไม่มีการขึ้นบัญชี สำหรับการให้ได้รับเงินเดือนให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิม

9. กรณีไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ได้ ให้เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา

4. อนุมัติให้แก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)

เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอแก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. (ว 27/2555) ซึ่งเดิม กำหนดให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสอบ หรือรวมเขตพื้นที่การศึกษาในภูมิภาคเดียวกัน โดยระบุเขตพื้นที่การศึกษาแล้วมอบ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาใดเขตพื้นที่การศึกษาหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการสอบ ทั้ง 3 ภาค ประกอบกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 16/2560 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560 กำหนดให้ ก.ค.ศ. เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และในกรณีที่ ก.ค.ศ. เห็นสมควรจะมอบหมายให้ กศจ. อ.ก.ค.ศ. ซึ่ง ก.ค.ศ. ตั้ง ส่วนราชการหรือหน่วยงานการศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน โดย สพฐ. ได้ให้ความเห็นว่าเพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาขอกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความเป็นเอกภาพ พร้อมทั้งเกิดประโยชน์สูงสุด จึงขอแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ดังกล่าวโดยกำหนดให้ส่วนราชการต้นสังกัดเป็นผู้กำหนดวันเวลาการสอบแข่งขันเท่านั้น ส่วนการดำเนินการสอบแข่งขันมอบให้ กศจ. ดำเนินการ

ก.ค.ศ. พิจารณาเห็นว่าเพื่อประโยชน์ของทางราชการจึงอนุมัติให้แก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข โดยในการนี้มอบให้ สพฐ. ซึ่งเป็นส่วนราชการต้นสังกัดเป็นผู้กำหนดนโยบายและดำเนินการสอบแข่งขัน รวมถึงการกำหนดวัน เวลาในการสอบแข่งขันและการเรียกผู้สอบแข่งขันได้มารายงานตัว ตลอดจนการดำเนินการจัดทำข้อสอบ ตรวจ ประมวลผลการสอบ กำหนดวิธีการสอบ การขึ้นบัญชี การยกเลิกบัญชี และการรับโอนผู้สอบแข่งขันได้เพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. (ว 27/2555)

5. เห็นชอบ การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการนำบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย

ซึ่งเดิม ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 5/2561) โดยหลังจากการสอบคัดเลือกแล้วหากต้องการนำบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่นฯ ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการนำบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 8/2561) และต่อมา ก.ค.ศ. ได้ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 5/2561) และประกาศให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 14/2563) แทน จึงต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการนำบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย ใหม่ เพื่อใช้แทนหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 8/2561 เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความคล่องตัวในการดำเนินการขอใช้บัญชี ซึ่ง ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นควรปรับปรุงเฉพาะประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ โดยตัดข้อความในข้อ 2 วรรคสอง ของหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 8/2561 ที่กำหนดว่า “ทั้งนี้ การบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้จากการขอใช้บัญชีให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่บัญชีเดิมจะครบอายุการขึ้นบัญชี” ออก แล้วปรับการเขียนข้อ 4.3 และ 4.5 ดังนี้

ข้อ 4.3 “เมื่อสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือส่วนราชการ ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ที่จัดลำดับที่เอกสารหลักฐานการสมัครสอบแข่งขัน หนังสือสอบถามความสมัครใจ และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้สมัครใจ จากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือส่วนราชการ ที่ส่งรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้แล้ว ให้รายงาน กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง พิจารณาให้ความเห็นชอบและประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ โดยบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ที่ประกาศใหม่ ให้มีอายุการขึ้นบัญชีเท่ากับบัญชีเดิม...”

ข้อ 4.5 “ให้ใช้ประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ เป็นการเรียกตัวผู้สอบแข่งขันได้มารายงานตัวเพื่อบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ โดยต้องกำหนดให้ผู้สอบแข่งขันได้มารายงานตัวเพื่อบรรจุและแต่งตั้งไม่หลังวันที่บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครบอายุการขึ้นบัญชี และให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ดำเนินการบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่ง ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว …”

6. อนุมัติ แต่งตั้งอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญฯ ที่พ้นจากตำแหน่ง ก่อนครบวาระ รวม 21 ตำแหน่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ดังนี้

1. อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญฯ แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 7 คณะ รวม 12 คน

2. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ส่วนราชการเสนอเป็นอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ แทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 9 คณะ รวม 11 คน 

 

ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ.


ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2563ผลการประชุม ก.ค.ศ.ผลประชุม ก.ค.ศ.ประชุม ก.ค.ศ.ผลการประชุม กคศผลประชุม กคศ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ

เปิดอ่าน 1,482 ☕ 25 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567
เปิดอ่าน 4,186 ☕ 26 เม.ย. 2567

รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
รายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 648 ☕ 26 เม.ย. 2567

สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
สพฐ.แจ้งการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ. 2567 สมัครสอบทางออนไลน์เพียงรูปแบบเดียว
เปิดอ่าน 1,330 ☕ 25 เม.ย. 2567

ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" ปีที่ 18 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประเทศ)
เปิดอ่าน 694 ☕ 25 เม.ย. 2567

การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมราชการ
เปิดอ่าน 1,482 ☕ 25 เม.ย. 2567

แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
แนวทางการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินเพื่อประโยชน์การศึกษา โครงการ "สุขาดี มีความสุข"
เปิดอ่าน 1,111 ☕ 25 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
"พอล"หมึกยักษ์..นักทำนาย ต้นตระกูลกำเนิดยุคแคมเบรียน
เปิดอ่าน 10,645 ครั้ง

คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี
เปิดอ่าน 19,197 ครั้ง

"โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
"โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
เปิดอ่าน 55,607 ครั้ง

วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม
วิธีนี้ดีนะ..คณิตฯ ประถม ลบเลขไม่ต้องยืม
เปิดอ่าน 51,096 ครั้ง

แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม
แบบเรียนที่ไม่ได้มีไว้เลียนแบบ : นิ้วกลม
เปิดอ่าน 9,699 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