Advertisement
ศีลส่องใจ.......
|
สะอาดกายไร้ธุลีนิรทุกข์
เจิรญวัยได้สุขทุกสถาน
สะอาดใจไร้ธุลีกิเลสมาร
เจริญสุขทุกกาลนั้นมงคล
สังคมมนุษย์เป็นสังคมที่ดำเนินชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยครั้ง
ที่เราจะเห็นภาพแห่งความขัดแย้ง แย่งอาหารกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันครอง ซึ่งล้วนแต่เป็นความวุ่นวายหม่นหมองที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์อย่างแท้จริง จากความต้องการขั้นพื้นฐานของชีวิตและเรียกร้องสิ่งที่ต้องการจนเกินพอดี อันนำมาซึ่งการย่ำยีบีฑามนุษย์ด้วยการประหัตประหารกัน ด้วยสงครามและความโลภนานา เริงร่าอยู่ในกามารมณ์ นิยมในวาจาว่าร้าย พาใจพากายให้หลงไหลไปกับสุรายาเสพติดและอบายมุขต่างๆ
พระพุทธศาสนาจึงเป็นดุจยาขนานเอกที่จะเสกสรรมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความมืดมิดในใจพาให้พบความสว่างไสวด้วยแสงแห่งปัญญา
เป็นดังสายฝนที่โปรยปรายมาจากฟากฟ้าให้ความเย็นชุ่มฉ่ำใจ ดุจน้ำอมฤตที่หล่อเลี้ยงใจคนทั้งโลก ปัดเป่าทุกข์โศกให้จางหายไปจากใจ ศีลจึงเป็นดังยาคอยบรรเทาไฟ คือ กิเลส ที่เป็นเหตุเผาผลาญกายใจให้ร้อนรน ไม่ใช้สับสนวุ่นวายไปกับปัญหาต่างๆๆ เป็นระเบียบที่ควบคุม กาย วาจา ที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า งามสง่าทุกวัย เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มี ๕ ประการ อันเป็นพื้นฐานที่เป็นระเบียบวินัยของชีวิต เรียกว่า เบญจศีล ดังนี้
๑ เจตนางดเว้นจากการฆ่าสัตว์ อาฆาตพยาบาทเบียดเบียนกัน ในบรรดาความอยาก ความอยากมีชีวิตถือเป็นยอดสูงสุด การมีชีวิตคือการมีโอกาสได้ทุกสิ่งทุกอย่าง การสิ้นชีวิตคือการสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ผลแห่งความโหดร้ายทำลายชีวิต ทำให้อายุสั้น ต้องหมั่นชำระโทสะด้วยธรรม คือเมตตากรุณา ช่วยเหลือเอื้ออาทรกันและกัน
๒. เจตางดเว้นจากการลักทรัพย์ ดำเนินชีวิตด้วยการไม่เบียดเบียนทรัพย์สินและละเมิดกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น ผู้ขโมยทรัพย์ของผู้อื่น แม้จะได้ทรัพย์มา แต่ก็เป็นฝ่ายสูญเสียประโยชน์ คือเสียมนุษย์ธรรมในใจของเรา ปัญญาคือธรรมชาติติดตัวมนุษย์ แต่มนุษย์ไม่ใช่ปัญญาหาเลี้ยงชีพจะมีค่าน่าชื่นชมได้อย่างไร จงใช้สันโดษขจัดความโลภ ประกอบสัมมอาชีวะ มีอาชีพสุจริตยุติธรรมอยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝันและทำการงานนั้นให้ดี่ที่สุด
๓.เจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ความรักเป็นเครื่องยึดโยงให้เกิดความผูกพันเป็นที่สุด แต่ศาตราที่คอยบั่นความรักให้ขาดสะบั้นคือการนอกใจการนอกใจในคู่ครองของตนจึงเป็นอาวุธทำลายความไว้วางใจในครอบครัว เพื่อป้องกันการแตกร้าวในหมูมนุษย์ จงยินดีในครู่ครองของตน ระวังตนไม่ให้ถูกความใคร่ครอบงำ เปลี่ยนจากควาใคร่ในกาม เป็นความใครีในธรรม
๔. เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ คำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ แม้เราจะสามารถโกหกคนได้หลายคน แต่เราไม่อาจโกหกตนเองได้ คนพูดเท็จคือคนทำลายสัจธรรม ผู้ทำลายสัจธรรมย่อมเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ควรพูดแต่คำจริงและไพเราะอ่อนหวาน ก่อประสานประโยชน์แก่ชนทุกหมู่เหล่า
๕. เจตนางดเว้นจากการดื่มสุรา สิ่งมีนเมาและยาเสพติดทุกชนิด สงครามดับชีวิต ยาเสพติดดับอนาคต น้ำเมาทำให้ผู้ดื่มเป็นคนประมาทขาดสติ ขาดการเฝ้าดูตนเอง หลงลืมหน้าที่ของตน มีทั้งความดีที่ตนควรกระทำ น้ำเมาคือตัวการทำลายสติและสมรรถภาพทางจิต ให้เสื่อมโทรามลงไป ควรใช้สติสัมปชัญญะพิจารณาตนเอง เพื่อกำจัด โลภะ โทสะ โมหะให้หมดไป
น้ำฝน น้ำประปา เพียงชำระความสกปรกทางกาย แต่ศีลเป็นดุจน้ำที่ชำระมลทินทางกายวาจาและรดใจให้ชุ่มเย็นไปด้วย
ไม่มีความเย็นใดจะเย็นเทียมเท่าความเย็นแห่งผู้มีศีล ไม่มีกลิ่นใดจะส่งพลังหอมหวลทวนลมและตามลมได้เท่ากลิ่นแห่งศีล ไม่มีอาภรณ์ประดับใด จะทำให้บุคคลงามสง่าได้เท่ากับอาภรณ์คือศีล ไม่มีบันใดก้าวข้ามใดจะสูงส่งเท่ากับบันใดแห่งศีล เพราะศีลคือบันไดที่ยังผู้ปฏิบัติให้ก้าวข้ามสู่สวรรค์และก้าวข้าวสู่ประตูแห่งนิพพานในที่สุด เพราะฉะนั้น พึงชำระศีลให้บริสุทธิ์หมดจด และปัญหาต่างๆ ในสังคมจะหมดไป
มีศีลธรรมนำให้การงานสะอาด
ทั้งสามารถคุมหมู่ให้อยู่มั่น
เป็นหลักครองสังคมอุดมครัน
สถาบันสรรพ์ประชาสาธุการ
(ธรรมะรุ่งอรุณวิถีพุทธ พระครูประทีปธรรมพิมล)
----------------
ขอขอบคุณ เว็บไซต์ วัดยานนาวา
|
วันที่ 9 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,155 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,311 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 2,587 ครั้ง |
เปิดอ่าน 27,219 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,381 ครั้ง |
เปิดอ่าน 21,562 ครั้ง |
เปิดอ่าน 34,918 ครั้ง |
|
|