ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เล่าเรื่อง "เหล้า" น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,159 ครั้ง
Advertisement

เล่าเรื่อง "เหล้า" น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย

Advertisement

เล่าเรื่อง "เหล้า" น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย
 
"สุรา" หรือที่เรียกกันติดปากว่า เหล้า นั้น เป็นสิ่งผูกพันกับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาเป็นเวลาช้านาน นอกจากข้าวแล้วสุราเป็นหนึ่งในอีกไม่กี่สิ่ง ซึ่งมนุษย์ทุกชาติทุกภาษาคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยอาจย้อนหลังได้เป็นพัน ๆ ปี กล่าวได้ว่า การผลิตสุราเป็นวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้หลังจากมนุษย์รู้จักข้าวและการทำนาแล้ว ทั้งนี้ ก็เพราะสุราชนิดแรกที่มนุษย์ผลิตนั้นมาจากข้าว เท่าที่ปรากฏหลักฐาน มนุษย์รู้จักเอาข้าวมาหมักทำเบียร์เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3,500-4,000 ปี ก่อนคริสต์กาล
    
จากการศึกษาเรื่องราวของสุรา พระไพศาล วิสาโล พบว่า ตั้งแต่อดีตมาจนต้นรัตนโกสินทร์นั้นคนไทยไม่ได้ดื่มสุรานัก โดยนักสังเกตการณ์สมัยพระนารายณ์ อาทิ ลาลูแบร์ แชรเวส และสังฆราชแห่งเบริธ กล่าวเหมือนกันว่า น้ำบริสุทธ์เป็นเครื่องดื่มทั่วไปของชาวสยาม เครื่องดื่มที่รองลงมา คือ น้ำชา ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ควรค่าแก่การต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยม ธรรมเนียมต้อนรับดังกล่าวยังตกทอดมาถึงรัชกาลที่ 4 และ 5 เป็นอย่างน้อย
    
การที่คนไทยไม่นิยมดื่มสุรากัน สาเหตุประการสำคัญ น่าจะมาจากอิทธิพลทางพุทธศาสนา เนื่องจากพุทธศาสนาถือว่าสุรานั้นเป็นโทษควรงดเว้น และในสมัยสุโขทัย พระเจ้าลิไท ได้กล่าวถึงผลร้ายของผู้บริโภคสุราโดยเฉพาะหลังความตายไว้ใน ไตรภูมิพระร่วง อีกทั้ง คำสอนที่อยู่ในวรรณกรรมท้องถิ่นมากมาย เช่น พระยาคำกอง (สอนไพร่) พญาปู่สอนหลาน การะเกด อันเป็นวรรณกรรมอีสาน และวรรณกรรมภาคใต้ ได้แก่ สุทธิกรรม ซึ่งความเชื่อดังกล่าวมีผลต่อค่านิยมหรือมาตรฐานเกี่ยวกับความดี โดยเฉพาะผู้ชายที่ดีนั้น คือคนที่ถือศีล 5 คติดังกล่าวฝังรากลึก ในสังคมไทยเป็นเวลาหลายศตวรรษ
 
ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้กฎหมายตราสามดวง การบริโภคสุราในชนชั้นเจ้านายและขุนนางในอยุธยาเป็นของห้าม ผู้ที่ละเมิดถือว่า "ผู้นั้นทุรยศขบถต่อแผ่นดิน" โดย ตุรแปง ผู้เขียนบันทึกชาวฝรั่งเศส ตั้งข้อสังเกตว่า "เจ้าหน้าที่ในพระราชวังเป็นคนเคร่งครัดที่สุด ที่จะไม่ฝ่าฝืน ใครได้กลิ่นหายใจก็รู้ว่าเขาดื่มเหล้า และถ้ามีหลักฐานว่าเขาดื่มเหล้าก็จะถูกพระเจ้าแผ่นดินลงพระอาญาอย่างหนักและลดตำแหน่งเพราะเชื่อได้ว่าคนที่เมาย่อมปล่อยตัวประกอบอาชญากรรมได้ทุกอย่าง"
     
