Advertisement
........มาพิสูจน์กันว่าผีกระสือมีจริงไหม?...จากกล้องวงจรปิดเห็นชัดๆ....ตามไปดู...>>>>
กระสือของจริง จากกล้องวงจรปิด http://www.youtube.com/watch?v=xQipIiIFyyM
ภาพถ่ายติดผีกระสือ
ผีกระสือ มีแทบทุกภาคของเมืองไทย ทางภาคเหนือ เรียกสั้นๆ ว่า ผีสือ ทางภาคใต้เรียกว่า ผีกละ ภาคอีสานเรียกว่า ผีโพง ผีกระสือนี้เชื่อกันว่า เป็นผู้หญิง และชอบเข้าสิงในกายหญิง ชอบกินของโสโครก ลักษณะเป็นดวงไฟแวมๆ ออกหากินในเวลากลางคืน ตามบ้านนอกมีความเชื่อเรื่องผีกระสือนี้มาก ถ้าเห็นแสงวาบๆสีเขียวเป็นดวงโต ก็เข้าใจกันว่าเป็นผีกระสือ และว่ามันไปแต่หัวและตับไตไส้พุง เวลาใครคลอดลูกใหม่ๆ มันได้กลิ่นความเลือดก็จะไปกินหญิงที่คลอดลูกนั้น หรือไม่ก็กินเด็กทารกเสีย ด้วยเหตุนี้จึงเกิดธรรมเนียมเอาหนามพุทรามาสะตรงใต้ถุนเรือนที่มีร่องถ่าย อุจจาระหรือปัสสาวะ เพราะผีกระสือกลัวหนามจะเกี่ยวไส้
ผีกระสือมักเป็นยายแก่มากกว่าสาวๆ นอกจากชอบกินของสดของคาวแล้ว ยังชอบกินอาจม จึงมักเป็นกันตามถานวัด (ส้วม) เมื่อมันกินแล้วก็จะหาที่เช็ดปาก ถ้าเห็นผ้าของใครตากทิ้งไว้ ก็เอาผ้านั้นเช็ดปากเสียเลย เจ้าของผ้า เมื่อเห็นรอยเปื้อนเป็นดวงๆ ก็จะเอาผ้านั้นมาต้มหรือนึ่ง ผีกระสือก็จะรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อนมาก เมื่อทนไม่ไหวก็ต้องมาขอร้องไม้ให้ต้มผ้านั้นอีกต่อไป
มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า คนเป็นกระสือนั้นตายยากตายเย็น เวลาจะตายต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนั้น ไม่ตายได้ง่ายๆ จนกว่าทายาทคนใดรับทายาทเป็นผีกระสือต่อไป โดยรับเอาน้ำลายของกระสือบ้วนใส่ให้ คนที่เป็นผีกระสือจึงจะตาย เรื่องน้ำลายนี้ มักถือกันว่าเป็นของขลังทางภาคอีสานถือกันว่า ถ้าคนเป็นผีปอปถ่มน้ำลายรดถูกใคร ผู้นั้นจะต้องเป็นผีปอป จำพวกเดียวกับผีกระสือของภาคนั้น
ชาวมลายูได้เล่าถึงผีฮัดตูปินังการัน หรือผีกระสือไว้หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งเล่าว่า ครั้งหนึ่ง มีครอบครัวหนึ่งมีอยู่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก คืนหนึ่ง พ่อไปเที่ยวบ้านเพื่อน แม่ได้ใช้น้ำมนต์ทาที่รอบๆคอ สักประเดี๋ยวหนึ่ง คอของหล่อนก็หลุดออกจากตัวลอยไป และก่อนที่สามีจะกลับมา หัวของหล่อนก็จะกลับมาต่อกับร่างตามเดิม เวลาที่หัวลอยไปนั้น มีคนเห็นแสงสีเหลืองที่ลำไส้ และมักจะได้ยินเสียงซู่ๆ ไล่พวกสัตว์ต่างๆ ที่พยายามจะเข้ามารบกวนลำไส้ของหล่อน
คืนหนึ่งขณะที่หล่อนต้องการจะออกหากิน ลูกชายของหล่อนมาเห็นแม่เอาขวดน้ำมันมาทาที่คอ แล้วหัวก็แยกออกจากร่างไป ลูกชายก็ทดลองทำบ้างและชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียวก็ร้องให้คนช่วยเสียงหลง เสียงร้องของเจ้าหนู ได้ยินกันทั่วแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้บ้านนั้น คงปล่อยให้ร้องอยู่จนหัวของแม่ลอยกลับมา เสียงร้องของเด็้กจึงเงียบไป จากนั้นครอบครัวนี้ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ไม่มีใครทราบเรื่องอีกเลย
www.siamzone.com
วันที่ 11 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,133 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,251 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,134 ครั้ง เปิดอ่าน 8,509 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,278 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,156 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 31,258 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,294 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,853 ครั้ง |
เปิดอ่าน 50,674 ครั้ง |
เปิดอ่าน 37,926 ครั้ง |
|
|