Advertisement
ถ้าโลกนี้มีคนเพียงหนึ่งร้อยคน เชื่อว่าจะมีถึงเจ็ดสิบคนที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ...
คำกล่าวนี้ไม่ได้เกินความจริงเลย เมื่อมีการสำรวจและค้นพบว่า ร้อยละ 70 ของประชากรโลกเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มสีเข้มนี้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของโลก
อะไรเล่าที่ทำให้กาแฟร้อยรัดดวงใจของคนจำนวนมหาศาล ให้ตกอยู่ใต้มนต์ของกลิ่นกรุ่น รสขมสุขุมและม่านไออุ่นที่ลอยอวลเหนือขอบถ้วยอย่างไม่อาจถอนใจได้
ตั้งแต่ราชา จนถึงยาจก ตั้งแต่รัฐมนตรี จนถึงยามเฝ้าบริษัท ตั้งแต่คีตกวีเรืองนาม จนถึงบุคคลที่โลกไม่รู้จัก ตั้งแต่ดอยสูงเสียดฟ้า จนถึงรถเข็นในเมืองใหญ่ บนโลกที่หมุนรอบตัวในแต่ละวัน ชีวิตของเราด้วยหรือเปล่าหนอ... ที่อาบด้วยเสน่ห์และมนตราแห่งเครื่องดื่มสีเข้มขลังนี้ ในทางใดทางหนึ่ง...
เรื่องราวของกาแฟ ถูกกล่าวว่าเป็น ชีวประวัติที่น่าค้นหา มหัศจรรย์ เป็นบันทึกการผจญภัยในเชิงศาสตร์และศิลป์ที่น่าทึ่ง...
1.
บันทึกของโลก กล่าวถึงมนต์ขลังของกาแฟ ว่ากันว่า กาแฟถือกำเนิดขึ้นในดินแดนอันเหลือเชื่อนาม “เอธิโอเปีย” ประเทศที่เต็มไปด้วยผืนดินแห้งกร้าน แต่ก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่นั่น!
เมื่อเมล็ดกาแฟงอกเงยขึ้นครั้งแรก ณ ประเทศเอธิโอเปีย หากแต่สิ่งมีชีวิตแรกที่ได้ลิ้มลองกาแฟนั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่กลับเป็นฝูงแกะที่ออกอาการกระโดดโลดเต้นทุกครั้ง ยามที่คนเลี้ยงแกะคือนายคาลดี (Kaldi) ปล่อยมาหาอาหาร อาการของฝูงแกะหลายตัว ทำให้คาลดีสงสัยยิ่งนัก จึงเฝ้าสังเกตการณ์ แล้วก็พบว่าสิ่งที่ทำให้ฝูงแกะของเขาคึกคักขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา คือ ลูกไม้ช่อเล็กๆ สีแดงสดใส ด้วยสีสันอันสุกปลั่งเย้ายวนใจ และด้วยความกระหายใคร่รู้ ก็ยั่วยุให้คาลดีตัดสินใจทดลองชิมดูบ้าง
...ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้รู้ว่าเหตุใดบรรดาฝูงแกะ จึงกระปรี้กระเปร่าและคลั่งไคล้ลูกไม้ชนิดนี้นัก เพราะตัวเขาเองก็สดชื่นทุกครั้ง เมื่อได้ลิ้มลองเจ้าลูกสีแดงชนิดนี้เช่นกัน
จากปากต่อปาก ไม่นานข่าวการค้นพบลูกไม้มหัศจรรย์ก็แพร่กระจายไปทั่ว ด้วยรสชาติและคุณสมบัติที่ร่ำลือกันว่าเยี่ยมสามารถปลุกเร้าและกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า มีเรื่องเล่าว่ามีนักบวชนาม “ชาเดลี” (Chadely) ผู้กำลังแสวงหาวิธีการขจัดความง่วงเพลียในเวลาที่ประกอบพิธีสวดมนต์เกิดสนใจ ลองนำผลไม้เล็กๆสีแดงสดนั้นมาตากแห้ง กะเทาะเปลือกออก แล้วนำเมล็ดข้างในไปคั่ว บด ชงกับน้ำร้อนดื่ม ซึ่งได้สร้างความแปลกประหลาดใจ และกลายเป็นจุดเริ่มของเครื่องดื่มสีเข้มชนิดนี้
ความมหัศจรรย์ของกาแฟได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ความนิยมได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว ต้นกาแฟ กลายเป็นพืชพันธุ์ล้ำค่า จนกระทั่งในศตวรรษที่ 16 เมื่อนายบาบา บูดาน (Baba Budan) ได้เพาะต้นกล้ากาแฟขึ้นมา และลักลอบแจกจ่ายให้พ่อค้าชาวดัตช์ เพื่อนำไปปลูกที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ต้นกล้ากาแฟรุ่นนี้ถือเป็น “กล้ากาแฟชุดแรก” ของยุโรปในเวลาต่อมา
2.