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ตราพระราชกำหนดใหม่ ให้ลงโทษคนที่ดื่มสุราโดยการถอดออกจากราชการให้เป็นไพร่และสักหน้าผาก จากข้อมูลดังกล่าวอธิบายได้ว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ไม่ใช่วัฒนธรรมของคนไทย อย่างที่ผู้ประกอบการทางธุรกิจแอลกอฮอล์ หรือที่ใครหลาย ๆ คนมักชอบกล่าวอ้างในปัจจุบัน
    
เชื่อกันว่า คนไทยเริ่มดื่มเหล้ากันมากขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีชาวจีนเป็นชาติแรกที่นำสุรากลั่น หรือที่เรียกว่า "เหล้าโรง" เข้ามายังประเทศไทย โดยโรงสุราจะตั้งอยู่ในชุมชนจีนและมีคนจีนผูกขาดทั้งการกลั่นและการขายเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้สุรากลายเป็นสิ่งที่หาบริโภคได้ทั่วไปสำหรับคนไทย
 
การผลิตและจำหน่ายสุราเป็นไปอย่างเสรีไม่มีการเก็บอากรสุราจนกระทั่งสมัยพระเจ้าปราสาททอง ครั้นมาในสมัยพระนารายณ์มีการกำหนดพิกัดอากรสุรา ในสมัยอยุธยาเกิดปัญหาการเก็บอากรสุราโดยรัฐไม่ทั่วถึง รายได้เข้าท้องพระคลังมีไม่มากพอ จึงเกิดระบบเจ้าภาษีนายอากร เพื่อให้เอกชนประมูลสิทธิในการผูกขาดการเก็บภาษีอากรเป็นรายปีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งออกตรวจและจับกุมชาวบ้านที่ต้มเหล้าเอง ซึ่งเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะช่วยควบคุมการผลิตสุราไม่ให้มากเกินไปจนราคาถูกหาซื้อได้ง่าย ทำให้การต้มสุรา กลั่นซบเซาลง มาเริ่มอีกครั้งสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ที่มีการสร้างโรงกลั่นบางยี่ขัน
 
เมื่อครั้น รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย การบริโภคสุรามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีนที่อพยพมาเมืองไทย เพื่อใช้แรงงานทางเศรษฐกิจ เช่น ปลูกพืชเศรษฐกิจ ต่อเรือ ทำเหมือง ตลอดจนสร้างสาธารณูปโภคของรัฐ ทำให้เกิดการขยายตัวของการกลั่นสุรา จนกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้ง หาซื้อได้ง่าย วิธีการจำหน่าย  ทำได้โดยใช้เรือไปตามคูคลอง ต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงบ้านกลุ่มคนจีนเหล่านี้ ซึ่งการแพร่หลายของวิธีการจำหน่ายนี้ ทำให้คนไทยในท้องถิ่นเข้าถึงและซื้อหาสุราได้ง่าย ไม่ต้องรอให้ข้าวเหลือเพื่อมาทำสุราแช่อีกต่อไป
 
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การบริโภคสุราโดยเฉพาะสุรา รัฐบาลเพิ่มขึ้นมาก กล่าวได้ว่า ไม่เคยมียุคใดที่คนไทยบริโภคสุรามากเท่ายุคนี้ สุรากลายเป็นสื่อกลางเข้าสังคม เป็นเครื่องแสดงสถานภาพทางสังคมและฐานะ ความเป็นผู้ใหญ่ รวมถึงความเท่าเทียมกันของหญิงกับชาย โดยมิได้จำกัดอยู่เฉพาะในพิธีกรรมหรือในช่วงเทศกาลและโอกาสพิเศษอีกต่อไป แต่สุราถูกนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มในทุกโอกาส แม้แต่ในงานบุญซึ่งไม่เคยมีการดื่มสุรามาก่อนก็ตาม
 
