Advertisement
บางที..ผมสวยบนศีรษะของคุณอาจมาจากเวียดนาม?! |
|
|
|
เวียดนามส่งออกเส้นผมปีละนับสิบตัน ประเทศไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับสองรองจากจีน คุณสุภาพสตรีที่ใส่วิกผมหรือไปต่อเส้นผม อาจจะได้ใช้ผมสวยของหญิงสาวจากเวียดนามก็เป็นได้
|
|
|
|
-- ยังไม่มีสถิติอย่างเป็นทางการและอาจจะไม่สามารถหาได้ว่า ในแต่ละปีมีเส้นผมของหญิงสาวจากเวียดนามนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยปริมาณเท่าไร แต่เป็นที่แน่ชัดว่าได้มีการนำเข้าสินค้าชนิดนี้มาหลายปีแล้ว คู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจเสริมความสวยความงาม
ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม ประเทศไทยเป็นปลายทางใหญ่อันดับสองของ "เส้นผม" ปริมาณนำเข้าของตลาดนี้ น้อยกว่าจีน แต่มากกว่าสหรัฐฯ และ ธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับสตรีเวียดนามหลายหมื่นหรืออาจจะนับแสนคนในแต่ละปี
หนังสือพิมพ์เหงือยลาวด่ง (Nguoi Lao Dong) หรือ "คนงาน" กล่าวว่า ทุกคนจะแปลกใจหากได้รู้ความเป็นมาและเป็นไปของเส้นผมสวยเหล่านั้น
หลังจากถูกตัดเพื่อขายจากหมู่บ้านเดียวกัน จำนวนหนึ่งอาจจะส่งไปทำเป็นผมสวยให้กับดาราฮอลลีวูดในสหรัฐฯ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปยังร้านทำผมที่อยู่ในถิ่นทะรุกันดารที่สุดในแผ่นดินใหญ่จีน หรือ ไปร้านแฮร์ดูระดับหรูในย่านสยามเซ็นเตอร์ของกรุงเทพฯ
ธุรกิจเส้นผมสร้างงานให้กับคนจำนวนไม่น้อย เหนื่อยในการออกค้นหา แต่ผลงานของพวกเธอพวกเขาคุ้มค่า
สาวใหญ่ผู้ค้าเส้นผมในนครโฮจิมินห์คนหนึ่ง สะพายกระเป๋าเป้เข้าไปในร้านค้าแฮร์ซาลอนแห่งหนึ่งของโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์รับซื้อ เธอบอกว่าในกระเป๋าเป็นเส้นผมความยาวตั้งแต่ 50-70 เซนติเมตร รวมน้ำหนัก 10 กิโลกรัม รวมราคาระหว่าง 40-50 ล้านด่างหรือ 2,200-2,800 ดอลลาร์
ผู้ค้ารายนี้กล่าวว่า เมื่อไปถึงตลาดสหรัฐฯ ราคาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านด่งต่อ กก.
แต่ธุรกิจนี้ใช่ว่าจะไม่มีการลงทุน กว่าจะได้มาทั้งหมดนี้ผู้ค้าต้องออกตระเวนซื้อทางภาคกลางตอนบนกับภาคเหนือของประเทศ และซื้อผ่านเอเย่นต์อีกหลายคน คนเหล่านั้นจะมีสายติดต่ออีกหลายทอด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพราะหญิงสาวในเวียดนามไม่ได้ต้องการขายเส้นผมของตัวเองไปทุกคน และ จะต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือนานนับปีกว่าจะได้เส้นผมที่ยาวสลวยตามความต้องการ
ผู้ค้าหลายรายเห็นพ้องกันว่า เส้นผมจากทางภาคกลางตอนบนกับภาคเหนือของประเทศเป็นที่ต้องการมากที่สุด เนื่องจากมีความละเอียด อ่อนนุ่ม เส้นผมขนาดยาวได้ที่จะได้ราคา 3.5-5 ล้านด่งต่อ กก. (17,400 ด่ง/ดอลลาร์)
**เส้นผมสำหรับส่งออก**
ตามรายงานของสื่อทางการ เส้นผมที่รับซื้อเอาไว้จะถูกนำไปแช่น้ำเป็นเวลานานๆ ทำความสะอาดจนหมดจดด้วยยแชมพูเช่นเดียวกันเส้นผมที่ยังอยู่บนศีรษะหรือใช้สารซักฟอกที่มีฤทธิ์อ่อนๆ จนกระทั่งแน่ใจว่าสะอาด ก่อนจะส่งออกจำหน่าย และเมื่อถึงปลายทางจะมีการทำความสะอาดอีกหลายขั้นตอน
ผู้ค้ายืนยันว่า จะไม่มีการใช้เส้นผมจากศพคนตายอย่างเด็ดขาด เพราะว่านั่นเป็นการล่วงละเมิดทางศีลธรรมและจรรยาอย่างสูงสุด ขณะที่เส้นผมทั้งหมดจะนำไปใช้ประโยชน์สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่