เมื่อกาแฟเดินทางไปถึงยุโรป เครื่องดื่มรสเข้มชนิดนี้ ได้สร้างความรู้สึกแปลกใหม่บนปลายลิ้นของผู้ที่ได้ลิ้มลอง จนถูกขนานนามว่า “A Drink from Paradise…Available on Earth”
ไม่นานนัก น้ำสีน้ำตาลรสเข้ม ได้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในยุโรป ในปี ค.ศ.1554 ธุรกิจร้านกาแฟ เกิดขึ้นครั้งแรกที่กรุงสแตนติโนเปิล ที่นั่นถือเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของนักนิยมศิลปะ และวรรณกรรม ณ เวลานั้นผู้คนต่างเรียกร้านแห่งนี้ว่า Qahweh Khaneh ( แหล่งปัญญาหรือ School of Wisdom)
ขณะที่ร้านกาแฟร้านแรกในอังกฤษ เปิดตัวที่เมืองออกซฟอร์ด ในปี ค.ศ.1650 หลังจากนั้นอีก 2 ปี ก็มีร้านกาแฟเล็กๆ เปิดบริการมากมายทั่วกรุงลอนดอน เรียกกันว่า Penny Universities เนื่องจากค่ากาแฟมีราคาถ้วยละ 1 เพนนี และภายในร้านจะมีกล่องทองเหลืองสลักคำว่า To Insure Promptness (เพื่อความทันใจ) เพื่อให้บรรดาลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อยเป็นสินน้ำใจแลกกับการบริการที่รวดเร็วและดีเยี่ยม ต่อมาวลีนี้ถูกย่อสั้นๆ ให้เหลือแค่อักษรตัวแรกของแต่ละคำ คือ TIP และคำนี้เองเป็นที่มาของคำว่า ทิป (Tip) ที่ใช้กันจนถึงปัจจุบัน
มีบันทึกที่น่าสนใจกล่าวไว้อีกว่า ปี ค.ศ.1683 กองทัพตุรกีเข้าล้อมกรุงเวียนนา แต่ไม่สามารถตีกรุงเวียนนาแตกได้ จนต้องยกทัพกลับ ทิ้งไว้แต่เมล็ดกาแฟ เป็นที่มาของร้าน Blue Bottle ร้านกาแฟแห่งแรกของกรุงเวียนนาที่มีเจ้าของชื่อโคลชิตสกี (Kolchitzky) ผู้คิดค้นการกรองกาแฟบด และการดื่มกาแฟแบบหวานๆใส่นมและน้ำตาล
วิวัฒนาการของกาแฟ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 คอกาแฟยุโรปเริ่มผสมช็อกโกแลตในกาแฟ เพื่อให้เกิดกลิ่นรสที่พิเศษขึ้น
ขณะที่ตำนานในหน้าประวัติศาสตร์การเติมน้ำตาลในกาแฟครั้งแรก เชื่อกันว่าเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1715 เมื่อชาวดัตช์ถวายต้นกาแฟแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส และมีการดื่มกาแฟใส่ น้ำตาลเป็นครั้งแรกในพระราชสำนักของพระองค์
ปี ค.ศ.1901 วิวัฒนาการกาแฟสำเร็จรูปได้เริ่มขึ้น เมื่อนักเคมีลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ชื่อ ซาโตริ คาโต (Satori Kato) ได้คิดค้นขึ้น และถัดมา กาแฟในรสชาติใหม่ๆกลิ่นผลไม้ สมุนไพรก็เกิดขึ้นในธุรกิจกาแฟที่หลากหลาย
3.
จากทวีปสู่ทวีป ในที่สุดเครื่องดื่มจากสวรรค์ก็เดินทางมายังประเทศไทยในปี พ.ศ. 2447 เมื่อนายดีหมุน ชาวสวนผู้นับถือศาสนาอิสลามเดินทางไปยังเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย แล้วนำเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) จากดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์กลับมาทดลองปลูกในบ้านของตนเอง ที่ตำบลโตลด อำเภอสะบ้าย้อย หัวเมืองสงขลาแห่งสยามประเทศ
แม้กาแฟทั่วโลก จะมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่เป็นที่นิยมในการบริโภคและทางเศรษฐกิจนั้นมีเพียง 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์อาราบิก้า และพันธุ์โรบัสต้า
มีการบันทึกจากพระสารศาสตร์พลขันธ์ (นายเจรินี ) ชาวอิตาลี ซึ่งเข้ามารับราชการในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า กาแฟพันธุ์อาราบิก้า (Arabica) ได้ปลูกครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 ก่อนจะเดินทางสู่ยอดดอยในปี พ.ศ.2521 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในระหว่างเสด็จพระราชดำเนินตรวจเยี่ยมราษฎร ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ด้วยทรงมีพระราชดำริว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟ และที่สำคัญควรปลูกกาแฟในสายพันธุ์ที่แตกต่างจากภาคใต้ แต่นั้นมาจึงมีการสนับสนุนและวิจัยการปลูกกาแฟในประเทศไทยเรื่อยมา
เรื่องราวจากกาแฟ 1 ถ้วย มีมากมายไม่รู้จบ ทั้งที่เป็นเรื่องราวในตำนานเล่าขานจากสมุดบันทึกและเรื่องราวจากอารมณ์ความรู้สึก อเล็กซานเดอร์ โพพ (Alexander Pope) กวีชาวอังกฤษ (ค.ศ.1688-1744) กล่าวว่า “กาแฟทำให้นักการเมืองฉลาดขึ้น และมองทะลุสิ่งต่างๆ ได้แม้เพียงเผยอเปลือกตา”
เรื่องราวของการเดินทางที่แสนยาวไกลของเมล็ดพันธุ์กาแฟ อาจสวยงามและสร้างความสุขไม้แพ้การเดินทางของดวงดาวบนทางช้างเผือก หากแต่ความแตกต่างนั้น ความสุขจากการดูดาวสวยงามต้องรอเวลาค่ำคืน แต่ความสุขจากการดื่มกาแฟนั้นมีได้ทุกเวลา และทุกหนทุกแห่ง เพียงแค่คุณมีกาแฟถ้วยโปรดอยู่ในอุ้งมือ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด
วันที่ 11 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,703 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,171 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,637 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 8,392 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,351 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 42,705 ครั้ง |
เปิดอ่าน 2,766 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,984 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,231 ครั้ง |
เปิดอ่าน 7,937 ครั้ง |
|
|