สงกรานต์ ภาคโชคดี  ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวถึงการบริโภคสุราของไทยว่า คนไทยหันมาบริโภคสุรากันอย่างจริง ๆ จัง ๆ หลังจากที่มีการค้าเสรี เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่เป็นปัจจัย คือ การโฆษณา ซึ่งที่เห็นชัดเจน คือ เบียร์ คนสมัยก่อนไม่กินเบียร์ แต่พอมีการโฆษณา รวมทั้ง ปัจจัยอื่นร่วมด้วย อย่างราคาที่ถูกลง ทำให้ภายในระยะเวลาประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา เบียร์มีการจำหน่ายเพิ่มขึ้นมาถึง 6 เท่า เปลี่ยนให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ดื่มเหล้ามากจนติดอันดับโลก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เคยบันทึกไว้ว่า ประเทศไทยมีการบริโภคสุราติดเป็นอันดับ 5 ของโลกมาแล้ว
 
"แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเหล้า เป็นที่มาของปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องของสุขภาพ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากถึง 60 โรค และร้อยละ 80 ของผู้ป่วยโรคเอดส์ในวัดพระบาทน้ำพุมีสาเหตุมาจากการดื่มสุราแล้วมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย รวมทั้งความรุนแรงในครอบครัว อาชญากรรม และอุบัติเหตุ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง
    
ในเมื่อหลีกเลี่ยงเหล้ากับสังคมกับเทศกาลต่าง ๆ ไม่ได้ เมื่อถามถึงความพอดี จะไม่พูดในเชิงรณรงค์เพราะจะเป็นเหตุ เนื่องจากบริษัทสุราก็ใช้วิธีนี้ เช่น ดื่มอย่างรับผิดชอบ ดื่มอย่างมีสติ แต่จะพูดถึงคนที่ดื่มแล้วมีปัญหาน้อย คือ ดื่มต้องที่เป็นผู้ใหญ่แล้วยิ่งอายุเกิน 25 ปีขึ้นไปจะเป็นการดี และเลือกดื่มเฉพาะงานเป็นค่านิยม ที่ฝืน ที่เลี่ยงไม่ได้หรือไม่มีพลังพอที่จะปฏิเสธได้ เรียกว่าเป็นการดื่มโดยมีเหล้าเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของการสังสรรค์ของโต๊ะอาหาร ซึ่งบุคคลประเภทนี้จะไม่ทำให้การดื่มเหล้าเป็นปัญหา"

สำหรับผู้ที่ดื่มจนเกินพอดี ต้องสร้างความเข้าใจให้กับเขา สร้างค่านิยม ทัศนคติใหม่ให้เกิดขึ้น สิ่งแรกต้องเริ่มจากความรู้  คือ รู้ข้อมูลข่าวสาร รู้โทษภัย และพัฒนามาจน รู้สึก ซึ่งเป็นการตระหนักว่าเหล้ามีโทษมากกว่าคุณและทำให้มีโอกาสที่จะทำในสิ่งที่ผิดพลาด เสียอนาคต เสียชีวิตได้ เมื่อมีความรู้ลงลึกลงไปจะรู้ว่า เหล้าทำลายสติ เพราะเพียงแก้วเดียวก็มีโอกาสเสี่ยงแล้ว จากนั้นจะ รู้สำนึกที่จะเปลี่ยนแปลง ลดลง ซึ่งถ้าใครเลิกได้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับตนเองเป็นอันดับแรก ทั้งต่อสุขภาพและสติปัญญา
 
"เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ควรดื่มอยู่ที่บ้าน อย่าไปซื้อเพิ่มเองถ้าจะซื้อดื่มอีกให้คนที่ไม่ได้ดื่มเหล้าขับไปซื้อให้ และควรดื่มในที่ที่ควรจะดื่ม ไม่ควรออกจากที่เดิมเพื่อไปทำอย่างอื่นต่อ สนุกกันที่บ้านตรงนี้ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น บางชุมชนแก้ปัญหาโดยเก็บกุญแจรถกลุ่มคนที่ดื่มเหล้าถ้าจะซื้ออีกให้คนที่ไม่ได้ดื่มไปซื้อให้ ก็จะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ลง"
 