เส้นผมที่เตรียมส่งออกจะถูกคัดเป็นเกรดตามคุณสมบัติ ความอ่อนนุ่มและสุขภาพของเรือนผม มัดรวมเป็นปอยๆ ราคาลดหลั่นกันลงไปตามคุณภาพ ทั้งหมดนั้นไปจากหญิงสาวนับพันจากทั่วประเทศ ก่อนจะนำลงบรรจุกล่องกล่องนับพันๆ กล่องในแต่ละเดือน
ในแต่ละปีตลาดจีน ไทยและสหรัฐฯ จะใช้เส้นผมยาวของหญิงสาวจากเวียดนามนับสิบๆ ตัน ผู้ค้าจะมี่บริษัทในนครโฮจิมินห์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นศูนย์การรับซื้อใหญ่ที่สุด และมีเที่ยวบินเชื่อมปลายทางต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนั้นผู้ค้ายังจะต้องมีบริษัทหรือสำนักงานที่ตลาดปลายทางอีกด้วย
ผู้ค้ากล่าวกับหนังสือพิมพ์ของทางการว่า ตลาดสหรัฐฯ พิถีพิถันมากกว่าแห่งอื่นๆ ที่นั่นมองหาแต่เส้นผมระดับคุณภาพชั้นหนึ่ง แต่ก็จ่ายให้สูงกว่าตลาดไทยและจีน
"เส้นผมจากเวียดนามถูกส่งไปประเทศไทยมากกว่าไปสหรัฐฯ แต่ยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ กับไทยก็ยังนับว่าน้อย หากเทียบกับที่ส่งไปจีน" นายหาย (Hai) ที่มีประสบการณ์เรื่องนี้มานานสิบปีกล่าวกับเหงือยลาวด่ง
ผู้ค้ารายนี้กล่าวอีกว่า จีนรับซื้อผมทุกระดับคุณภาพ ตั้งแต่เลวที่สุดจนถึงดีที่สุด "เราต้องงส่งเส้นผมขึ้นเหนือทุกวันที่ 8, 28 และ 28 ของเดือน เพื่อส่งต่อเข้าจีน ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละเดือนจะมีหญิงสาวในเวียดนามนับพันๆ คนสูญเสียเส้นผมไป"
ผู้ค้ารายเดียวกันนี้กล่าวอีกว่า ตัวเขาเองคนเดียวส่งออกเส้นผมเดือนละกว่า 100 กก. ธุรกิจนี้หล่อเลี้ยงคนอีกหลายกลุ่ม นอกจากเจ้าของเส้นผมแล้ว ก็ยังมีเอเย่นต์ที่ออกรับซื้ออีกนับพันคนเช่นกัน
แต่ก็ใช่ว่า ธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูนี้จะไม่มีต้นทุนทางสังคม
ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์เจิ่นหง็อกเทียม (Tran Ngoc Thiem) แห่งคณะวัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ นครโฮจิมินห์ ได้แสดงความเป็นห่วงว่า วัฒนธรรมผมยาวที่หญิงสาวในเวียดนามชื่นชอบมานานนับศตวรรษ อาจจะค่อยๆ เลือนหายไป
การตัดเส้นผมขายของหญิงสาว อาจจะส่งผลทำให้ค่านิยมดั้งเดิมค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ. |
|
วันที่ 11 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,380 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,171 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,169 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,297 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,213 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,156 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,153 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,197 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,179 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 53,704 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,185 ครั้ง |
เปิดอ่าน 63,804 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,632 ครั้ง |
เปิดอ่าน 7,809 ครั้ง |
|
|