สงกรานต์
ถือเป็นเทศกาลที่ดีงาม เป็นวันของครอบครัว ผู้สูงอายุ ถือเป็นวันดี ฉะนั้นไม่เข้ากับสิ่งที่เป็นอบายมุข อย่าง เหล้า มีข้อมูลเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าสร้างปัญหามากมาย มานั่งนับคนตายกันปีละเฉลี่ย 500 คน คือ ตายทุก 20 นาที บาดเจ็บทุก 2 นาที มีคนบาดเจ็บประมาณ 5,000 คน ฉะนั้นถ้าเราสามารถป้องกันได้ ลดการดื่มลง หรือดื่มอย่างมีขอบเขตก็จะช่วยลดปัญหาได้ ทั้งยังทำให้วัฒนธรรมดี ๆ กลับคืนมา ถ้าคนมีสติอยู่ก็จะทำสิ่งดี ๆ ด้วยเช่นกัน
 
อย่าให้ "เหล้า" ทำให้เรื่อง "เล่า" ในชีวิตคุณต้อง  สั้นลง!!




ข้อมูลจาก :

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 11 พ.ค. 2552


เล่าเรื่อง "เหล้า" น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย เล่าเรื่องเหล้าน้ำเมาเปลี่ยนนิสัย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ทายนิสัย(อีกแล้ว)

ทายนิสัย(อีกแล้ว)


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
คุณครูที่ผมรัก

คุณครูที่ผมรัก


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
31 ตุลาคม-------->>> "วันฮาโลวีน"

31 ตุลาคม-------->>> "วันฮาโลวีน"


เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
สัจธรรม.....ในที่ทำงาน

สัจธรรม.....ในที่ทำงาน


เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

    จี้  !!! ครูนับแสนคนต้องมีบทบาททำสังคมสันติสุข  นำหลักธรรมในหลวงสร้างสมานฉันท์

จี้ !!! ครูนับแสนคนต้องมีบทบาททำสังคมสันติสุข นำหลักธรรมในหลวงสร้างสมานฉันท์

เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
วิธีเจริญจิตภาวนา (ตามวิธีหลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
วิธีเจริญจิตภาวนา (ตามวิธีหลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
เปิดอ่าน 7,211 ☕ คลิกอ่านเลย

การทำโครงงาน
การทำโครงงาน
เปิดอ่าน 7,170 ☕ คลิกอ่านเลย

Emoticon จากน้อง ...สดใสได้อารมณ์
Emoticon จากน้อง ...สดใสได้อารมณ์
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

ยุทธศาสตร์ "น้ำดีไล่น้ำเสีย"
ยุทธศาสตร์ "น้ำดีไล่น้ำเสีย"
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

     38 % กับความรู้สึกภูมิใจในความเป็นไทยของเด็กไทย  โพลล่าสุด จาก ศธ. ครับ.
38 % กับความรู้สึกภูมิใจในความเป็นไทยของเด็กไทย โพลล่าสุด จาก ศธ. ครับ.
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

อีกหนึ่งโรงแรมที่ติดอันดับ..แพงที่สุดในโลก
อีกหนึ่งโรงแรมที่ติดอันดับ..แพงที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
เปิดอ่าน 34,527 ครั้ง

PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6
เปิดอ่าน 5,856 ครั้ง

แชร์ว่อนเน็ต "บ้านหนูบ่ได้บ้านนอกเด้อ" โดยสาวสวย รักและภาคภูมิใจบ้านเกิด
แชร์ว่อนเน็ต "บ้านหนูบ่ได้บ้านนอกเด้อ" โดยสาวสวย รักและภาคภูมิใจบ้านเกิด
เปิดอ่าน 19,260 ครั้ง

10 ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด
10 ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด
เปิดอ่าน 2,264 ครั้ง

เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เปิดอ่าน 9,753 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